26 ม.ค. 2021 เวลา 08:24 • ยานยนต์
สถิติใบสั่งจราจร 2563 คนไทยชักดาบ 13 ล้านใบ กลางปีนี้เจอของจริง!
ถ้าคุณโดนใบสั่งจราจร ส่งไปรษณีย์ถึงบ้าน คำถามคือ คุณจะจ่ายไหม..?
ถ้าคุณเลือกจ่าย.. แสดงว่าคุณคือคนส่วนน้อยของสยามประเทศ!
เมื่อเร็วๆ นี้ มีข่าวสาวรายหนึ่งโดนใบสั่งจราจรจำนวนมากกว่า 300 ใบ ด้วยความสุดจะทนของเจ้าหน้าที่ จึงได้เข้ารวบรวมความผิด กระทั่งศาลออกหมาย และตามไปจับถึงที่บ้าน กลายเป็นข่าวฮือฮา และวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคม
2
ที่ผ่านมา เคยมีเคสลักษณะอย่างนี้แล้วหลายครั้ง เป็นข่าวครึกโครมมาหลายหน คำถามคือ ทำไม “คนไทย” ไม่กลัวการกระทำผิดกฎหมายจราจรเลย ทั้งที่ "การจราจร สะท้อนวินัยชาติ" แต่..คำตอบของคำถามนี้ ผู้เขียนได้รับการบอกเล่าจาก พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล. และก็เริ่มเข้าใจ
1
สาเหตุที่คนไทยไม่กลัวความผิด เพราะ “ใบสั่ง” มีอายุความ 1 ปี และกำลังของเจ้าหน้าที่ที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็มีน้อยนัก จะไปไล่ตามจับกับเรื่องนี้อย่างนี้ก็เสียทั้งงบประมาณและกำลังคน
อีกทั้งใบสั่ง 1 ใบ ยังมีค่าใช้จ่ายจิปาถะมากมายในการดำเนินงาน เริ่มตั้งแต่ ค่าส่งใบสั่งทางไปรษณีย์ จะต้องใช้เงิน 19 บาท
แต่ประเด็นคือ แค่ส่งไปรษณีย์แล้วมันไม่จบนาสิ! มันยังมีค่าดำเนินการต่างๆ ที่ต้องใช้กำลังคนมากมาย เสียเงินเดือนให้กับตำรวจ บุคลากรจากหน่วยงานอื่นๆ อีก ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลแล้ว พล.ต.ต.เอกราช บอกกับผู้เขียนว่า รวมค่าใช้จ่ายต่อใบราวเกือบ 10,000 บาท ซึ่งต้นทุนการติดตามขนาดนี้ จะมาตามไล่บี้เพื่อเรียกค่าปรับ 1,000 บาท รับสารภาพลดค่าปรับเหลือ 500 บาท มันก็ดูแปลกๆ ว่าไหม..?
2
ด้วยทั้งหมดทั้งมวลที่ว่ามานี้ จึงแปลไทยเป็นไทยว่า ตำรวจไม่มีปัญญาไปวิ่งไล่จับคนทำผิด จะไล่จับก็เสียค่าใช้จ่ายเยอะกว่ารายรับ มันจึงเป็นช่องโหว่ให้ คนไทยเลือก..ชักดาบ! เพราะแป๊บๆ ใบสั่งก็หมดอายุความเสียแล้ว
2
:: เปิดสถิติใบสั่งปี 2563 แจก 15 ล้านใบ ชักดาบ 13 ล้านบาท!
จากข้อมูล สถิติการออกใบสั่งจราจร ปี 2563 (1 ม.ค.-31 ม.ค.63) ในระบบ Police Ticket Management ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยคณะทำงานเทคโนโลยีบังคับใช้กฎหมาย เปิดเผยตัวเลขที่น่าตกใจ..ทุกปี (ฮา)
1
ในปี 2563 มีการแจกใบสั่งทั้งสิ้น 15,837,054 ใบ แบ่งเป็นทางไปรษีณีย์ส่งถึง บ้าน 13,446,537 ใบ และเป็นเล่ม 2,390,517 ใบ ผลปรากฏว่า มีผู้มาจ่ายค่าปรับใบสั่งที่ส่งทางไปรษณีย์ 1,100,701 คิดเป็น 8% ส่วนคนมาจ่ายค่าปรับเป็นเล่ม 1,717,975 ใบ คิดเป็น 72% ส่วนคนไม่จ่ายค่าปรับใบสั่ง ที่ส่งทางไปรษณีย์ 12,345,836 ใบ คิดเป็น 92% แบบเล่ม 672,542 ใบ คิดเป็น 28%
ก่อนหน้านี้ มีข้อกังวลกันว่า หากไม่จ่ายค่าปรับอาจจะต่อภาษีรถยนต์ไม่ได้ กระทั่งมีการชี้แจงต่อมา ความจริงคือ สามารถต่อภาษีได้ตามปกติ แต่จะยังไม่ได้ “ป้ายวงกลม” ซึ่งเจ้าหน้าที่จะให้เอกสารหลักฐานการต่อภาษีให้ แต่จะได้ป้ายวงกลมก็ต่อเมื่อไปค่าปรับเสียก่อน
ในความเป็นจริง วิธีการนี้อาจจะไม่เพียงพอ สำหรับกลุ่มคนบางกลุ่มที่คิดหลบเลี่ยง มิเช่นนั้น คงไม่เห็นคนค้างจ่ายใบสั่ง 200-300 ใบหรอก
วิธีการแก้ปัญหาในอนาคตสำหรับเรื่องนี้ พล.ต.ต.เอกราช บอกกับผู้เขียนว่า ทางออกของเรื่องนี้คิดว่าเป็นหนทางที่ดีที่สุด คือ การใช้ระบบการตัดคะแนนความประพฤติ หากได้รับใบสั่งแล้วจงใจไม่เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย เราก็จะตัดแต้มคุณ หากตัดหมด 12 คะแนน (คะแนนเริ่มต้น) คุณจะโดนคำสั่งห้ามขับรถ 90 วัน หากยังทำอีก หรือทำผิดซ้ำซากจะถูกเพิกถอนใบขับขี่ ห้ามขับรถตลอดชีพ
ตรงนี้เป็นมาตรฐานของต่างประเทศ ซึ่งถือว่าใช้แล้วได้ผลดี นอกจากจะแก้ปัญหาเรื่องวินัยจราจรได้แล้ว ยังส่งผลต่อยอดการเจ็บตายจากอุบัติเหตุด้วย โดยจากสถิติของต่างประเทศ สามารถลดอุบัติเหตุได้ 20%
2
ส่วนวิธีการคิดคะแนน หากทำความผิดเล็กน้อย คุณก็อาจจะโดนตัด 1 คะแนน ร้ายแรง 2 หรือ 3 คะแนน หากทำผิดอีกก็ตัดไปเรื่อยๆ โดยคุณจะได้คะแนนกลับมาใหม่ก็ต่อเมื่อครบ 1 ปี นับตั้งแต่คุณเริ่มโดนตัดคะแนน
ผู้การทางหลวงบอกว่า คาดว่าจะสามารถบังคับใช้กฎหมายตัวนี้ได้ช่วงกลางปีนี้ เพราะได้เริ่มต้นร่างมานานแล้ว ตั้งแต่กลางปี 2562 ผ่านมาหลายกระบวนการ จนกระทั่งเหลือเพียงการลงนามของกระทรวงคมนาคม
1
จริงๆ เรื่องนี้ถือ เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข (เสียที) ส่งผลให้ปัญหาหมักหมม บ่มเพาะความเชื่อผิดๆ ลดความศักดิ์สิทธิ์ของ “กฎหมาย” ถ้าหากกลางปีนี้มีการบังคับใช้กฎหมายใหม่ หวังว่าน่าจะมากกว่าปีก่อนๆ ที่เก็บได้เพียง 600 ล้านบาท อุบัติเหตุจากสาเหตุ “ขับรถเร็ว” บนท้องถนนก็อาจจะลดลงไปด้วย
ผู้เขียน : อาสาม
กราฟิก : sathit chuephangam
1
ข้อมูลสถิติ : พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.จร.
1
👇 อ่านบทความต้นฉบับ👇
โฆษณา