18 เม.ย. 2021 เวลา 23:55 • นิยาย เรื่องสั้น
มนุษย์บินฟรี
Blockdit Originals ซีรีส์บทความพิเศษ
ขณะที่สายการบินบางแห่งให้สวัสดิการเจ้าหน้าที่ เช่น บินฟรี หรือสมาชิกครอบครัวบินในราคาพิเศษ มนุษย์อีกกลุ่มซึ่งอยากบินแต่ไม่มีหรือไม่อยากจ่ายค่าโดยสาร ก็แอบขึ้นเครื่องบิน ซ่อนตัวในห้องเก็บของหรือช่องเก็บล้อ
1
แต่เครื่องบินไม่ได้บินบนพื้นโลก มันอาจไต่สูงกว่าภูเขาเอเวอเรสต์ (29,030 ฟุต) ที่ความสูงขนาดนั้น หากไม่ได้ป้องกันตัวดีพอ มีโอกาสตายสูงมาก
1
ทว่าก็ยังมีคนเดินทางด้วยวิธีนี้เรื่อย ๆ
ส่วนมากเสียชีวิต
ผู้โดยสารบินฟรีส่วนมากซ่อนตัวในช่อง Landing Gear ซึ่งเป็นที่เก็บล้อเครื่องบิน (wheel bay) ส่วนนี้รับน้ำหนักและแรงกระแทกมากขณะที่เครื่องบินถลาลงแตะรันเวย์ บางครั้งก็ซ่อนตัวในห้องเก็บของหรือห้องเก็บอะไหล่
คนที่ซ่อนตัวใน แลนดิง เกียร์ มีความเสี่ยงมากกว่า เพราะเมื่อเครื่องบินขึ้นฟ้าแล้ว ล้อจะถูกขยับเก็บในช่อง จังหวะนั้นล้ออาจขยี้ร่างคนบินฟรีตาย หรือในขณะร่อนลงจอด คนบินฟรีก็อาจร่วงตกลงไปตายได้
2
ในการบินที่มีเพดานบินราวแปดพันฟุตขึ้นไป จะมีปัจจัยเสี่ยงอีกอย่างหนึ่งคือภาวะตัวเย็นเกิน (Hypothermia) และความกดอากาศจะลดน้อยจนส่งผลต่อการทำงานของร่างกาย อาจหมดสติหรือมีอาการเบลอ ถ้าผู้บินฟรีไม่คืนสติก่อนเครื่องบินแตะพื้นก็อาจร่วงลงไปตาย
5
เมื่อขึ้นที่สูงมาก ๆ อากาศบางลง ออกซิเจนลดลงต่ำจนสมองมีปัญหา อุณหภูมิจะลดลงต่ำกว่าศูนย์ ก็อาจเจอปัญหาความเย็นกัดตัว (frost bite)
1
นอกจากนี้ที่เพดานบินสองหมื่นฟุตขึ้นไป คนบินฟรีอาจเกิดฟองอากาศไนโตรเจนในเส้นเลือด (Nitrogen gas embolism) ถึงแก่ชีวิตได้
2
อากาศในเลือดมักเกิดกับคนที่ดำน้ำนาน ๆ และโผล่ขึ้นสู่ผิวน้ำเร็วเกินไป อากาศจะหลุดจากปอดเข้าไปในเส้นเลือด บางครั้งเกิดฟองไนโตรเจนขึ้นในเส้นเลือด
4
การบินฟรีแบบนี้จึงไม่ต่างจากการปีนเขาเอเวอเรสต์ตัวเปล่า
1
ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1947 มาถึงปัจจุบัน มีคนบินฟรีแบบนี้ไม่หยุด และเฉพาะในสหรัฐฯ เสียชีวิตไปแล้วราวร้อยคน แต่ทางการเชื่อว่าตัวเลขคนบินฟรีน่าจะสูงกว่าที่บันทึกเพราะอาจมีคนที่ร่วงลงไปในมหาสมุทร
1
การบินฟรีเกิดขึ้นมาตั้งแต่วันแรก ๆ ของการบินพาณิชย์ ตั้งแต่ปี 1946 คนบินฟรีขึ้นเครื่องที่คูปัง (อินโดนีเซีย) ไปเมืองดาร์วิน ออสเตรเลีย เขาโชคดีที่รอดตาย
3
ในปี 1964 นักกีฬาชาวออสเตรเลียคนหนึ่ง ไม่มีเงินซื้อตั๋วเครื่องบินกลับบ้าน ชายคนนี้ชื่อ เรจินัลด์ เจมส์ สเปียร์ส ตัวสูงสองเมตร ใหญ่ล่ำ เก่งในกีฬาพุ่งแหลน แต่เขาก็ไม่ได้รุ่งในสายอาชีพนี้
6
หลังจากการแข่งขันในอังกฤษไม่ประสบชัยชนะ เขาถังแตก แต่ต้องการกลับบ้านที่ออสเตรเลีย
สเปียร์สขอให้เพื่อนช่วยต่อลังไม้ให้ แล้วเข้าไปอยู่ในนั้น ให้เพื่อนส่งลังกลับไปออสเตรเลียทางเครื่องบิน ลังไม้ไปถึงจุดหมายที่เมืองเพิร์ธจนได้ แม้จะอ่อนเปลี้ยเพียงแรง แต่เขาไม่ตาย
4
ต้นปี 1970 เด็กหนุ่มวัย 14 คนหนึ่งบินฟรีจากซิดนีย์ไปโตเกียว สายการบิน แจแปน แอร์ไลน์ส ในระดับสองร้อยฟุต เขาร่วงตกลงมาจากเครื่องดักลาส ดีซี-8 ช่างภาพคนหนึ่งจับภาพไว้ได้ และตีพิมพ์ในนิตยสาร Life
2
ในปี 1972 วัยรุ่นชายอายุ 18 แช่แข็งตายด้วยความเย็นในเที่ยวบินโบอิง 707 จากซานดิเอโกไปนิวยอร์กซิตี
4
ในปี 1975 วัยรุ่นคนหนึ่งร่วงจากเครื่องบินลงไปตาย ระหว่างเที่ยวบินโบโกตา-ไมอามี
ในปี 1986 มนุษย์บินฟรีคนหนึ่งรอดชีวิต จากปานามาไปไมอามี ทั้งที่เครื่องโบอิง 707 บินสูงมากในระดับ 39,000 ฟุต
3
ปี 1993 วัยรุ่นอายุ 17 คนหนึ่งตายในช่องเก็บล้อสายการบินมาเลเซีย เที่ยวบินกัวลาลัมเปอร์-โยฮันเนสเบิร์ก
1
ในปีเดียวกัน วัยรุ่นอายุ 17 อีกคนหนึ่งบินจากโบโกตาไปไมอามี รอดตายที่ความสูง 35,000 ฟุต แต่ถูกน้ำแข็งกัดกิน
2
ปี 1995 คนบินฟรีแช่แข็งตาย ศพร่วงลงที่เมืองเซี่ยงไฮ้
ในวันที่ 2 สิงหาคม 1996 เด็กชายชาวมองโกเลียสองคน อายุ 9 กับ 12 แอบขึ้นเครื่องบินจาก อูลาน บาตอร์ ทั้งสองไปไม่ถึงจุดหมายปลายทาง
3
สองเดือนต่อมา วัยรุ่นอีกสองคนบินฟรีด้วยเครื่องโบอิง 747 จากนิวเดลีไปลอนดอน ตายหนึ่งรอดหนึ่ง
2
แม้แต่อาชญากรก็หนีโดยบินฟรีเช่นกัน ในปี 1998 ผู้ร้ายคนหนึ่งหนีจากเมืองแอนทีกัวไปตรินิแดด
1
ไม่รอด
1
ปี 1999 วัยรุ่นสองคนบินฟรีจากโคนาครีไปบรัสเซลส์ เครื่องแอร์บัส A330 แช่แข็งตายทั้งคู่
1
ปี 2000 ชายหนุ่มชื่อ ฟิเดล มารูฮี บินฟรีจากเมืองปาปีเอเตไปกรุงปารีส สายการบินแอร์ ฟรานซ์ เครื่องโบอิง 747-400 เป้าหมายเพื่อไปจับมือกับ ซีเนดีน ซีดาน นักฟุตบอลฝรั่งเศส
เขารอดตายที่ความสูง 38,000 ฟุต แต่ไม่ได้จับมือกับซีดาน
ถือว่ายังโชคดีที่ไม่ได้ไปจับมือกับยมบาล
5
บางคนบินฟรีเพื่อหนีความยากจน ในปี 2001 ชายคนหนึ่งหนีชีวิตลำบากในปากีสถาน ตั้งใจจะไปหางานทำที่เมืองนอก โดยสารโบอิง 777 จากเมืองมูฮาร์รัคไปลอนดอน ไปตายดาบหน้าที่ประเทศอังกฤษ
1
เขาได้ตายดาบหน้าจริง ๆ
ปี 2001 ชายคนหนึ่งบินฟรีจากลอนดอนไปนิวยอร์กซิตี เครื่องบินโบอิง 777 ร่วงลงมาจากความสูง 1,500ฟุต
1
ปี 2002 เด็กชายวัยรุ่นสองคน แอบบินจากเมืองอัคครา Accra (เมืองหลวงของกานา) ไปลอนดอน ตายทั้งคู่
ปี 2005 มนุษย์บินฟรีคนหนึ่งบินจากโยฮันเนสเบิร์กไปนิวยอร์กซิตี เครื่องแอร์ บัส A340 ถูกอัดตายคาเครื่อง
2
ปี 2007 คนบินฟรีจากโยฮันเนสเบิร์กไปแอตแลนตา ตายด้วยการแช่แข็งและถูกล้ออัดขยี้คาเครื่อง
ปี 2007 วัยรุ่นอายุ 17 คนหนึ่งบินจากเคปทาวน์ไป ลอส แองเจลิส โบอิง 747 ตายคาที่ซ่อนล้อ
ปี 2014 นักบินฟรีนิรนามจับเที่ยวบินจากอิหร่านไปเมดินา เครื่องโบอิง 767-300ER ต้องจอดฉุกเฉิน เพราะแลนดิงเกียร์ไม่ทำงาน เขาเสียชีวิต ชิ้นส่วนเขาร่วงลงไปบนถนนข้างล่างของเมืองเจดดาห์
1
ปี 2018 ชายนิรนามคนหนึ่งร่วงมาจากที่ซ่อนระหว่างเที่ยวบินฮอนโนลูลู ไปญี่ปุ่น
ปี 2019 คนบินฟรีในเที่ยวบิน โคนาครีปารีส เครื่องโบอิง 737-800 เขากลายเป็นมนุษย์น้ำแข็ง
มกราคม 2020 ก็ยังมีคนบินฟรีไปหาความตาย เที่ยวบิน อาบิจันปารีส เครื่องโบอิง 777-300 พบศพในที่เก็บล้อ
ตั้งแต่การบินพาณิชย์ถือกำเนิดจนถึงปัจจุบัน ก็ยังมีคนบินฟรีเรื่อย ๆ และตายเรื่อย ๆ ทั้งที่ในยุคนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับอันตรายของการบินฟรีแบบนี้ และข้อมูลชัดเจนว่าแทบทั้งหมดตาย
7
มันบอกเราว่า บ่อยครั้งคนที่เดินทางไปเสี่ยงภัยกระทำด้วยความเชื่อ ไม่ใช่ด้วยข้อมูลและหลักฐาน คนบางคนคิดว่าตนเองเป็นข้อยกเว้น
มีคำกล่าวว่า "Insanity is doing the same thing over and over again and expecting different results."
3
มีแต่คนบ้าที่ทำงานโดยใช้กระบวนการเดิม ๆ แล้วคาดหวังว่ามันจะส่งผลลัพธ์ที่แตกต่าง
11
เราอยู่ในโลกที่ท่วมด้วยข้อมูลและข่าวสาร แต่น่าแปลกที่คนไม่น้อยเชื่อข่าวลวงมากกว่าข้อมูลจริง และบางครั้งก็จ่ายราคาด้วยชีวิตตนเอง
1

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา