Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
บันทึกของหมาอ้วน
•
ติดตาม
1 ก.พ. 2021 เวลา 10:22 • นิยาย เรื่องสั้น
บันทึกของหมาอ้วน ตอนที่ 3: อย่ามาอำผมนะ ผมรู้
ไม่นึกเลยคุณย่าเยอรมันที่อายุเลยห้าสิบห้าแล้ว จะยังแข็งแรงและมั่นคงไม่แสดงอาการตกใจใด ๆ แม้แต่น้อย เธอขับรถญี่ปุ่นสีเงินคันใหญ่สี่ประตูสี่ที่นั่ง นำพาสามชีวิตไปตามหาชีวิตน้อย ๆ ที่สี่อย่างรวดเร็ว โดยไม่ลืมว่ามีแม่ที่ท้องแก่ใกล้คลอดนั่งขดตัวอยู่ด้านหลัง แม่ที่เคยแสดงอาการเจ็บจนทนไม่ไหวหลายครั้งที่บ้าน เมื่ออยู่กับคุณย่าแล้วแม่ก็รู้สึกเหมือนอยู่กับแม่แท้ ๆ ของตัวเอง ด้วยความรู้สึกอบอุ่นนี่เอง ทำให้อาการเจ็บปวดที่เคยมีถี่ทุก ๆ 7 นาที เริ่มบรรเทาเบาบางลง รวมถึงมีความเชื่อมั่นว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี
หมาอ้วนตอนที่กลับบ้านแล้ว
คุณย่ามีลูกสาวอายุ 17 ปี (ณ วันที่เขียน) เพียงคนเดียว แต่ดูเหมือนเธอมีประสบการณ์มากมาย และพร้อมที่จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการคลอดได้ทุกเรื่อง พ่อเองตอนนี้นอกจากภาษาเยอรมันที่ไม่รู้เอาซะเลย ภาษาอังกฤษที่งู ๆ ปลา ๆ มาตลอดอยู่แล้วก็ดู เหมือนมันจะกลายเป็นจิ้งเหลนไป พูดไม่ได้ ฟังไม่รู้เรื่อง ซึ่งนี่มันสร้างปัญหาอย่างมาก เพราะภาษาอังกฤษเป็นเพียงภาษาเดียวเท่านั้นที่ย่ากับเราจะสามารถสื่อสารกันได้ (คุณจะลืมภาษาที่ 2 และ 3 ไปหมด ในช่วงเวลาที่ตื่นเต้น) แต่ย่าเยอรมันก็ดูเหมือนจะเข้าใจภาษาประหลาดของพ่อได้อย่างน่าอัศจรรย์ หรือว่าย่าแกล้งเข้าใจกันนะ
แม่ถูกพาไปนั่งยังที่พักผู้ป่วย ในขณะที่พ่อเจรจาเรื่องประกันโดยใช้ภาษามือ ส่วนย่าเยอรมันไปหาที่จอดรถที่ไกลออกไป พ่อมีความรู้ภาษาเยอรมันน้อยมาก แต่มีความสามารถพิเศษในการสื่อสาร ถึงแม้พ่อจะฟังไม่รู้เรื่องว่าผู้พูดพูดอะไร แต่พ่อก็เข้าใจเรื่องที่คุยมากกว่า 70% (ได้ยังไงก็ไม่รู้) พ่อสามารถยื่นเอกสารถูกฉบับได้ทันทีที่เจ้าหน้าที่ร้องขอ แล้วบอกให้เจ้าหน้าที่รอย่าเยอรมันเพื่อให้การสื่อสารเข้าใจกันได้ครบถ้วน และดูเหมือนเจ้าหน้าที่พยาบาลผู้นั้นก็เข้าใจ
เวลาก็ผ่านไปราว ๆ 20 นาที ทุกอย่างก็เรียบร้อยเป็นไปตามความคาดหมาย คือพ่อเริ่มคุยกับเจ้าหน้าที่ไม่รู้เรื่อง คุณย่าก็ยังไม่มา ในขณะที่แม่นั่งทุรนทุรายและกังวลกลัวว่าพ่อจะทำอะไรผิด ถ้าเป็นเวลาปกติแม่คงทำทุกอย่างเรียบร้อยไปแล้ว แต่ตอนนี้อย่าว่าแต่จัดการเรื่องต่าง ๆ เลย แค่ลุกยังไม่ค่อยจะไหว หน้าของแม่ซีดและปราศจากสีเลือด ก็คงจะเหมือนไก่หรือไข่ต้มเนี่ยแหละ ตอนนี้ไม่มีใครแน่ใจได้ว่าระหว่างพ่อ เจ้าหน้าที่ และแม่ ใครจะเครียดกว่ากัน ทุกคนมีเหงื่อเม็ดเล็กที่หน้าหมด
เวลาผ่านไปอีกอึดใจใหญ่ ๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะสาย คุณย่าเยอรมันก็พาร่างของคนมีอายุที่ขาไม่ค่อยดีขึ้นเขา เดินผ่านประตูแบบหมุนได้ของโรงพยาบาลเข้ามา ภาพที่ทุกคนเห็นเหมือนกับนางฟ้าแม่ทูลหัวตัวใหญ่ที่มีแสงประกายรอบตัว (โรงพยาบาลแห่งนี้อยู่บนยอดเขา เตี้ย ๆ ลูกหนึ่ง และมีที่จอดรถอยู่เชิงเขาด้านล่าง) ทุกคนรวมทั้งผมมีความรู้สึกต่างกันออกไป แน่นอนพ่อน่าจะดีใจที่สุด ย่าเยอรมันเดินเข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่คนนั้นโดยไม่ต้องใช้มือพูด (แหงแหละ) และทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี เจ้าหน้าที่จัดการเรื่องเอกสารเสร็จ มั่นใจว่าประกันจ่ายค่าทำคลอดแน่ ๆ เธอก็ชี้มือให้เราเดินไปทางนั้นแล้วขึ้นบันไดไปหาห้องทำคลอดเอาเอง โดยไม่ลืมย้ำหมายเลขห้อง ถึงตอนนี้พ่อหันมามองหน้าแม่แล้วบ่นพรึมพรำว่าไร ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจนัก
คนที่โรงพยาบาล ก็จัดการกับแม่เหมือนตอนที่ไปหาหมอตรวจครรภ์ประจำเดือนก็คือ แม่ต้องถูกจับวัดการบีบตัวของมดลูก รวมทั้งทำการวัดดูการเต้นของหัวใจน้อย ๆ ของผมว่ายังเต้นดีอยู่หรือเปล่า ปรากฎว่ามันยังเต้นปกตินะ เต้นแรงกว่าหัวใจของแม่อีก การตรวจนี้กินเวลาประมาณ 30 นาที คุณย่าเยอรมันถูกพ่อขอร้องให้มานั่งเป็นเพื่อนแม่ในห้อง ทั้งนี้อย่างน้อยเราจะได้มีคนคุยด้วย ในขณะที่แม่ต้องทนกับอาการเจ็บปวดอยู่นั้น พ่อก็ก็คุยกับย่าไปเรื่อยในทุก ๆ เรื่อง (ภาษาอังกฤษ กลับคืนมาแล้ว) ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ J. W. Bush ไปจนกระทั้งเงินเดือนของ Prof. ผมเองขณะที่พยายามดันหัวออกให้พ้นช่องคลอดอันน้อยนิดของแม่ ก็อดที่จะได้ฟังเรื่องเหล่านั้นไปด้วย
หลังจากผ่าน 30 นาทีอันอึมครึมไป อาการของแม่ก็ดูจะทรง ๆ บางทีอาการปวดก็ดูเหมือนว่ามันจะน้อยลงไปด้วยซ้ำ ทั้งนี้พ่อบอกกับย่าเยอรมันว่า น่าจะเป็นเพราะมีย่าเยอรมันอยู่ด้วยแม่จึงไม่ปวดมาก ย่ายิ้มเพราะรู้ว่าพ่อกลัวว่ามันจะเป็นแค่เจ็บเตือน ในขณะนั้นเองน้องสาวของโรงพยาบาล (แม่ว่างั้น นางพยาบาลในภาษาเยอรมันเขียนว่า Krankenschwester) ก็เดินเข้ามา ในมือเธอมีขวดน้ำยาบางอย่าง เธอใส่ถุงมือยางพารา จากนั้นก็เอาน้ำยาสีม่วงอมน้ำตาลทาไปที่นิ้ว น่ากลัวมาก เธอบอกกับย่าเยอรมันว่าเธอจะตรวจดูช่องคลอดว่าเปิดพอไหม ถ้าไม่พอก็จะให้เด็กน้อยคู่นี้ออกไปเดินเล่นซักชั่วโมง แล้วกลับมาตรวจอีกครั้ง(ตามมาตรฐานเยอรมัน) ถ้ายังไม่เปิดอีกก็จะให้กลับบ้าน ซึ่งคนที่จะตรวจคนต่อไปนั้นไม่ใช่เธอแล้วนะ แต่เป็นเพื่อนของเธอ ว่าแล้วเธอก็บรรจงแหย่นิ้วน้อย ๆ ของเธอเข้าไปในที่ ๆ ผมอยู่ สิ่งที่เธอหานั้นไม่ใช่อะไรที่ไหน แต่เป็นหัวของผมนั่นเอง เธอคำอยู่นานสองนานแล้วทำหน้าไม่ค่อยมั่นใจ ว่าแล้วเธอก็ลองอีกที ช่วงที่จะลองอีกทีนั้นเธอต้องเอานิ้วออกมาก่อน ภาพที่เห็นคือนิ้วเปื้อนเลือดข้น ๆ ของแม่ (น่ากลัวมาก) ถึงตอนนี้พ่อเบือนหน้าหนีตามปกติ ก็พ่อเห็นเลือดไม่ได้มานานแล้ว น้องสาวของโรงพยาบาลได้พยายามลองใหม่อีกครั้ง คราวนี้เธอสามารถวัดความกว้างของช่องคลอดที่เปิดแล้วได้ประมาณ 1-2 เซนติเมตร ซึ่งมันไม่พอเพราะมันต้อง 7-9 เซนติเมตร ทุกคนหันไปมองหน้าเธอรวมทั้งผมด้วย เธอสรุปว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละแต่ตอนนี้ฉันไม่รู้ ขอให้คนจะคลอดไปเดินเล่นซักชั่วโมงให้หนาวเล่นข้างนอกก่อนแล้วกัน เดินนะห้ามไปนั่งเล่น แม่แหงนหน้าดูขื่อเพดานที่มีผ้าลักษณะคล้ายผ้าถุงคล้องเป็นห่วงอยู่อย่างขำ ๆ แล้วก็พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งแบบเซ็ง ๆ
1 บันทึก
2
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
บันทึกของหมาอ้วน
1
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย