19 ม.ค. 2021 เวลา 10:25 • ท่องเที่ยว
Ep. 1 : 8,000 บาท 15 วัน 4 ประเทศ แบกเป้ลุยเดี่ยวทดสอบใจตัวเอง ไทย - ลาว - เวียดนาม - กัมพูชา -ไทย ระยะทางกว่า 4,134 กิโลเมตร
2
สวัสดีเพื่อนๆชาว Blockdit ทุกคนนะครับ ขอแนะนำตัวสักเล็กน้อยเนื่องจากเป็นสมาชิกใหม่และเพิ่งเข้ามาเขียนบล็อคเป็นครั้งแรก ผมชื่อ นอร์ธ อายุ 25 ปี เด็กบ้านๆธรรมดาคนหนึ่งที่ชอบเดินทางแบบบ้าระห่ำ ลุยๆเถื่อนๆแบบที่คนอื่นเขาไม่ค่อยทำกันและความฝันของผมคือการพิชิตรอบโลกให้ได้
"พิชิตรอบโลก" แค่คิดเหมือนจะง่าย แต่ถ้าทำจริงคงไม่ง่ายอย่างที่คิด"
ก่อนที่ผมจะไปรอบโลก ผมต้องทำการฝ่าแรงกดดันทางบ้านและแรงกดดันทางสังคมไปให้ได้ก่อน หลังจากนั้นผมต้องทำการบ้านอย่างหนักเพื่อศึกษาหาข้อมูลการเดินทาง เทคนิคต่างๆในการเอาตัวรอด ตลอดจนการหาตังค์เพื่อออกเดินทาง
1
สิ่งสำคัญที่สุดที่ผมจะต้องรู้ให้ได้ก่อนออกไปพิชิตรอบโลกคือ "ใจตัวเอง" ทริปวงกลมจึงเกิดขึ้นมาเพื่อทดสอบใจตัวเอง "ตรูชอบการเดินทางจริงๆรึป่าว?" และ "รอบโลกตรูจะรอดมั้ย?"
ทริปนี้จึงเป็นทริปที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเดินทางรอบโลกของผมมาก หากทริปนี้ไปได้สวยโดยไม่มีอะไรมาสะดุด ทริปรอบโลกน่าจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้
หากเพื่อนๆอยากทราบรายละเอียดการเดินทางเพิ่มเติมสามารถเข้าไปอ่านย้อนหลังได้ในเฟสบุ๊คเพจ : หาตังค์เที่ยวรอบโลก
หรือคลิ๊กลิ้งเพจได้เลยครับ
แบกเป้ลุยเดี่ยวทดสอบใจตัวเองด้วยเงิน 8,000 บาท ระยะเวลา 15 วัน ผ่าน 4 ประเทศ ระยะทางกว่า 4,134 กิโลเมตร ผมตั้งชื่อเส้นทางนี้ว่า
ทริปวงกลม(Circle Trip)
ไทย - ลาว - เวียดนามเหนือ(ฮานอย) - เวียดนาม กลาง(ฮอยอัน) - เวียดนามใต้(โฮจิมินห์) - กัมพูชา - ไทย
เป้าหมายหนึ่งในชีวิตของผมกำลังจะสำเร็จ ใบปริญญาใบแรกรอคอยอยู่แค่อึดใจเดียว เพียงแค่ผ่านการฝึกงานในช่วงต้นปีประมาณ 3-4 เดือนต่อจากนี้ ผมก็จะได้มีอิสระโบยบินอย่างที่ใจต้องการ
 
19 ธันวาคม 2017 วันทดสอบใจตัวเองเดินทางมาถึง เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาท่ามกลางอากาศ 13 องศา ณ บ้านทีมงานที่ผมทำงานอาสาสมัคร อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
แผนการเดินทางทริปนี้ผมคิดมาก่อนล่วงหน้านับปี แต่เมื่อเวลามาถึงช่วงใกล้ออกเดินทาง ผมได้รับข่าวจากพี่ๆทีมงานว่าพวกเขากำลังจะมีคาราวานไปจัดกิจกรรมอ่านนิทานและแจกหนังสือนิทานเล็กๆน้อยๆให้เด็กๆที่เมืองเวียงจันทร์ ประเทศลาว
ด้วยความที่อยากร่วมแจมกิจกรรมที่น่าสนุกแบบนี้ ผมจึงปรับวันเวลาการเดินทางมาให้ตรงกับวันเริ่มออกคาราวาน ซึ่งก็คือวันนี้นี่เอง
คาราวานของพวกเราประกอบด้วยทีมงานมากกว่า 10 คน เหมารถตู้ 2 คัน เดินทางจากปากช่อง - หนองคาย ระยะทาง 450 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง ซึ่งเส้นทางทางบกเส้นทางนี้ สามารถเดินทางได้ทั้งรถบัส รถไฟและรถส่วนตัว
 
การเดินทางด้วยรถบัส มีหลากหลายบริษัทเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นอีสานทัวร์ บุษราคัมทัวร์และบขส.999 ราคาประมาณ 500-600 บาท สามารถเข้าไปเช็ครายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://gds.busx.com/apps/tdcx/ticket_trip_list.php
 
การเดินทางด้วยรถไฟก็มีหลากหลายขบวนเช่นเดียวกัน ตั้งแต่รถไฟเร็วขบวน 133 รถไฟด่วนขบวน 75 และรถไฟด่วนพิเศษขบวน 25 ราคาขึ้นอยู่กับคลาสของแต่ละชั้น ราคาถูกสุดชั้น 3 ประมาณ 200 กว่าบาท (เคยนั่งมาแล้ว) สามารถเข้าไปเช็ครายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์การรถไฟแห่งประเทศไทย http://procurement.railway.co.th/checktime/checktime.asp
1
คืนแรกของการเดินทาง ทีมคาราวานแวะพักที่หนองคาย ซึ่งเป็นบ้านของครูปรีดา ปัญญาจันทร์ นักเขียนและนักเล่านิทานระดับประเทศ ผู้ซึ่งจัดคาราวานการเดินทางในครั้งนี้
 
20 ธันวาคม 2017 พวกเราตื่นนอนกันตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับกิจกรรมวันนี้ พวกเราแบ่งออกเป็น 2 ทีม ทีมหนึ่งไปทำกิจกรรมและเล่านิทานที่โรงเรียนรากแก้ว ส่วนอีกทีมไปทำกิจกรรมที่หอสมุดแห่งชาติเวียงจันทน์
 
หลังจากวางแผนเป็นที่เรียบร้อย พวกเราออกเดินทางข้ามฝั่งโขงด้วยการนั่งรถบัสข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ราคา 20 บาท มีรถตู้ที่เหมาไว้แล้วมาจอดรอรับที่หน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งลาว
1
สำหรับพลเมืองไทยไม่ต้องใช้วีซ่าในการเดินทางเข้าลาว มีแค่เพียงพาสปอร์ตไทยก็สามารถเที่ยวในลาวได้ 30 วัน แต่หากใครไม่มีพาสปอร์ตไทยก็สามารถทำหนังสือเดินทางชั่วคราวตรงบริเวณหน้าด่านตรวจคนเข้าเมืองฝั่งไทยได้ ซึ่งสามารถเที่ยวได้เฉพาะนครหลวงเวียงจันทร์เท่านั้น ระยะเวลาไม่เกิน 3 วัน
ผมได้รับเลือกให้อยู่ประจำการที่โรงเรียนรากแก้ว ช่วงเวลาเกือบเที่ยงเป็นช่วงที่ผมต้องเล่านิทานให้น้องๆฟัง จริงๆผมไม่ได้เล่าเก่งอะไรหรอกนะ แค่เคยฟังจากคนเก่งๆมาบ้าง ที่เหลือผมด้นสดเอาหน้างานเองเลย "ไม่รู้ว่าน้องๆจะสนุกเหมือนกับที่ผมสนุกรึป่าวนะ ฮ่าๆๆ"
หนึ่งวันจบลงไปด้วยความสนุกและรอยยิ้มที่น่ารักจากน้องๆนักเรียนทุกคน เป็น ประสบการณ์ที่น่าประทับใจมาก ครั้งหนึ่งในชีวิตผมเคยมาเล่านิทานและทำกิจกรรมร่วมกับน้องๆเด็กนักเรียนในประเทศลาว "รู้สึก อินเตอร์สุดๆ ฮ่าๆๆ"
สำหรับประเทศลาวผมแทบจะไม่ได้แวะเที่ยวที่ไหนเลยนอกจาก ประตูชัย(Patuxay) ใจกลางเมืองหลวงเวียงจันทร์ ซึ่งคนลาวสร้างไว้เป็นอนุสรณ์ชัยชนะหลุดพ้นจากฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกา
ประตูชัย(Patuxay)
21 ธันวาคม 2017 ของจริงมันเริ่มวันนี้ครับพี่น้อง หลังจากบอกลาเหล่าทีมงานเป็นที่เรียบร้อย พี่โชเฟอร์รถตู้พาผมมาส่งยังบริษัทขนส่งเวียงจันทร์ ผมเดินดุ่มๆด่อมๆตรงไปยังบริเวณเคาวเตอร์เพื่อตรวจเช็คบริษัทรถบัสที่จะเดินทางไปยังกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม จากการตรวจเช็คพบว่ามีหลายบริษัทให้เลือก ราคาค่าโดยสารประมาณ 230,000 กีบหรือประมาณ 750 บาท ใช้เวลาเดินทาง 24 ชั่วโมง
หน้าตาของรถบัส เวียงจันทน์-ฮานอย
มีเรื่องราวตลกเกิดขึ้นระหว่างที่ผมกำลังย่างเท้าขึ้นรถบัส พี่โชเฟอร์ตะโกนลั่นพร้อมทั้งแบฝ่ามือมาที่ผมเป็นเชิงสัญลักษณ์บอกผมว่า "อย่าเพิ่งขึ้นมา" ไอ่ผมก็งงสิครับว่าทำไมยังขึ้นไม่ได้ทั้งๆที่คนอื่นขึ้นไปจะเต็มคันรถอยู่แล้ว
พี่โชเฟอร์ชี้มาที่เท้าของผมแล้วพูดงึมงำๆอะไรก็ไม่รู้ "ตรูไม่เข้าใจโว้ย อะไรของเค้าวะ" สักพักเขาก็ออกอาการสีหน้าเคร่งเครียดเหมือนจะโกรธผม "หรือว่าตรูเท้าเหม็น แล้วเขาไม่ให้ขึ้นรถวะ?"
สักพักหนึ่งพี่แกก็เอื้อมมาหยิบถุงพลาสติกที่อยู่ข้างๆตัวผมแล้วยื่นให้ "ชัวร์ ตรูเท้าเหม็นแน่นอน" ผมจึงถอดรองเท้ายัดใส่ถุงใบที่พี่แกยื่นมาให้ พี่เขาก็อนุญาตให้ผมขึ้นรถแต่โดยดี เห้อ!!
เมื่อผมเดินขึ้นมาบนรถ "เชี่ยยย" ผมอดขำตัวเองไม่ได้ "โอ้ย ตรูโง่เองแหละ คนอื่นเค้าถอดรองเท้าใส่ถุงกันหมดนี่หว่า" ถึงบางอ้อแล้วครับตอนนี้ รถบัสทุกคันในประเทศเวียดนามต้องถอดรองเท้าทุกครั้งก่อนขึ้นรถ หึๆๆ
1
สภาพรถบัสที่นี่แตกต่างกับที่ไทยมาก เพราะภายในรถบัสเขาเป็นที่นอนสองชั้นเลย ไม่ได้เป็นเก้าอี้นั่งทั้งคืนเหมือนกับบ้านเรา ซึ่งที่นอนค่อนข้างแคบมาก จนทำให้คนตัวสูงอย่างผมรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย "คือขาเค้ายืดได้ไม่สุดอ่า แงๆ"
19.00 น.รถบัสล้อหมุนออกเดินทางไปยังปลายทางใจกลางกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม จำได้ว่ารถจอดแวะพักรับประทานอาหารช่วงดึกๆแค่เพียงรอบเดียวและอีกรอบหนึ่งช่วงเช้าตรู่เลย
"รู้สึกใจแป้วอย่างบอกไม่ถูก เมื่อกี้ตรูยังอยู่กับพี่ๆและเพื่อนๆหลายคนอยู่เลย สนุกสนานเฮฮาปลาปิ้ง แต่ตอนนี้กลับรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดายอย่างกะทันหัน โว้ยยย เหงาแท้"
เส้นทางทดสอบใจตัวเองต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร? ข้างหน้าคือของจริงที่ผมจะต้องพบเจอในวันพรุ่งนี้ โปรดติดตามตอนต่อไป
โฆษณา