29 ม.ค. 2021 เวลา 01:43 • การศึกษา
ความสมบูรณ์แบบ หรือ Perfectionist เป็นสิ่งที่ดีแน่นอน การทำอะไรให้ไม่มีข้อบกพร่อง นั้นดีอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องระวังอย่าให้เกินเลยไป จนเกิดผลเสียต่อด้านอื่นๆ
ประเทศญี่ปุ่นนั้น ประชาชาชนเขาอัธยาศัยค่อนไปทางเนี้ยบ หรือเรียบร้อยดูดีทุกกระเบียด ประณีตพิถีพิถันไม่มีที่ติ ยกตัวอย่างบรรจุภัณฑ์สินค้าญี่ปุ่นขนมแต่ละชิ้นถูกบรรจุอยู่ในกล่อง พอเปิดกล่องออกมา แต่ละชิ้นยังถูกบรรจุอยู่ในห่ออีกชั้น ห่อแล้วห่ออีกไม่รู้กี่ชั้น อาหารของเขาไม่ได้กินด้วยปากที่รสชาติเพียงอย่างเดียว แต่ก็เป็นอาหารตาด้วย
อย่างหัวผักกาดขาว ถ้าผิวขาวเนียนจะขายได้ราคาดี สมมุติว่าขายราคา 100 บาท เชื่อหรือไม่ว่า ลูกที่ผิวมีจุดดำๆ หรือเป็นตำหนิอะไรขึ้นมาบ้างสัก 2-3 จุด จากราคา 100 บาท จะลดลงเหลือ 50 บาท ทันที
1
ถ้าเป็นเราเจอจุดที่มีตำหนิก็เอามีดฝานออกก็พอแล้ว แต่คนญี่ปุ่นไม่เป็นอย่างนั้น พอสินค้ามีตำหนิราคาตกทันที ยิ่งถ้ามีตำหนิดำๆ เพิ่มมาสัก 7-8 จุด หรือยิ่งถ้าหัวผักกาดขาวรูปทรงออกโค้งงอไม่ตรงยาวด้วยแล้ว ขายไม่ได้เลย ไม่มีคนซื้อ
พอให้ความสำคัญกับความสวยงามของสินค้ามาก ผลที่ตามมาคือ บรรจุภัณฑ์สินค้าในประเทศญี่ปุ่นแต่ละชิ้นต้องเนี้ยบหมดทำให้สินค้าญี่ปุ่นตีตลาดโลกได้เพราะ Package หรือบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม
สมัยนี้บรรจุภัณฑ์สำคัญมากเพราะเป็นความประทับใจแรกสร้างภาพลักษณ์ที่ดีได้ ที่ประเทศญี่ปุ่นพอเราไปซื้อของ เขามักจะห่อของขวัญให้เลย อย่างถ้าไปซื้อหนังสือ เขาก็จะมีกระดาษห่อให้เลยทุกเล่ม
แต่ในประเทศไทย ถ้าเราจะซื้อของขวัญ เราต้องบอกพนักงานในห้างสรรพสินค้าให้เขาห่อให้ แล้วในประเทศไทยจะห่อของขวัญชิ้นหนึ่งต้องใช้สกอตช์เทปปิดเป็น 10 ชิ้น ตอนแกะห่อต้องมาไล่แกะสกอตช์เทปทีละชิ้น
แต่ที่ประเทศญี่ปุ่นเขาใช้วิธีห่อของขวัญเหมือนกันทั้งประเทศ คือใช้สกอตช์เทปเพียงชิ้นเดียวในตำแหน่งสุดท้าย พอตอนแกะห่อก็แกะสกอตช์เทปออกชิ้นเดียวเปิดได้หมด ง่ายมากแล้วก็สามารถนำกระดาษห่อกลับไปใช้ต่อได้อีก
พอมีคนคิดค้นวิธีห่อของขวัญแบบนี้ออกมา แล้วเห็นกันว่าดีสะดวก เขาก็จะเรียนรู้ต่อๆ กัน แล้วทำตามกันทั้งประเทศ ไม่ว่าร้านเล็กร้านใหญ่ ห้างสรรพสินค้าทุกแห่งทำเหมือนกันหมด ใช้สกอตช์เทปชิ้นเดียวจบ อะไรที่ทำแล้วดี เขาก็จะทำแล้วขยายผลไปนี่คือลักษณะ Perfectionist อย่างหนึ่ง อาตมภาพยังนึกว่าทำไมประเทศไทยเราไม่ทำบ้าง
คนญี่ปุ่นลงรายละเอียดต่างๆ ได้ดีมาก ซึ่งเป็นนิสัยจุดเด่นของประชาชาติเลยทีเดียว เราก็ต้องกลับมาสังเกตตนเองว่า งานที่เราทำคืองานอะไร ถ้าทำให้เนี้ยบ ละเอียดลออ ผลงานก็ย่อมดีกว่าอยู่แล้ว แต่ถ้าแลกกับบางอย่างที่มากเกินไป เราก็ต้องชั่งน้ำหนักด้วย
1
เช่น เราอยากให้งานออกมาสมบูรณ์แบบจึงทุ่มเวลาทำงานจนต้องเข้านอนตีสามทุกคืนอย่างนี้ก็ไม่ไหว งานอาจจะออกมาดีแต่ว่าผ่านไปเจ็ดวันร่างกายทรุด ป่วยเข้าโรงพยาบาลก็ไม่คุ้มกัน
ต้องยอมว่าชีวิตจริงเราต้องวิ่งมาราธอนทุกวัน ไม่ได้วิ่งแค่วันละ 2 ชั่วโมงแล้วนอน เพราะฉะนั้น เราต้องรักษาสุขภาพให้ได้ในระยะยาว อะไรที่ต้องแลกกับเวลา หรือแลกกับสุขภาพมากเกินไปเราก็ต้องปรับให้พอเหมาะพอสม เป็นต้น
เจริญพร
1
โฆษณา