25 ม.ค. 2021 เวลา 08:31 • ท่องเที่ยว
Ep.3 : 8,000 บาท 15 วัน 4 ประเทศ แบกเป้ลุยเดี่ยวทดสอบใจตัวเอง ไทย - ลาว - เวียดนาม - กัมพูชา -ไทย (Circle Trip)
การสำรวจกรุงฮานอย 3 วัน 2 คืน ยังคงไม่เพียงพอสำหรับการเรียนรู้เมืองที่มีมนตร์เสน่ห์มากมายเช่นนี้ แต่สำหรับผมการเดินทางเพื่อตอบใจตัวเองให้ได้ในครั้งนี้ ผมบังเอิญได้มาเห็นสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน สิ่งที่จะช่วยผลักดันความฝันให้กลายเป็นความจริงได้ ผมเชื่ออย่างนั้นนะ!! ตอนนี้ผมมองเห็นภาพความเป็นไปได้ของทริปรอบโลกแล้ว
หากเพื่อนๆอยากทราบรายละเอียดการเดินทางเพิ่มเติมสามารถเข้าไปอ่านย้อนหลังได้ในเฟสบุ๊คเพจ : หาตังค์เที่ยวรอบโลก
หรือคลิ๊กลิ้งเพจได้เลยครับ
1
18.30 น. รถบัสจอดรับผมตรงหน้าบริษัททัวร์ซึ่งผมได้จองตั๋วโดยสารรถบัส ฮานอย-ฮอยอัน เอาไว้ล่วงหน้าก่อนแล้ว ใครมาที่นี่หายห่วงเรื่องการเดินทางได้เลย เพราะที่นี่มีบริษัทรถบัสโดยสารระยะใกล้-ไกล ให้เลือกหลายบริษัทเลยทีเดียว แต่ถ้าหากใครอยากสัมผัสบรรยากาศแบบสโลไลพ์ ค่าโดยสารค่อนข้างแพง สามารถเลือกนั่งรถไฟได้ทั่วราชอาณาจักรเลยจ้า
การเดินทางด้วยรถบัสจาก กรุงฮานอย-ฮอยอัน ระยะทาง 800 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-17 ชั่วโมง เท่ากับว่านอนบนรถ 1 คืน ซึ่งถ้าเป็นไปได้ผมจะเลือกเดินทางในตอนกลางคืนเสมอ เพราะจะได้ประหยัดเงินค่าที่พัก
บนรถบัสคันนี้ผมได้รู้จักเพื่อนใหม่หลายคน มีทั้งจากออสเตรเลีย อินโดนีเซีย เกาหลีและเม็กซิโก ทุกคนเดินทางแบ็กแพ็คลุยเดี่ยวมาจากคนละทิศคนละทาง แต่ตอนนี้สามารถมารวมตัวกันได้ ความครื้นเครงจึงเกิดขึ้น ระหว่างทางพวกเราคุยโม้กันตลอด โม้กันเพลินจนรู้สึกว่า "ทำไมถึงจุดหมายปลายทางเร็วจัง?"
09.00 น. รถบัสจอดพักกินข้าวประมาณ 1 ชั่วโมงที่เมืองเว้ เมืองหลวงเก่าของเวียดนาม ซึ่งที่นี่มีสิ่งก่อสร้างและโบราณสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ทั่วทั้งเมือง ซึ่งวันนึ้เป็นวันที่ฝนตก ทำให้อากาศหนาวและบรรยากาศค่อนข้างโรแมนติก
12.00 น.รถบัสพาผมมาส่งตรงจุดหมายปลายทางเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากผมไม่ได้จองที่พักมาก่อนล่วงหน้า ผมจึงพลอยเพื่อนชาวเม็กซิกันไปด้วย เพราะเขาจองที่พักเอาไว้แล้ว หมายถึงผมเดินทางไปยังที่พักเดียวกันกับเขาแล้วทำการเปิดเตียง
"ทำไมเปิดเตียงหล่ะ? ทำไมไม่เปิดห้อง?" ก็เพราะว่าผมมาพักที่โฮสเทล ไม่ใช่โรงแรม
ทริปนี้เป็นทริปแรกที่ผมได้รู้จักกับคำว่า "โฮสเทล(Hostel)" โฮสเทลคือที่พักอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งแตกต่างกับโรงแรมตรงที่โฮสเทลจะนอนรวมกันในห้องๆเดียว ภายในห้องจะมีหลายเตียง ส่วนใหญ่จะเป็นเตียงสองชั้น ห้องนึงจะนอนได้ตั้งแต่ 6-12 คน แล้วแต่ขนาดของห้อง
Tribee Bana hostel
พื้นที่ส่วนกลางเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของโฮสเทล เป็นแหล่งพบปะนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลก ผมชอบที่จะมานั่งตรงจุดส่วนกลางนี้เพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนนักเดินทาง ผมมักจะได้ไอเดียและเทคนิคการเดินทางเจ๋งๆจากพื้นที่นี้
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ของโฮสเทลคือ ห้องครัวส่วนกลาง ซึ่งเพื่อนๆสามารถหาซื้อวัตถุดิบจากซุปเปอร์มาร์เก็ตเพื่อมาทำอาหารกินเองได้เลย เป็นพื้นที่ที่เป็นประโยชน์มากสำหรับการเดินทางในประเทศที่มีค่าครองชีพสูง
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของโฮสเทลคือ ราคาถูกโคตร โฮสเตลที่ฮานอยราคา 193 บาท/คืน ราคานี้รวมอาหารเช้าแล้ว โฮสเตลที่ฮอยอันราคา 210 บาท/คืน ราคานี้ถูกกว่าโรงแรมแน่นอน อีกทั้งยังมีโอกาสได้พบกับประสบการณ์แปลกใหม่ซึ่งไม่สามารถหาได้จากการเข้าพักในโรงแรม
หลังจากผมนำสัมภาระไปเก็บไว้ข้างๆเตียงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ฝนก็หยุดตกพอดี จึงถือเป็นโอกาสดีที่ผมจะได้เริ่มออกสำรวจเมืองฮอยอัน การสำรวจครั้งนี้ผมมีเพื่อนชาวเม็กซิกันร่วมแจมด้วย
ย่านเมืองเก่า
สะพานญี่ปุ่นเมืองฮอยอัน
วิวบนสะพานญี่ปุ่น
ริมแม่น้ำทรีโบน
บรรยากาศยามค่ำคืน
ฮอยอัน(Hoi An) เป็นเมืองเล็กๆริมแม่น้ำทูโบน อยู่ตอนกลางของประเทศเวียดนาม ในเขตจังหวัดกว๋างนาม ซึ่งอดีตที่นี่เคยเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ฮอยอันเป็นเมืองที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์และเก็บรักษาความเป็นเมืองมรดกแห่งวัฒนธรรมไว้อย่างดีเยี่ยม ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO ในปี พ.ศ. 2542 เนื่องด้วยเป็นตัวอย่างของเมืองท่าค้าขายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 15-19 ที่มีการผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมทั้งของท้องถิ่นและของต่างชาติไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์
เอกลักษณ์และเสน่ห์ของเมืองฮอยอัน อยู่ตรงอาคารบ้านเรือนแบบเก่าแก่โทนสีเหลืองมัสตาร์ดและแม่น้ำที่ผ่าใจกลางเมืองให้แยกออกเป็นสองฝั่งซึ่งเชื่อมด้วยสะพานญี่ปุ่น มีทั้งร้านค้าขายผลงานทางศิลปะและหัตถกรรม มีอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ บาร์ และร้านอาหารเปิดเรียงรายเป็นจำนวนมาก เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว
ฮอยอันเป็นเมืองเล็กๆที่สามารถเดินเที่ยวได้ทั่วทั้งเมือง โดยใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งวันหรือหนึ่งวัน โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่น ถ่ายรูป ตามตรอกซอกซอยต่างๆ หรือจะเข้าชมเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ในพิพิธภัณฑ์ก็ได้
ระหว่างช่วงพักเหนื่อยจากการเดินสำรวจเมือง ผมมักจะแวะเข้าไปดื่มกาแฟตามร้านคาเฟ่ต่างๆ ซึ่งมีเยอะแยะมากมายในเมืองฮอยอัน อีกทั้งมีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ฟรีทุกร้านเลย "ไม่ใช่อินเทอร์เน็ตกากๆนะครับ เน็ตแรงและเร็วมาก"
ดังนั้นถ้าหากใครมาเที่ยวที่นี่ ไม่ต้องกังวลเลยว่าจะไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้ เพราะขนาดผมไม่ซื้อซิมมือถือของที่นี่ ผมยังรู้สึกสะดวกสบายมากเลย ประหยัดค่าซิมมือถือไว้ซื้ออย่างอื่นดีกว่าครับ
21.30 น. หลังจากสำรวจเมืองฮอยอันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมและเพื่อนเดินกลับโฮสเทล พวกเรานั่งเล่นชิลล์ๆบริเวณพื้นที่ส่วนกลาง และในช่วงเวลานี้ทำให้ผมได้รู้จักกับสองนักเดินทางชาวจีน
โชคดีที่สองนักเดินทางชาวจีนสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ พวกเราจึงแชร์ประสบการณ์การเดินทางของกันและกันได้อย่างเมามันโดยมีเบียร์ไซง่อนอยู่ในมือคนละขวด ฮ่าๆๆ
การที่ผมได้พบกับนักเดินทางสองคนนี้ ถือเป็นของขวัญอันล้ำค่ามากเลยทีเดียว เพราะผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า "เราสามารถเดินทางจากจีนมายังเวียดนามได้ด้วยรถไฟ" ซึ่งพวกเขาบอกผมว่า พวกเขาเดินทางมาที่นี่ด้วยรถไฟจากเมืองหนานหนิงของจีนมายังเมืองฮานอยของเวียดนาม ใช้เวลาแค่เพียงคืนเดียวเท่านั้น
ถ้าผมสามารถเดินทางจากจีนมายังเวียดนามได้ แสดงว่าผมสามารถเดินทางจากเวียดนามไปจีนได้ ดังนั้นผมก็สามารถเดินทางจากไทยไปจีนโดยที่ไม่ต้องใช้เครื่องบินได้ด้วยอะดิ
เอาอีกแล้วครับพี่น้อง คืนนี้ไอ่นอร์ธจมอยู่กับความฝันทั้งคืนอีกแล้วครับ แผนการณ์เดินทางรอบโลกด้วยเส้นทางทางบกอาจจะมีโอกาสเป็นจริงได้ ถ้าผมสามารถเดินทางไปจีนด้วยรถบัสหรือรถไฟได้ จากจีนไปยังประเทศอื่นก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากอีกต่อไป
ฮอยอันที่รัก💕
- โปรดติดตามตอนต่อไป -
โฆษณา