วัย 100 ชันษาของ หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี
วันที่ 20 มกราคม เป็นวันคล้ายวันประสูติหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี (ท่านประสูติวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2465)
.
วันนี้ทรงมีพระชันษาครบ 100 ปี
.
ปัจจุบันท่านเป็นเจ้านายสายบวรราชสกุล ที่ยังทรงชนม์อยู่เพียงองค์เดียว และเป็นเจ้านายที่ชันษาสูงที่สุดที่ยังทรงชนม์อยู่ ณ ขณะนี้
หม่อมเจ้าภีศเดชเป็นผู้ติดตามใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่ครั้งยังดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช และทรงเป็นประธานมูลนิธิโครงการหลวงฯ จนถึงพระชันษา 95 ปี (เมื่อปี พ.ศ. 2560)
หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ทรงเรียนที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ ก่อนไปศึกษาต่อที่วิทยาลัยดัลลิช และได้ทรงศึกษาจบในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ท่านทรงเข้าร่วมกับกองทัพอังกฤษในฐานะทหาร ปี พ.ศ. 2486 และเป็นสายลับอังกฤษอย่างเต็มตัวช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำงานร่วมกับกลุ่มเสรีไทย กลุ่มใต้ดินในประเทศไทยที่ทำงานต่อต้านญี่ปุ่นซึ่งเข้ามาเมืองไทยช่วงนั้น
.
เมื่อสงครามจบลง หม่อมเจ้าภีศเดชได้เสด็จกลับเมืองไทยและได้เข้าเฝ้าฯ ถวายงานรับใช้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9
ปี 2511-2512 ประเทศไทยเป็นผู้ผลิตฝิ่นกว่า 200 ตันต่อปี สามารถตอบสนองต่อธุรกิจยาเสพติดในสหรัฐอเมริกาได้อย่างน้อยสามปี! นับเป็น 8% ของการใช้ฝิ่นทั้งโลก การก่อตั้งโครงการหลวง ทำให้ทุกวันนี้อัตราการผลิตฝิ่นลดเหลือ 0.04%
จุดกำเนิดของโครงการหลวง ...
.
เมื่อครั้งที่มีการสร้างพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ ท่านภีได้ตามเสด็จพระราชดำเนินไปเชียงใหม่ วันหนึ่งในปี พ.ศ. 2511 ในหลวงทรงมีพระราชดำริให้ริเริ่มโครงการหลวง ได้รับสั่งกับหม่อมเจ้าภีศเดชว่า มีพระราชประสงค์ให้ท่านภีเป็นผู้ดูแลโครงการหลวง
.
ในเวลานั้นท่านได้แต่นิ่งอึ้ง เพราะไม่มีความรู้ในเรื่องการเกษตรเลย จึงไม่รู้จะเริ่มต้นโครงการหลวงได้อย่างไร
ครั้นเมื่อพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์เพิ่งสร้างเสร็จ ในหลวงทรงทราบข่าวว่า มีหมู่บ้านม้งปลูกฝิ่นอยู่ไม่ไกลจากพระตำหนักมากนัก และสามารถเดินเท้าเข้าไปได้ จึงตัดสินพระราชหฤทัยรวบรวมคนไม่กี่คนในตอนนั้น เสด็จพระราชดำเนินด้วยการเดินเท้าเข้าไปยังหมู่บ้านม้ง
.
ก่อนหน้านั้นได้ทอดพระเนตรเห็นไร่ฝิ่นจากเฮลิคอปเตอร์ แต่ว่าพระองค์ท่านไม่เคยทรงเสด็จไปก่อน เพราะคนรอบตัวพระองค์ทรงเป็นห่วงถึงความอันตราย
ในหลวงทรงเสด็จพระราชดำเนินไปถึงหมู่บ้าน ชาวม้งยังไม่ทราบว่าพระองค์คือผู้ใด พระองค์ได้ประทับนั่งคุยกับชาวม้งเป็นเวลานานนับชั่วโมงถึงฐานะความเป็นอยู่ การเกษตร การทำมาหากิน และได้ทราบว่า ชาวม้งได้มีการปลูกลูกท้อที่คุณภาพไม่ดีนัก สร้างรายได้ไม่ได้มาก แต่การค้าฝิ่นก็ไม่ได้สร้างรายได้ให้มากนักด้วย เพราะต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง แต่ก็ยังได้กำไรมากกว่าปลูกท้อนิดหน่อย จึงมีพระราชดำริที่จะพัฒนาคุณภาพท้อให้มีคุณภาพมากขึ้นเพื่อหารายได้เพิ่มทดแทนการปลูกฝิ่นของชาวเขา
หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนีได้ทรงริเริ่มและรวบรวมผู้เชี่ยวชาญทุกแขนงเกี่ยวกับการเกษตร จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มาร่วมกันดำเนินโครงการนี้ให้ชาวเขามีพันธุ์พืชปลูกทดแทนฝิ่น และพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวเขาทั้งหมดในภาคเหนือ รวมไปถึงหยุดการทำการเกษตรที่ทำลายผืนป่า
หม่อมเจ้าภีศเดชตรัสอีกว่า การจะทำให้ชาวบ้านหันมาปลูกพืชทดแทนฝิ่นนั้นยากมาก แต่ในหลวงไม่ทรงเร่งรัด ไม่ทรงบังคับให้ใครทำ แต่จะให้พวกเขาทดลองด้วยตัวเอง
.
ในหลวงรับสั่งไว้ว่า “การที่จะทดแทนฝิ่นอย่าคิดว่าจะสำเร็จเพียงข้ามคืน อย่างน้อย ๆ ต้องใช้เวลาถึง 30 ปี ”
ชาวบ้านคนแรกในหมู่บ้านชาวเขาที่ดอยอินทนนท์สามารถทำกำไรจากการปลูกสตรอเบอร์รี่ได้ถึงสองแสนบาท และผลผลิตเหล่านี้ที่เติบโตเป็นโครงการหลวง จนในปัจจุบันได้มีการทำการเกษตรอย่างหลากหลายขึ้น ทั้งพืชพันธุ์ ผัก และ ผลไม้ต่าง ๆ รวมทั้งไม้ดอก
ท่านภี ทรงงานโครงการหลวงตามพระราชดำริเสมอมาว่า ..
... ช่วยให้เขาช่วยเหลือตัวเอง
... ทำแบบลดขั้นตอน
... และปิดทองหลังพระ
ท่านภีเคยให้สัมภาษณ์ครั้งหนึ่งไว้ว่า “ผมไม่ได้กินเงินเดือนแม้แต่บาทเดียวจากโครงการหลวง และมีอาสาสมัครทั้งหมด 173 คน ที่ทำงานเพื่อโครงการหลวง บางคนทำมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ก็เลือกที่จะไม่รับเงินเดือนจากโครงการหลวงแม้แต่บาทเดียว ”
🔎 หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี กับจุดเริ่มต้นของโครงการหลวง และ เรือใบ ↙️↙️↙️
เคล็ดลับที่ทำให้ท่านภี ทรงมีสุขภาพแข็งแรง อาจจะเพราะท่านเคยเป็นนักกีฬา ทรงโปรดกีฬาเรือใบและการขี่ม้า ..
.
คุณหญิงนาว ธิดาคนโตของท่านภี บอกไว้ว่า “ท่านพ่อเป็นคนตรงต่อเวลามาก โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน ท่านจะเสวยอาหารตรงเวลาทุกมื้อตั้งแต่วัยหนุ่มเคยเสวยแบบไหน ปัจจุบันนี้ก็ยังทรงทำแบบเดิมตลอดมา
.. โดยจะเริ่มจากมื้อเช้า ท่านจะเสวยตอนเจ็ดโมงเช้า โปรดที่จะเสวยเพียงกาแฟร้อนใส่น้ำนมถั่วเหลือง มูสลี่ กับขนมปังปิ้ง ส่วนมื้อกลางวันโปรดเสวยอาหารจานเดียวอย่าง ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ราดหน้า เป็นต้น และเสวยอาหารว่างอย่างโกโก้เย็น กับขนมเค้ก 1 ชิ้นตอนสี่โมงเย็น จากนั้นก็จะเสวยอาหารเย็นตอนหนึ่งทุ่มตรง และระหว่างวันท่านไม่โปรดที่จะเสวยของจุกจิกเลย ”
นอกจากจะทรงมีสุขภาพทางกายดีเลิศแล้ว ยังทรงมีความจำดีเยี่ยมอีก ที่ชั้น 1 ของตำหนักใหญ่วังประมวญ จะมีเสียงต๊อกแต๊กดังขึ้นเป็นระยะ ๆ ซึ่งเป็นเสียงปลายนิ้วมือที่กระทบกับแป้นคีย์บอร์ดของคอมพิวเตอร์ เสียงนี้ทุกคนในวังประมวญจะคุ้นชินเป็นอย่างดี
.
ท่านโปรดการบันทึกเรื่องราว และประพันธ์หนังสือ อาจเพราะบุคคลรอบตัวท่าน อย่างท่านพ่อ ท่านแม่และพี่สาวท่าน ล้วนเป็นนักประพันธ์
ท่านพ่อของท่าน - พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ หรือพระบวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส ผู้ใช้นามปากกาว่า น.ม.ส. หนึ่งในปราชญ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นพระบิดาแห่งการสหกรณ์ไทย เป็นองค์ต้นราชสกุล รัชนี
ท่านแม่ของท่าน - หม่อมเจ้าพรพิมลพรรณ รัชนี พระนามเดิม หม่อมเจ้าพิมลพรรณ วรวรรณ เป็นนักเขียน นามปากกา แดนเดือน
ท่านพี่ของท่าน - พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิภาวดีรังสิต นามปากกา ว. ณ ประมวญมารค
และตัวท่านเอง ในงานเขียนด้วยนามปากกา ภ. ณ ประมวญมารค
หม่อมฉันขอประทานถวายพระพรแด่ฝ่าพระบาทให้ทรงเจริญชันษายิ่งยืนนาน เกษมสำราญหทัย มีพลานามัยดี ปราศจากภยันตรายใด ๆ ทั้งปวง แล้วแต่จะโปรด
..
รฉัตร วรรณกุล
20 มกรา' 2564
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
