27 ม.ค. 2021 เวลา 02:45 • การศึกษา
โยมถาม
ต้องทำอย่างไรชีวิตถึงจะประสบความสำเร็จครับ...?
พระอาจารย์ตอบ
ลองมาดูเรื่องราวชีวิตจริงที่เกิดขึ้นของคนๆ หนึ่ง เขาเกิดมาในครอบครัวยากจนที่สหรัฐอเมริกา เกิดมาได้ไม่นานพ่อแม่ก็แยกทางกัน มีโอกาสได้เรียนหนังสือแค่ระดับการศึกษาภาคบังคับ พอจบมัธยมศึกษาก็ต้องออกมาทำงาน
เขาทำงานไม่ประสบความสำเร็จ ในระยะเวลา 2 ปี เขาเปลี่ยนงาน 3-4 แห่ง ทำงานอยู่ไม่กี่เดือนก็ย้ายเพราะมีปัญหา เขาตัดสินใจแต่งงานตั้งแต่อายุ 18 ปี มีลูก 1 คน อยู่กินกันได้ปีเดียวภรรยาก็ทิ้งไป เพราะทนความลำบากไม่ไหว
เมื่อมองไม่เห็นอนาคต เขาจึงตัดสินใจไปสมัครเป็นทหาร อยู่ได้ไม่นานก็ต้องออกจากทหาร จะไปเรียนกฎหมายก็ไม่ดี จะไปทำอะไรก็ไม่รุ่ง สุดท้ายพออายุย่างเข้า 24 ก็ไปสมัครเป็นพ่อครัวที่ร้านอาหารเล็กๆ แห่งหนึ่ง ซึ่งที่นี่มีคนงานอยู่คนเดียว เขาจึงเป็นทั้งพ่อครัวและพนักงานเสริฟ พอบ่ายแก่ๆ ลูกค้าน้อยลงแล้ว เขาก็ไปเป็นพนักงานทำความสะอาด เสร็จเรียบร้อยจึงได้พัก จะยุ่งอีกทีก็ช่วงเย็นไปแล้ว
ตอนบ่ายพอมีเวลาว่างเขานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้วเริ่มคิดมาก คิดถึงภรรยา คิดถึงลูก เกิดความรู้สึกเหงาเหลือเกิน จึงไปแอบซุ่มดูที่บ้านภรรยาเก่า เห็นลูกกับภรรยาออกมาเดินเล่นตอนเย็นๆ จนสุดท้ายเขาคิดการใหญ่ว่าจะขโมยลูกตนเอง
พันเอก ฮาร์แลนด์ เดวิด แซนเดอส์ (วัยหนุ่ม)
เขาเริ่มวางแผนเอาเงินที่เก็บไว้ไปเช่ารถ วางแผนว่าพอตกเย็นจะขับรถไปจอดห่างๆ แอบซุ่มตรงพุ่มไม้ พอภรรยากับลูกออกมาเดินเล่นที่สนามหน้าบ้าน ภรรยาเผลอเข้าไปในบ้านเมื่อใด เขาก็จะวิ่งเข้าไปอุ้มลูกขึ้นรถหนีทันที
เย็นวันนั้นเขาเริ่มลงมือตามแผน พอเช่ารถมาได้ปรากฏว่า วันนั้นภรรยาไม่พาลูกออกมาเดินเล่นที่สนามหญ้าเหมือนเคย เงินที่มีก็เอาไปเช่ารถหมดแล้ว แผนที่วางไว้จึงล่มไม่เป็นท่า วันต่อมาจะไปเช่ารถอีกก็ไม่มีเงินเหลือแล้ว เขารู้สึกเบื่อตนเองมาก ขนาดคิดจะก่ออาชญากรรมก็ยังล้มเหลว รู้สึกว่าทั้งชีวิตมีแต่ความล้มเหลว จึงหันกลับมาทำงานที่ร้านอาหารเหมือนเดิม
ต่อมาไม่นานก็พอมีเรื่องให้ชื่นใจขึ้นมาบ้าง เพราะภรรยาของเขาใจอ่อนยอมกลับมาอยู่ด้วยกัน เขาใช้ชีวิตแบบเดิมๆ จนเกษียณอายุ สิ้นเดือนก็ได้รับเช็คเป็นเงินสวัสดิการสังคมของผู้เกษียณอายุในสหรัฐอเมริกาประมาณ 90 เหรียญ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,000 บาท
พอได้เห็นเช็คใบนี้เขาก็นึกถามตนเองว่า นี่สินะคือประจักษ์พยานว่าชีวิตเรานับแต่นี้จะกลายเป็นคนไร้ค่า เป็นภาระของสังคมที่รัฐบาลต้องดูแล พอนึกอย่างนี้แล้วก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ใจจนคิดจะฆ่าตัวตาย
แต่ก่อนจะตายเขาได้ลองนึกทบทวนว่าชีวิตที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง พอจะมีเรื่องอะไรที่ประสบความสำเร็จทำให้ชื่นใจได้บ้าง พอหยิบกระดาษจะมานั่งเขียน ปรากฏว่านึกไม่ออกเลย ตรงกันข้าม เรื่องความล้มเหลวในชีวิตกลับเขียนได้เป็นหน้ากระดาษเลยทีเดียว
(ขวา) พันเอกฮาร์แลนด์ เดวิด แซนเดอส์ (ซ้าย) คลอเดีย เลดิงตัน ภรรยาคนที่สอง ปี 1948 Cr : www.dailymail.co.uk
เขานึกได้ว่าถ้าจะฆ่าตัวตายตอนนี้ก็ดูว่าชีวิตมันหดหู่ไปหน่อย ขอทำอะไรดีๆ สักอย่างก่อน แล้วค่อยตายดีกว่า เขาตัดสินใจไปธนาคารเพื่อขอกู้เงิน คิดการใหญ่โดยไม่มีหลักทรัพย์อะไรเลย บ้านก็ไม่มี รถก็ไม่มี เขาจึงใช้หลักทรัพย์เป็นสวัสดิการสังคมของตนเองทุกเดือน
ธนาคารใจดีให้กู้ 90 เหรียญ ซึ่งคิดเป็นเงินไทยประมาณสามพันบาทเท่านั้น พอได้เงินมาแล้ว เขาก็ไปซื้อเตากับตะแกรง เพราะสิ่งเดียวที่ตนเองทำได้และทำมาตลอดชีวิตก็คืออาหาร
ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจทำไก่ทอดขายตามหมู่บ้านจัดสรร ปรากฏว่าขายดี ได้กำไรก็ไปซื้อไก่มาทำอีก เขาสามารถขยายกิจการไปได้เรื่อยๆ จนกระทั่งเปิดสาขาไปทั่วโลก
ปัจจุบัน เรารู้จักเขาในนามเจ้าของกิจการไก่ทอดขนาดใหญ่ เคเอฟซี (KFC) หรือไก่ทอดเคนทักกี (Kentucky Fried Chicken) นั่นเอง เขาพบเจอกับความล้มเหลวมาตลอด 60 ปี แต่พออายุ 80 กลับกลายเป็นมหาเศรษฐีแสนล้านที่มีเครือข่ายร้านขายไก่ทอดอยู่ทั่วโลก
คนที่กำลังคิดว่าตนเองมีความรู้น้อย มีต้นทุนต่ำ พวกพ้องไม่มี หรือมีอายุมากแล้ว ให้ดูเขาเป็นตัวอย่าง แค่เรามีตัวกับหัวใจที่ทุ่มเทจริงๆ และมีพลังบุญภายในหนุนส่ง เราก็มีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิต เพราะฉะนั้น อย่าท้อถอยในชีวิต ขอให้สู้เถิด ตั้งใจสร้างบุญกุศลแล้วทุ่มเทวิริยะอุตสาหะ ทำงานอย่างเต็มที่ สุดท้ายความสำเร็จจะเป็นของเรา
เจริญพร

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา