28 ม.ค. 2021 เวลา 06:48 • ปรัชญา
บทความที่ 69 หลานๆที่ขี้เกียจต้องอ่าน
วันนี้ปู่IOU ตื่นเช้ามารู้สึกขี้เกียจ จึงลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจ Oops! บิดขยัน 555 แกว่งแขน 100-200 ครั้งเขย่งขาที่ปลายเท้า หายใจลึกๆกลั้นไว้ 10 วินาที แล้วค่อยๆถอนหายใจออกทางปากใครเคยเป็นเยี่ยงนี้ขอให้คอมเมนท์บอกกันหน่อย 555
แต่ทุกครั้งที่ปู่รู้สึกแบบนี้ วิธีแก้ไขของปู่คือ “การฟังเพลง” มันแปลกแต่จริงการฟังเพลงจะช่วยให้ปู่รู้สึกเหมือน14 หยกๆอีกครั้ง มันทำให้ปู่รู้สึก กระปรี้กระเปร่ามากๆ ปู่จะเปิดเพลงยุคปู่ 60-70 ล้วนเป็นเพลง อมตะ แนวๆ เอลวิส เพรสลีย์ Elvis Presley, Cliff Richard, Andy William, Engel Bird, Hank William, Sue Thomson, Frank Sinatra, Marilyn Monro, etc.
(มันค่อนข้างเก่า Classic) เชื่อว่าหลายๆคนคงอาจไม่เคยได้ยิน แต่ถ้าบอกชื่อ พี่ตูน บอดี้แสลม, น้าแอดคารเบาว์ อันนี้ปู่ว่าทุกคนคงรู้จักกัน กลับมาต่อที่การเปิดเพลงปู่ฟังเพลง+ร้องตามแล้วรู้สึกมันช่วยให้หายขี้เกียจ ยุคปู่ยังมี Jukebox คือตู้เพลงหยอดเหรียญฟังเพลงยอดนิยมที่วัยรุ่นวัยลุ้นชื่นชอบจะเต้นแร้งเต้นกาอย่างสนุกสนานเมามันส์
ปู่เลยอยากคลายปมความข้องใจไปถามอากู๋ (google) แล้วก็พบว่า เสียงคือคลื่นสัญญาณไฟฟ้าที่ถูกส่งไปยังสมองโดยตรง การฟังเพลงและคลื่นเสียงก็เหมือนกับได้ออกกำลังกายสมอง ส่งคลื่นไฟฟ้าไปยังสมอง กระตุ้นการทำงาน อารมณ์ รวมไปถึงความจำ ซึ่งสมองแต่ละส่วนก็ทำงานต่างกันไป และมากกว่านั้นสามารถรักษาอาการโรค อัลไซเมอร์ ได้ปู่เลยไม่แปลกใจเลยที่ความจำยังดีกว่าๆเพื่อนๆรุ่นเดียวกันมาก (ขอโม้หน่อย555)
2
เพลงจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง หากเราเลือกเพลงหรือคลื่นเสียงได้ตรงประเภทงานแล้ว Productivity หรือผลงานก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย ส่วนเพลงและคลื่นเสียงแบบไหนช่วยเรื่องอะไรบ้าง Classic Music ตัวช่วยชั้นเริดสำหรับงานใช้ตรรกะและความจำ ...
• Nature Music ผ่อนคลายสมองเมื่อต้องทำงานยาว ๆ ...
• White Noise กันเสียงรบกวนรอบข้าง โฟกัสได้มากขึ้น ...
• Epic Music ปลุกพลังการเคลียร์งานกองโต ...
• Game Music สำหรับงานออกแบบและวางแผนสุดท้าทาย ...
• Pump Up Song บีทแรง ๆ กับงานและการแข่งสุดหิน
2
นักวิจัยชี้ว่าสมองส่วนที่ตอบสนองต่อเสียงเพลงนั้นวิวัฒนาการมาก่อนสมองส่วนที่เชื่อมโยงกับการเรียนรู้ด้านภาษา และนักวิจัยหลายคนยังเชื่อว่ามนุษย์พัฒนาเสียงเพลง ดนตรี และการเต้นรำขึ้นมาเพื่อช่วยในการดึงข้อมูลบางอย่างออกจากความทรงจำ ตัวอย่างเช่น งานวิจัยของศาสตราจารย์ David Rubin แห่งมหาวิทยาลัย Duke ที่ชี้ว่า วรรณกรรมสำคัญของโลก เช่น มหากาพย์ Iliad และ Odyssey รวมทั้งนิยายพื้นบ้านหลายประเทศ ถูกถ่ายทอดต่อๆ กันมาโดยใช้วิธีบอกเล่าผ่านบทกวีที่มีสัมผัสสระอักษร และจังหวะเหมือนเสียงเพลง เพื่อให้สามารถถ่ายทอดผ่านยุคสมัยต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ
ศาสตราจารย์ Henry Roediger III สรุปว่า มนุษย์สามารถฝึกฝนพัฒนาสมองให้สามารถจดจำสิ่งต่างๆ และเรียกความทรงจำได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการเรียนรู้ที่จะจดจำสิ่งต่างๆเป็นจังหวะดนตรี นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเด็กเล็กในอเมริกาแทบทุกคนจึงต้องถูกฝึกฝนให้จดจำอักษรภาษาอังกฤษเป็นจังหวะดนตรี
1
อย่างไรก็ตามการฟังเพลงเป็นเรื่องที่ดีปู่อยากให้ทุกคนลองเปิดฟังและเลือกฟังเพลงหลายๆแนวเพื่อให้ตรงกับสไตล์ของตัวเอง และที่สำคัญเปิดด้วยความดังที่เหมาะสมและไม่รบกวนเพื่อนข้างบ้านหรือเพื่อนร่วมงาน
#IOU #ความขี้เกียจ #ฟังเพลง
โฆษณา