26 ม.ค. 2021 เวลา 11:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
The End of the Storm
ฟ้าสีทองหลังพายุของ ลิเวอร์พูล
(ควรเปิดเพลง You'll Never Walk Alone ระหว่างอ่านบทความ)
มีวลีหนึ่งที่บอกว่า "ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ" แต่ลืมบอกไปว่าฝนที่ตกลงมา ตกมานานและหนักเพียงใด ทำให้เหล่า "เดอะค็อป" ต้องรอถึง 30 ปีกว่าท้องฟ้าที่สวยงามจะเปิดออกมาก
The End of the Storm มาจากท่อนหนึ่งในเพลง You'll Never Walk Alone เพลงประจำสโมสรลิเวอร์พูล ซึ่งในท่อนนี้ร้องไว้ว่า ที่ปลายทางหลังพายุกระหน่ำ จะมีท้องฟ้าสีทอง พร้อมกับบทเพลงอันไพเราะที่ขับกล่อมโดยนกลาร์ค (https://www.youtube.com/watch?v=EqFkraaM4Aw)
The End of the Storm คือสารคดีที่พากระโดดเข้าไปใกล้ชิดการทำงานตลอดฤดูกาล 2019/20 ของลิเวอร์พูล ฤดูกาลที่พวกเขาจับมือเดินผ่านพายุร้ายที่ปกคลุมสโมสรมาเป็นเวลากว่า 30 ปี จนก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ฤดูกาลที่พวกเขาถูกจารึกเอาไว้ว่าเป็นแชมป์อังกฤษ แชมป์ยุโรป และแชมป์โลก
แม้ว่าเรื่องราวทั้งหมดแกนหลักคือสโมสรลิเวอร์พูล แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวละครสำคัญในสารคดีเรื่องนี้คือ เยอร์เก้น คล็อปป์ เฮดโค้ชผู้นำทัพพา "หงส์แดง" เดินฝ่าฟันพายุออกมาได้สำเร็จ และเป็นผู้ที่ตอบตกลงให้ทีมงานของเจมส์ เออร์สคีน ผู้กำกับ เข้ามาถ่ายทำเรื่องราวเส้นทางการคว้าแชมป์ของลิเวอร์พูล
ในสารคดีเรื่องนี้เราจะได้เห็นด้านต่างๆ ของกุนซือชาวเยอรมัน ได้เห็นความเคี่ยวยามคุมทีม ได้เห็นความเป็นกันเอง และอารมณ์ขันของเขาตลอดทั้งเรื่อง และวิธีการค่อยๆ สร้างความเป็นทีมขึ้นมา รวมถึงความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของคล็อปป์ ที่ส่งผลต่อทีม เช่นการให้ทีมเดินทางมาถึงสนามให้เร็ว และให้วอร์มร่างกายเสร็จให้เร็วขึ้น 2 นาที เพื่อให้บรรดาเหล่านักเตะมุสลิมมีเวลาชำระล้างร่างกายก่อนลงแข่งขัน
ส่วนเรื่องอารมณ์ขันก็มีให้เห็นตั้งแต่เปิดเรื่อง กับช่วงที่คล็อปป์เข้ามาคุมลิเวอร์พูล นัดแรกเจอสเปอร์ส เขาบอกว่านักเตะสเปอร์สดูดีมากในชุมวอร์มสีน้ำเงิน ส่วนลูกทีมของเขาอยู่ในชุดวอร์มที่ไม่สมประกอบ คับไปบ้าง หลวมไปบ้าง จนเรียกได้ว่า ลิเวอร์พูล แพ้ตั้งแต่ช่วงวอร์มอัพ หรือในช่วงที่อลิสซอน บาดเจ็บ คล็อปป์ก็เล่าเป็นฉากๆ ตั้งแต่การขอย้ายทีมของซิมง มิโญเล่ต์ การบาดเจ็บของเคลเลเฮอร์ และการส่งอาเดรียน ลงสนาม
เราจะได้เห็นมุมมอง ความคิดของเหล่านักเตะชุดประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูลว่าคาแรคเตอร์ นอกสนามเป็นเช่นไร เช่น จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีม ที่ทุ่มเททุกอย่างเพื่อฟุตบอล ทุ่มเททุกอย่างเพื่อลิเวอร์พูล เขาบอกว่า เขาสามารถลงสนามไปเล่นในแม้ตัวเองยังบาดเจ็บอยู่ การนั่งดูเพื่อนเล่นเป็นสิ่งที่เขาเจ็บปวดมากกว่า
การได้ยิน และได้ฟังบทสัมภาษณ์ของเฮนเดอร์สันใน The End of the Storm ทำให้ยิ่งยอมรับในตัวตนของกองกลางรายนี้เข้าไปอีก เขาเข้ามาในทีมตั้งแต่อายุ 19 ด้วยความคึกคะนอง จนทำให้ช่วงเวลานั้นเขาตัดสินอะไรหลายอย่างผิดพลาด หนึ่งในนั้นคือการเสียบใส่ ซาเมียร์ นาสรี่ จนโดนโทษแบน 3 นัด ส่งผลไปถึงการพลาดแชมป์ของลิเวอร์พูลในปีนั้น
และจากเด็กวัยรุ่นที่ถูก เคนนี่ ดัลกลิช ดึงตัวเข้ามาขัดเกลาฝีเท้า จนก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมลิเวอร์พูล และก้าวขึ้นมาเป็นผู้ชูถ้วยแชมป์ลีกอีกครั้งของลิเวอร์พูล ต่อจาก "คิงเคนนี่" ผู้ซึ่งดึง และขัดเกลา เฮนเดอร์สัน มันเป็นความพอดีที่น่าขนลุก และน่าประทับใจอย่างที่สุด
แน่นอนไม่มีใครรู้ว่าในปีนั้น ลิเวอร์พูล จะฝ่าฟันพายุจนก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ได้ ไม่มีใครรู้อนาคต แต่หลังจากผ่านมาครึ่งทางของฤดูกาล ฟ้าของลิเวอร์พูล เริ่มสดใสขึ้นเรื่อยๆ และท้องฟ้าสีทองดั่งในเพลงประจำสโมสรกำลังจะกลายเป็นจริง
แต่อย่าลืมไปว่าพายุไม่ได้มีเพียงลูกเดียว พายุลูกแรกที่อยู่กับลิเวอร์พูลมา 30 ปี กำลังอ่อนแรงลงในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก แต่พายุลูกใหม่นามว่า โคโรน่าไวรัส 2019 ก่อตัวมาเบียดบังท้องฟ้าที่กำลังกลายเป็นสีทองของเหล่าเดอะค็อป แทบจะในทันที
หลังจบเกมกับบอร์นมัธ ลิเวอร์พูล เหลือการแข่งขันอีก 9 เกมในพรีเมียร์ลีก โดยมีแต้มห่างจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 22 คะแนน ใครดูก็บอกว่า "หงส์แดง" ไม่มีทางพลาดแชมป์พรีเมียร์ลีก แต่โควิด-19 ดันแวะเข้ามาทำให้การแข่งขันฟุตบอลทั่วโลกต้องหยุดลง
ตลอดเวลาที่ฟุตบอลต้องหยุด สิ่งที่ลิเวอร์พูล ต้องเจอคือข่าวการยกเลิกการแข่งขัน ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้พวกเขาไม่ได้แชมป์ลีก และใน The End of the Storm จะทำให้เหล่าแฟนบอลได้รับรู้ถึงความเครียด ความกดดัน เราจะได้เห็นความสำคัญของคำว่า "ฟุตบอล" และคำว่า "ชีวิตคน" ที่ถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีมากๆ จากเหล่านักเตะ และตัวคล็อปป์เอง ในช่วงเวลาร่วมๆ 4 เดือนที่โลก และฟุตบอลเปลี่ยนไปแบบพลิกฝ่ามือ รวมถึงได้เห็นความเป็นทีมที่ เยอร์เก้น คล็อปป์ สร้างขึ้นมาจนทำให้ลิเวอร์พูลเดินหน้าคว้าแชมป์ลีกได้ในท้ายที่สุด
ฉากสุดท้ายที่เหล่าสเก๊าเซอร์ ใฝ่ฝันถึงยามทีมกลับมาทวงแชมป์ลีกสูงสุดคือภาพที่กัปตันทีมชูถ้วยแชมป์โดยมีภาพพื้นหลังเป็นเหล่าเดอะ ค็อป เต็มแอนฟิลด์ พร้อมใจกับร้องเพลง You'll Never Walk Alone แต่โควิด-19 เข้ามาทำลายภาพฝันลงแบบไม่มีชิ้นดี จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ชูถ้วยพรีเมียร์ลีก ในแอนฟิลด์ ที่ไร้กองเชียร์
แต่โควิด-19 ทำลายได้แค่เพียงภาพฝัน ไม่ได้ทำลายจิตใจอันเข้มแข็งของสเก๊าเซอร์ แม้ไม่ได้อยู่ในแอนฟิลด์ยามทีมชูถ้วยแชมป์ แต่คล็อปป์ ทำให้รู้ว่า เดอะ ค็อป คือสิ่งสำคัญที่สุดที่พาลิเวอร์พูล ก้าวขึ้นมาได้ถึงจุดนี้
The End of the Storm จบลงด้วยบทเพลง You'll Never Walk Alone ที่ขับร้องโดยลาน่า เดล เรย์ ที่คอยย้ำว่า "จะไม่มีใครต้องเดินฝ่าพายุอย่างเดียวดาย จะไม่มีใครต้องเดินเพียงลำพัง"
The End of the Storm เหมาะสำหรับแฟนฟุตบอลทุกคน ทุกทีม ไม่ว่าคุณจะเชียร์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอฟเวอร์ตัน หรือเรอัล มาดริด และหากคุณเป็น เดอะค็อป คุณยิ่งต้องห้ามพลาดสารคดีเรื่องนี้ และคุณอาจจะต้องเสียน้ำตาให้กับ The End of the Storm กลับไปด้วย
โฆษณา