23 ม.ค. 2021 เวลา 11:09 • หนังสือ
คุณพอใจกับสิ่งที่คุณมีแล้วรึยัง?
คำถามนี้ถูกถามซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัว ขณะที่อ่านหนังสือเล่มนี้ เราพอใจกับสิ่งที่เรามีแล้วรึยัง แล้วสิ่งที่เรามีคือ สิ่งที่เราต้องการจริงๆหรอ
เราทำงานอย่างหนัก พยายามตามหาไขว้ขว้างจนได้มันมาอยู่ในครอบครอง แต่ทำไมเรากลับ ไม่มีความสุข
สวัสดีค่ะ ขึ้นต้นดึงดราม่ามาขนาดนี้ เราไม่ได้จะมารีวิวหนังสือค้นหาความสุข หรือหนังสือที่พาทุกคนไปสู่นิพพาน
แต่หนังสือที่เราจะเล่าวันนี้คือ 📚 Fear of Missing Out หรือชื่อภาษาไทยก็คือ #ไม่ต้องตามใคร แค่ใช้ชีวิตแบบของคุณ
เคยรู้สึกมั้ยคะ ทำไมชีวิตคนอื่นเค้าดีจัง หน้าที่การงานดี ทำอะไรใครๆก็รัก ทำไมมันต่างกับชีวิตเราจัง
เราเชื่อว่าหลายคนต้องเคยมีความคิดแบบนี้อยู่ในหัว แต่ถ้าคุณไม่เคยคิด คุณคือคนที่โชคดีสุดๆเลยค่ะ
ถ้าคุณมีอาการแบบนั้น คุณไม่ใช่คนผิดปกติ แต่ถ้าหากอาการนั้นรุนแรงขึ้นจนกระตุ้นให้คุณต้องออกไปใช้ชีวิตในแบบที่คุณไม่เคยคิดว่าจะใช้ พยายามออกไปนั่งร้านกาแฟสวยๆ เพราะเพื่อนในไอจีลงรูป หรือไปยืนต่อคิวร้านอาหารชื่อดังครึ่งวัน เพียงเพราะดาราโพสลงในโซเชียลมีเดียของเค้า
⚠️ระวังไว้คุณอาจจะเป็น FOMO ก็ได้
FOMO ย่อมาจากคำว่า Fear of Missing Out หรืออาการกลัวที่จะพลาดอะไรบางอย่างไป ซึ่งอาการนี้มีหลายระดับ ตั้งแต่กระตุ้นให้เราออกไปใช้ชีวิตในสังคมแบบเต็มที่เต็มเวลา ไปจนถึงทำให้เสียเงินเสียทอง เสียความเป็นตัวเองไปได้เลยค่ะ 😱
แต่นอกเหนือจากโฟโมที่เป็นต้นเหตุแห่งความวุ่นวายต่างๆแล้ว ยังมีวายร้ายอีกตัวที่ในหนังสือเล่มนี้ได้กล่าวถึงก็คือ FOBO หรือ Fear of Better Option หรือความกลัวว่าจะมีตัวเลือกที่ดีกว่า
ใครเคยมีอาการ ไม่รู้จะเลือกอะไรดี ร้านนี้ก็อร่อย เจ้านั้นก็น่ากิน เมนูนี้ก็ดัง อันนี้ก็รีวิวเยอะ ยืนเลือกอยู่นานสองนาน จนกรดไหลย้อนมาเคาะประตูเรียก สุดท้ายจบลงที่ร้านตามสั่งที่เร็วที่สุด เพราะหิวจนตาลาย
⚠️ถ้าคุณมีอาการแบบนี้สงสัยไว้ก่อนเลยค่ะว่าคุณอาจจะเป็น FOBO
ซึ่งเจ้าโฟโบมีความร้ายกาจและ รุนแรงมากกว่าโฟโมมาก😱 ถ้าคุณเก็บมันไว้ อาจจะเสียเงินจำนวนมาก เสียคนรอบตัว ไปจนถึงเสียการงานกันเลยทีเดียว แล้วแย่ไปกว่านั้นคือ เจ้าโฟโบยังไม่มีข้อดี และไม่ควรเอามาใช้เป็นอย่างยิ่ง
ความน่ากลัวจะทวีความรุนแรงขึ้น ถ้าหากเจ้าโฟทั้งคู่มาเจอกัน😱 เพราะมันจะเกิดสิ่งที่เรียกว่า FODA หรือ Fear of Doing Anything ซึ่งมันจะทำให้คุณกลัวที่จะลงมือตัดสินใจหรือทำอะไรซักอย่าง เปรียบเสมือนคุณถูกแช่แข็งไว้แบบกัปตันอเมริกากันเลยทีเดียว
แต่ไม่ต้องห่วงค่ะ 📚ในหนังสือเล่มนี้จะแนะนำให้เรารู้จักกับเจ้าโฟทั้งคู่ที่นั่งอยู่ข้างเราทุกๆวัน โดยที่เราไม่รู้ตัว แล้วก็ยังแนะนำวิธีการสยบอาการแห่งความวุ่นวายเหล่านั้น สุดท้ายผู้เขียนก็ยัง แนะนำวิธีการใช้ประโยชน์ จากเจ้าโฟนี้อีกด้วย
หนังสือเล่มนี้เหมือนเปิดโลกเราให้มองโลกในมุมที่เราไม่คิดว่าจะเห็นผ่านเจ้าโฟทั้งคู่
เช่น วัน Blackfriday หรือเทศกาลลดราคาถล่มทลายในอเมริการ ที่คนไปต่อแถวรอที่ประตูร้านขายของตั้งแต่ 6 โมงเย็น ห้างจะเปิด 24 ชั่วโมง คนไปเดินซื้อของกันตั้งแต่ 6 โมงเย็น ยัน 6 โมงเช้าเลยค่ะ แน่นอนว่าเราในฐานะของนักเรียนอเมริกา เราก็เคยไปต่อแถวรอเช่นกันจ้า 🤣
ผู้เขียนได้อธิบายว่า เทศกาลลดราคาเนี้ยก็คือการกระตุ้นโฟโมในตัวเรา อย่างแรกคือเรา กลัวของหมด อย่างที่สองคือเราต้องการ #เป็นส่วนนึงของประสบกาณ์อันน่าเร้าใจ ที่เอาไปอวดทุกคนได้ว่า ฉันได้ของชิ้นนี้มาหลังจากยืนต่อคิว 3 ชั่วโมงเลยนะ (ไม่ได้โม้จ้า ยืนจริง 5555🤣)
ผู้เขียนยังไม่ยกเคสมากมายขึ้นมาเล่า ทำให้เราได้เห็นถึงความหมาย และก็ความน่ากลัวของมันไปพร้อมๆกัน ไม่ว่าจะเป็น เคสของคนดังที่ทำเงินจากเรามากมาย นักลงทุนรายยักษ์ที่ผิดพลาด หรือแม้แต่นายกรัฐมนตรีที่ลังเลจนต้องลาออก
ตอนแรกเราไม่ได้สนใจหนังสือเล่มนี้เลย เพราะเราคิดมาตลอดว่าโฟโมคือ อาการของคนติดโซเชียล ฉันไม่ได้ติดโซเชียล ฉันไม่ได้ชอบยอดไลค์
แต่พอมาอ่านหนังสือเล่มนี้แบบจริงจังแล้ว เรารู้เลยว่าโฟโมขี่คอเราอยู่เลย เพราะความจริงโฟโมและโฟโบไม่ได้มีสาเหตุมาจากเทคโนโลยีแต่อย่างใด แต่เทคโนโลยีแค่ทำให้เราเห็นมันชัดเจนขึ้น และเปรียบเสมือนตัวเร่งปฏิกิริยาเท่านั้นเอง
📚ซึ่งความสนุกของหนังสือเล่มนี้ไม่ได้อยู่แค่เนื้อหาและเคสต่างๆที่ยกมานะคะ แต่ยังเป็นภาษาของผู้เขียนที่เขียนออกมาแบบประชดประชัด
บางอันก็ทิ่มแทง เรียกได้ว่าอ่านไปเจ็บไปเพราะโดนขวานของผู้เขียนจามหน้ากันเลย บางอันก็ประชดจนหลุดขำออกมา เป็นการเขียนที่สร้างสรรค์และมีเสน่ห์ มากๆ
👍🏼ตั้งแต่ต้นจนจบของหนังสือเล่มนี้ อัดแน่นด้วยความรู้และเคสต่างๆ แล้วยังตบท้ายด้วยวิธีแก้และการนำไปใช้ที่เตือนสติเราได้เหมือนโดนตบหัว
หลังจากอ่านเล่มนี้จบ 💡สิ่งที่พุ่งเข้ามาในหัวเราเลยคือ แล้วทุกวันนี้เรายังขาดอะไรอีก ทำไมถึงไม่พอใจ เรามองหาอะไร แล้วสิ่งที่มองหาคือความต้องการของเรา หรือเป็นสิ่งที่สังคมบอกว่าเราต้องมี
ว่าง่ายๆคือเรามีความยับยั้งชั่งใจมากขึ้นก่อนจะทำอะไร จากเดิมเราเห็นใครรีวิวอะไร เรากดสั่งซื้อแบบไม่คิด ตอนนี้เรานิ่งขึ้น คิดมากขึ้น แล้วเรายังรู้สึกขอบคุณสิ่งต่างๆที่เรามี สุดท้ายก็คือเราได้บอกตัวเองว่าพลาดอะไรไปบ้างก็สนุกดีเหมือนกันนะ
👍🏼การเอาชนะเจ้าโฟทั้งคู่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้นะคะ เพราะการเอาชนะมันขึ้นอยู่กับ ความเด็ดเดี่ยว และความกล้า ของเราที่ก้าวผ่านความกลัวเล็กๆในใจเรา หลังจากที่คุณทำได้แล้วคุณจะได้เห็นโลกใบใหม่ที่สวยงานขึ้นแน่นอน
แล้วก็จบลงไปแล้วนะคะกับการรีวิวFOMO หรือ Fear of Missing Out ไม่ต้องตามใคร แค่ใช่ชีวิตในแบบของคุณ หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ดีอีกเล่มนึงเลย น่าจะช่วยเตือนสติ ใครได้หลายๆคน
หรือถ้าใครเห็นคนรอบตัวมีอาการเหล่านี้ ก็ลองยื่นหนังสือเล่มนี้ให้เค้าอ่านดูนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านกันตั้งแต่ต้นจนจบเลย🙏🏻 ยังไงก็อย่าลืมติดตามสรุปของหนังสือเล่มนี้ในพาร์ทหน้านะคะ ชอบไม่ชอบยังไงก็คอมเม้นบอกกันไว้ที่ใต้โพสเลยนะคะ💕
หนังสือ: Fear of Missing Out ไม่ต้องตามใคร แค่ใช่ชีวิตในแบบของคุณ
หมวดหมู่: จิตวิทยาและพัฒนาตนเอง
ผู้เขียน: แพทริค เจ. แมคกินนิส
ผู้แปล: สุวิชชา จันทร
สำนักพิมพ์: Amarin HOW-TO
โฆษณา