1 ก.พ. 2021 เวลา 13:47 • นิยาย เรื่องสั้น
#จันทร์เจ้าขาตอนพิเศษ,
#ที่มาตัวละครผู้กองหนุ่ม
(1/1/2021)
สวัสดีครับ เพื่อนๆ
จันทร์เจ้าขา ในวันนี้.. เป็นตอนพิเศษ ของผู้กองหนุ่ม และนายแพทย์ชอว์ กันต่อนะครับ
สุขสันต์คืนวันจันทร์นะครับ
..
..
บทที่1 ตอนที่ 10 ผู้กองหนุ่ม และนายแพทย์ชอว์ (2)
#ภายในตำหนักช้างพลายดำ,
ก่อนที่คุณหมอชอว์ และผู้กองหนุ่มจะลุกหันหลัง เดินกลับออกไปจากตำหนัก..
ร่างทรงพ่อปู่ ก็ทำท่าสะบัดงวงไปมา..ก่อนที่จะหันกลับมาจ้องทั้งคู่ อย่างไม่วางตา แล้วแผดเสียงดังลั่นตำหนักอีกครั้ง ว่า..
“ผึ้ง หม๋า ถึงกัน จะไป๋ไหนกันล่ะลูก ..
เค้า หม๋า..เค้าหม๋าใกล้ๆ
อยากจะท๋ามไท้
ก็จงรีบ เค้าหม๋า..หาพ่อปู่
เถิด แปร๊นนน!”
ผู้กองหนุ่มและ คุณหมอชอว์ หันขวับกลับมา จ้องหน้าพ่อปู่ แล้วอุทาน พร้อมกัน ว่า..
“นี่มัน.. นี่มัน..”
..
..
“เค้าหม๋า เค้าหม๋า หาพ่อปู่ เร๋วเร๋วเถิด..”
ร่างทรงพ่อปู่ ขยับลุกขึ้นนั่งชันเข่า.. พลาง กวักมือ ร้องเรียก ผู้กองหนุ่ม และคุณหมอชอว์ ให้เข้าไปหาตรงหน้าแท่นบูชา ที่พ่อปู่นั่งอยู่ ขณะเดียวกันลูกศิษย์เอก ตัวน้อย ..ก็คลานเข่ามาหมอบนั่งแทนที่พ่อปู่ อย่างรวดเร็ว..
ผู้กองหนุ่ม กับคุณหมอชอว์ ค่อยๆเดินเบียดฝูงชนที่นั่งพับเพียบเรียบร้อย อยู่กับพื้น..
จนเข้ามากราบลงตรงหน้าร่างทรงพ่อปู่ได้ในที่สุด..
“ไหว้พระ..เถิดลูกทั้งสอง”
พ่อปู่ โบกมือให้ทั้งคู่เงยหน้า ลุกขึ้นนั่งขัดสมาธิ
“ Is he a monk?!? (อีสฮีเออะ มั้งค) หรือขอรับ ผู้กอง..”
คุณหมอชอว์ทำหน้านิ่ง และกระซิบถามผู้กองหนุ่ม เบาๆ..
“ฮื่อออ..” เสียงลูกศิษย์ตัวน้อยส่งเสียงปรามคุณหมอชอว์ ขณะที่ทำท่าส่ายหัว ราวกับช้างตัวน้อย..แล้วเอ่ยขึ้นต่อ ว่า..
“ฮื่อ พ่อปู่ท่านไม่ใช่ ม้ง..
ท่านเป็นลาวพุงดำ ..ฮื่อๆ..”
1
คุณหมอชอว์ ก้มหน้ากลั้นยิ้ม.. ยกมือไหว้ลูกศิษย์ตัวน้อย แบบสาธุท่วมหัว แทบจะในทันที..
เมื่อทราบคำตอบว่า พ่อปู่ท่านไม่ใช่ม้ง จากลูกศิษย์ตัวน้อยของพ่อปู่..
คุณหมอชอว์จึงหันไปพูดกับผู้กองหนุ่มเบาๆ ว่า
“เอิ่ม กระผมคงต้องขอตัวกลับก่อนนะขอรับ ผู้กอง..
พอดี เพิ่งนึกได้ว่า ..มีธุระค้าง อยู่กับคุณหลวง น่ะขอรับ..”
แต่ทันใดนั้นเอง ร่างทรงพ่อปู่ค่อยๆ ดึงสาย บารากุ ออกมา แล้วใช้แท่งสูบ เคาะเบาๆ เข้าที่หัวลูกศิษย์เอก เสียงกังวานดัง
“ป๊อก!!!!..”
จากจึงหันไปยิ้ม และพูดเสียงอันดัง กับ คุณหมอชอว์ ว่า..
“หม๋าหา คำต้อบ ..
แต่หยังไมได้ คำต้อบ..
ก็จะหลา กลับ.. หมันจะดี๋ หรือ คุณหม๋อ.. ฮึ..
วางไป้ป์ ใน๋หมือ ลงก้อน..
แล้วเอ๋า บารากุของพ่อปู่ ไปสูดสักปืด สองปื้ด ก็จะพบคำต้อบ..
หม๋า หม๋า เค้าหม๋า ใกล้ๆ
อย่าเพิ่งล๋าไป๋ เถิดหนา..”
เมื่อคุณหมอชอว์ หันกลับมาสบตากับร่างทรงพ่อปู่ และจ้องเข้าไปในเตาบารากุ ก็พบว่า.. มีดอกลำโพงบ้า (Datura alba  Nees) ลอยน้ำ อยู่ประมาณห้า หก ดอก
คุณหมอชอว์จึงวางไปป์ในมือลงกับพื้น แล้วขยับตัวพาผู้กองหนุ่ม เข้าไปใกล้แท่นที่นั่งของร่างทรงพ่อปู่..
พลางกระซิบคิกคัก กับพ่อปู่ ด้วยสำเนียงเดียวกันว่า ..
“โอ้โห..หาคำต้อบ
ด้วย บ้องอันนี้ ขือ..
ข๋องแร๋ง นะขอรับ ..
ปื้ดเดี๋ยว..คลานเป็นหม๋าแน่ๆเล๋ย นะขอรับ..คิกคิก”
ร่างทรงพ่อปู่ยิ้มพยักหน้าให้คุณหมอชอว์ อย่างรู้ใจ และเมตตา..
ก่อนที่จะหยิบแท่งสูบบารากุ ในมือ ส่งให้คุณหมอชอว์ และ ผู้กองหนุ่ม สูดเข้าไปเต็มปอดคนละสองปืด..
จากนั้น ร่างทรงพ่อปู่ ก็เริ่มสวดพระคาถาโบราณ ดังลั่น..อย่างยาวนานต่อเนื่อง..
ในขณะเดียวกัน คุณหมอชอว์ และผู้กองหนุ่ม ก็เริ่มตาลอย ขึ้นเรื่อยๆ.. พร้อมกับเสียงสวดที่ดังอยู่ ก็ค่อยๆ เบา ห่างออกไป จนดูเหมือนว่า เสียงนั้นจะพาให้จิตและสติสัมปชัญญะ ของทั้งคู่..
ล่องลอย..หาย..ย้อนกลับไปยัง ณ.ที่ใดที่หนึ่งในอดีตกาล..
..
..
#ณ.บริเวณอาณาจักรโบราณแถบบริเวณเทือกเขาผีปั้นน้ำในวันและเวลาเดียวกันกับที่ผู้กองหนุ่มและคุณหมอชอว์พบกับร่างทรงพ่อปู่,
สมิงไพรหนุ่มลืมตาขึ้น และหยุดการสวดภาวนามนต์หมอกมุงเมือง (วิชามนต์บังเมือง) จากนั้นจึงค่อยๆวางสมุดข่อยดำลงข้างๆตัว
และหันมองไปทางด้านหลัง พร้อมกับ ตะโกนขึ้นว่า
“มะตีฮะน้อย อาจารย์บอกเจ้าว่า อย่างไร จำได้หรือไม่?!?..”
..
..
เสียงดังสวบๆ แหวกกอต้นหญ้า บริเวณด้านหลัง ดังขึ้น พร้อมกับ ร่างบางอ้อนแอ้น ที่ค่อยๆยืนขึ้น ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ แก้เก้อ และตอบสมิงไพรหนุ่ม ผู้เป็นอาจารย์ว่า..
“แหะๆ จำได้ สิเจ้าคะ อาจารย์.. อาจารย์บอกมะตีฮะ ว่า ..
หนึ่ง อาจารย์จะไปฝึกวิชาสัญชีวมนต์ และอ่านโองการร่ายมนต์หมอกมุงเมือง เปิดประตูเมืองบังบด.. ห้ามมะตีฮะรบกวน..
สอง จงอย่าให้ผู้ใด มารบ
กวนอาจารย์ในช่วงเวลาร่ายมนต์นี้..หากมีผู้ใดประสงค์จะพบอาจารย์ ก็ให้มะตีฮะเป็นผู้จัดการเรื่องต่างๆ ตามเห็นควร..
สาม หากอาจารย์หายไปนานจนเกิน พระจันทร์เต็มดวง ครั้งหน้า.. แสดงว่าอาจารย์กลับออกมาจากเมืองบังบดไม่ได้ หรือ อาจจะตายแล้ว.. ให้มะตีฮะละทิ้งอาจารย์ และเร่งจากไปโดยเร็ว .. เจ้าค่ะ แหะๆ”
สมิงไพรหนุ่ม พยักหน้าอย่างพอใจ ก่อนที่จะถามต่อว่า..
“แล้วเจ้า ยังจะมาสะกดรอยติดตามข้า อย่างกับลูกแหง่ติดพ่อ ..อย่างนี้ทำไมกัน มะตีฮะ..”
มะตีฮะ ได้ฟังที่สมิงไพรหนุ่มผู้เป็นอาจารย์ พูดเช่นนั้น ..ก็รีบเชิดหน้าขึ้นมองฟ้าในทันที เพื่อให้อาจารย์ไม่ทันได้เห็นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา..
จากนั้นจึงตะเบ็งเสียงตอบ สมิงไพรหนุ่ม ว่า..
“อาจารย์ ..ข้าไม่ใช่ลูกแหง่ติดพ่อ อย่างที่อาจารย์พูดเลย..สักนิด
ข้าไม่มี พ่อ ..ข้าไม่มี แม่..
ข้ามีแต่ อาจารย์ คนเดียว
ที่เหลืออยู่กับข้า..
เวลาที่ข้าเจ็บ ข้าป่วย ข้าหิวก็มีแต่ อาจารย์ที่สนใจ
..และดูแลข้า
แต่อาจารย์ชอบมาทำพิธีเสี่ยงชีวิต อะไรแบบนี้ คนเดียวอยู่เรื่อย..
ถ้าอาจารย์เป็นอะไรไป.. แล้วข้าจะอยู่ยังไง..หัดคิดหน่อยสิ อาจารย์..
พ่อข้า โบตูระ ผู้ยิ่งใหญ่ มาฝากลูกสาวคนเดียว กับอาจารย์บ้าๆ เช่นนี้ได้อย่างไรกัน.. นะ ฮึกฮึก..”
มะตีฮะ พูดจบ ก็ยกแขนขึ้นปาดน้ำตา พยายามกลั้นสะอื้น แล้วสูดหายใจลึก ก่อนที่จะหันกลับมามองสมิงไพรหนุ่ม..
สมิงไพรหนุ่มหลบสายตาโดยหันหน้าไปทางอื่น แล้วส่ายหน้า รำพึงกับตัวเอง ว่า..
“เจ้าลูกสาวมะตีฮะน้อย ของท่านพี่.. ขนาดไม่เป็นสาว
ยังพูดจาได้ฉะฉานขนาดนี้..
แล้วนี่ถ้าเป็นสาวเต็มตัว มิพูดจาสั่งการ ได้เด็ดขาดเหมือนกับแม่ทัพโบตูระ ที่ทุกคนเกรงขามกระนั้นรึ..
แล้วข้าสมิงไพรโง่ๆคนนี้ จะไปสอนอะไรนางได้ นะขอรับ ท่านพี่..
ชื่อนาง ช่างสมกับที่ท่านตั้งชื่อไว้จริงๆขอรับ..
1
มะตีฮะน้อย นางสิงห์น้อย..”
..
..
“ถ้าเช่นนั้น .. เราจะทำพิธีด้วยกัน และเจ้าจงมานั่งอยู่ข้างหลัง อาจารย์โดยเร็วเถิด มะตีฮะน้อย..”
สมิงไพรหนุ่มหันหน้ากลับมา ตะโกน และกวักมือเรียก มะตีฮะ น้อยศิษย์เอก (ศิษย์คนเดียว)
1
มะตีฮะยิ้มกว้างให้อาจารย์ พลางปาดน้ำตา วิ่งเข้ามาหาอาจารย์ตามคำสั่ง..
“ฮึก ฮึก มาในบัดนี้ แล้ว เจ้าค่ะ ฮึก ฮึก..”
..
..
#ณ.ค่ายใหญ่ปากน้ำลำกะเพินริมเมืองกาญจนบุรีเหล่าทหารอาทมาฏสมัยอยุธยาในปีพุทธศักราช ๒๒๐๓,
“นี่พวกเจ้าทั้งหลาย จงดูท่านนายกอง และหัวหน้าแพทย์ชมวิเชียร เอาไว้เป็นแบบอย่าง..
ทหารพม่านับหมื่นกำลังจะผ่านข้ามด่าน และจะเข้ามาถึงค่ายทหารของเราในเวลาอันใกล้..
แต่ใจของท่านผู้นำทั้งสอง กลับนิ่ง สงบ นอนหลับ พักกายใจ เตรียมเข้ารบพุ่งอย่างบ้าระห่ำในวันพรุ่ง..
นี่สิ คือ แบบอย่างของหัวใจเพชรยอดมงกุฏ..เหล่าทหารหาญอโยธยาเอ๋ย..”
ทหารอาทมาฏไกร ชี้มือไปยังนายกอง และนายแพทย์ช.วิเชียร แล้วจึงกล่าวปลุกใจเหล่าทหารหาญ ..
..
..
“เฮือกกกก!!!..โหวยยย”
1
ภาพนายกอง และนายแพทย์ ช.วิเชียร เหยียดมือขึ้นไขว่คว้า ..พร้อมกับเสียงร้องสูดหายใจเข้าเฮือกใหญ่ และลืมตาขึ้น ราวกับเพิ่งโผล่พ้นมาจากน้ำ.. ทำเอาเหล่าทหารหาญถึงกับสะดุ้งตาม..
ทหารอาทมาฏไกรหลับตาลงหัวเราะเบาๆ ก่อนจะลืมตา และตะโกนปลุกใจเหล่าทหารหาญ กับภาพที่ปรากฏตรงหน้า ว่า..
“หึหึ.. ท่านนายกอง และท่าน ช.วิเชียร กำลังเรียกลมปราณให้ฟื้นคืนสติ ..
พร้อมกับตะโกนปลุกใจให้กับพวกเราทุกคน.. อย่างนี้สิ คือยอดทหารอาทมาฏ หัวหน้าของพวกเรา..”
ทันที ที่ฟังคำปลุกใจจบ เหล่าทหารในกอง..ต่างฮึกเหิม เคาะเกราะ เคาะไม้ตาม แล้วส่งเสียงตะโกนอย่างห้าวหาญ กึกก้องพร้อมเพรียงกัน ดังทั่ว หุบเขา ว่า..
“เฮือกกกกก..โหวยยยยๆ!!”
1
ดังสะท้อน ก้องตามหุบเขาไปมาอย่างน่าขนลุก..
“เฮือกกกกก..โหวยยยยๆ!!”
..
..
จบบทที่ 1 ตอนที่ 10
#เกร็ดเพิ่มเติม
หลักฐานทางประวัติศาสตร์แล้ว พบว่า “อาทมาต” หรือ “อาทมาฏ” เป็นชื่อของกองกำลังในราชการที่ทำหน้าที่ลาดตะเวนและสืบราชการบริเวณหัวเมืองและชายแดนสมัยโบราณ
สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงวิจารณ์ไว้ว่า ตรงกับภาษาอังกฤษคือ Intelligence Service
นอกจากนี้ ยังปรากฏหลักฐานที่กล่าวถึง “อาทมาต” มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ในหลักฐานชิ้นหนึ่งคือพระราชกำหนดเก่าถึงผู้รักษาเมืองและผู้รั้งกรมการเมืองให้ตั้งผู้ใหญ่บ้านขึ้นตรวจตราจับผู้ร้าย จุลศักราช ๑๑๑๔ (พ.ศ. ๒๒๙๕) ในรัชกาลพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
สวัสดี และขอจบเพียงเท่านี้
ขอบคุณครับ
ร้อยเรียงจันทร์เจ้าขา
(T.Mon)
1/2/2021

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา