24 ม.ค. 2021 เวลา 14:19 • ความคิดเห็น
เวลาประเมินหุ้น.....
สิ่งที่นักลงทุน ส่วนมากมักลืมใส่ลงไปในสมการคือ
" ศักดิ์ศรีของหุ้น " หรือ การจัดอันดับ ranking
สมการตัวนี้จะมองว่าเป็นสิ่งที่ตีความจะ "ว่ายากก็ยาก" จะ "ว่าง่ายก็ง่าย" แต่ผลตอบแทนของนักลงทุนสาย VI จะเฉือนกันที่ตรงนี้แหละ !!
บ่อยครั้งที่คุณจะเห็นเคทมักแนะนำให้ซื้อ กิจการที่ดูไม่มีทีท่าหรือวี่แววจะกำไร หรือ กิจการยังคงขาดทุนติดลบอยู่เรื่อยๆ แล้วคุณก็ซื้อแบบ งงๆ ซื้อมันแบบค้านอยู่ในใจ เคทเห็นอะไรในหุ้นพวกนั้นหรอ ?
แต่สุดท้ายหุ้นตัวนั้นมักให้ผลตอบแทนที่สูงมาก หรือ ผลตอบแทนแบบที่เราเรียกว่า turnaround !!
เคทเห็นอะไร สิ่งที่เคทเห็นคือ สิ่งที่ไม่มีอยู่ในมูลค่าทางบัญชีค่ะ สิ่งนั้นคือ ศักดิ์ศรีของหุ้น เคทให้น้ำหนักของศักดิ์ศรี หุ้นอยู่มากค่ะ
กิจการที่เป็นเบอร์หนึ่ง หรือ เคยเป็น
กิจการที่เป็นเจ้าตลาด กิจการที่มีพันธมิตรมีเครือข่ายที่แข็งแกร่ง กิจการที่มีเงินสดมาก(ข้อนี้มักย้ำเสมอถึงความสำคัญ) กิจการที่มีอินโนเวชั่น หรือ กิจการที่มี R&D สูง
กิจการพวกนี้แม้วันนึงล้มลง หรือเกิดปัญหา เกิดวิกฤต หรือ แม้แต่กิจการกำลังอยู่ในสายsunset ก็ตาม แต่พวกนี้เขาจะกลับมาได้เสมอ เขามีศักยภาพที่จะ change ได้เมื่อถึงจุดนึง แล้วก็จะกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง
ยิ่งในธุรกิจที่มีมาร์เก็ตแชร์สูงๆหลายเจ้า ถ้าอยู่ในวงวัฏจักรที่ตกต่ำ ธุรกิจรายใหญ่ เจ้าใหญ่ เขาไม่จำเป็นที่ต้องกำไรก็ได้ค่ะ จะขาดทุนเท่าไหร่ก็ได้ไม่เป็นไร แต่ขอให้เป็น last man standing ให้ได้เป็นพอ เพราะทุกคนคงตายหมด แล้วคุณค่อยกินรวบทีหลัง ปิดเกม !!
คุณต้องประเมินเรื่องพวกนี้ให้ออกค่ะ
อีกสิ่งในการทำธุรกิจ ที่หลายคนไม่เข้าใจคือ การมาก่อน ไม่ใช่จะเป็นเจ้าตลาดได้เสมอไป มันมีเรื่องของจังหวะ และเวลา ไทม์มิ่งคุณต้องได้ การ burn cash. ค่าความเสียหายอะไรคุณต้องรู้ คุณต้องประเมินให้ออก
การออกตัวช้าบางครั้งไม่ใช่เขาไม่มี knowhow นะคะ แต่เขาอาจจะรอไทม์มิ่งอยู่ก็ได้
1
ช่วงนี้เคทเห็นกระแสคนพูดถึงหุ้นตัวนึงเยอะมาก เคทก็ไม่ค่อยอยากจะพูดถึงมากนัก อย่างที่บอก "เกรงใจ" ผู้ใหญ่
แต่เคทมีเรื่องนึงที่อยากจะเล่าให้ฟัง
ครั้งนึงโลกเราเคยตื่นเต้นสุดๆกับ Segway หรือ ยานพาหนะสองล้อ ตอนนั้นเหล่าบิดา เหล่าศาสดาแห่งวงการไอที ไม่มีใคร "ไม่" ออกมาชื่นชม ไม่ว่าจะบิลเกต สตีฟ จ๊อบ ล้วนออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่คือ สุดยอดเทคโนโลยี นวัตกรรมที่จะเปลี่ยนโลก
ผู้ผลิตเจ้าสิ่งนี้อนาคตต้องยิ่งใหญ่มากๆแน่ๆเลยใช่ไหม ? หลังจากนั้นเป็นอย่างไร ?
ปัจจุบันบริษัทนี้ปิดตัวไปแล้วค่ะ !!
ถ้าคุณไปเจอบทความเชิงเศรษฐศาสตร์ที่ "ไม่ซื้อไอเดีย" เจ้า segway ในยุคนั้น คุณจะไม่ได้ดูเท่ดูคูลเลยนะคะ แต่คุณจะโดนหาว่าบ้า ค่ะ !! บางครั้งการตลาด การทำธุรกิจ กับ เทคโนโลยี นวัตกรรม คุณต้องตีให้แตกนะคะว่า มันคนละเรื่องกัน
หรือ อย่างใกล้ๆไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก่อนที่หุ้นtesla จะทะยานเป็นจรวดspacex อย่างทุกวันนี้ หุ้น tesla เคยถูกตลาดแพนิค ตกใจขาย หุ้นตกต่ำติดลบเกิน20% ในระยะเวลาแค่เพียง1 เดือน ณ ช่วงเวบานั้น ตลาดไม่ให้ราคาหุ้นตัวนี้
เลยค่ะ งบการเงินที่ติดลบหนักหนาสาหัส และก็ไม่รู้อนาคตที่แน่ชัด ช่วงนั้นนักลงทุนมาถามในเพจเคท
บ่อยมาก หลายคนพูดถึงแต่เรื่องนี้ เคทได้แต่บอกว่า
ถ้าวันนี้คุณไม่ซื้อไว้ อนาคตคุณจะเสียใจมากนะ
แม้เคทจะตอบแบบนี้จริง แต่เขื่อว่าหลายคนตีเหตุผลเคทได้ไม่ถูกต้องนักหรอก ไม่ใช่เคทเห็นอนาคต ธุรกิจหรือกิจการรถไฟฟ้าอันรุ่งเรืองในอนาคตกับหุ้นตัวนี้หรอก
แต่ที่เคทซื้อ คือ เคทซื้อ เพราะ Elon Musk ค่ะ !!
หวังว่าบทความนี้จะช่วยกระตุ้นเตือนให้นักลงทุนทั้งหลายได้ทบทวนแนวทางการลงทุนของท่านเอง และนำไปต่อยอดได้นะคะ
มิ้วๆ
โฆษณา