2 ก.พ. 2021 เวลา 12:38 • ธุรกิจ
มุมมองของ Tim Cook ต่อ Facebook ที่ยากจะลงรอยกันได้อีก
ในงาน International Data Privacy ของ Brassels ที่ผ่านมา Tim Cook CEO ของ Apple ได้พูดถึงประเด็นที่ไม่พอใจต่อ Facebook ที่โจมตี Apple ในประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงความส่วนตัวใหม่ของผู้ใช้งาน Apple
Facebook กับ Apple ขัดแย้งอะไรกัน?
ในปลายปีที่แล้วเกิดเหตุการณ์ที่ Apple ประกาศว่าจะปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานมากขึ้นโดยใน IOS 14 ที่จะอัพเดทใหม่นั้นจะมีฟีเตอร์ใหม่ที่ให้แอปพลิเคชันต่างๆ จะต้องมีการขออนุญาติเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวจากผู้ใช้งานก่อน และหากแอปใดฝ่าฝืนไม่ทำตามจะถอดออกจาก App Store ทันที ซึ่งแน่นอนว่าพอขึ้นคำถามขออนุญาติการใช้งานแบบนี้หลายคนอาจจะเลือกไม่ยินยอมการให้ข้อมูล
ต่อมา Facebook ก็มาโวยวายว่าการทำแบบนั้นจะทำให้ธุรกิจต่างๆที่ซื้อโฆษณากับ Facebook เสียผลประโยชน์ หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าปัจจุบัน Facebook เก็บข้อมูลของเราแทบทุกอย่างแม้กระทั่งเสียงก็ยังเก็บ จะเห็นได้ว่ามีโฆษณาที่ตรงใจเราตลอด หรือบางทีเราแค่บ่นๆสักอย่าง เช่น หิวข้าวอยากกินพิซซ่า ก็อาจจะมีโฆษณาพิซซ่ามาเสนอให้เราสั่งซื้อ เพราะฉะนั้นแน่นอนว่าเมื่อไม่มี data ในส่วนนี้แล้วจะส่งผลต่ออัลกอริทึมของ Facebook อย่างมาก ซึ่งสิ่งนี้กระทบต่อสายงาน Digital Marketing โดยตรงเพราะปัจจุบันบริษัทซื้อโฆษณาผ่านเฟสบุ๊คเป็นจำนวนมหาศาล เพราะเท่ากับว่า Data ของเหล่าสาวก Apple ทั้งหมดอาจจะหายไปมากกว่า 50% เลยทีเดียว
และอีกประเด็นที่ Facebook โจมตีก็คือที่ Apple ทำแบบนี้ก็เพราะต้องการให้คนซื้อโฆษณาผ่าน Facebook น้อยลง และไปใช้โฆษณาผ่าน Apple Store มากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่า Facebook จะต่อว่า Apple มากแค่ไหนก็ต้องยอมทำตามอยู่ดี เพราะไม่เช่นนั้นก็จะถูกถอดออกจาก Apple Store ไปโดยปริยาย
ท่าทีของ Tim Cook ต่อ Facebook
Tim Cook เคยโพสทวิตเตอร์ตอบโต้คืน Facebook มาแล้วในวันที่ 17 ธันวาคม 2020 ที่ผ่านมาว่า “เราเชื่อว่าผู้ใช่งานควรมีสิทธิ์ในการเลือกว่าจะให้เก็บข้อมูลหรือไม่เก็บด้วยตนเอง Facebook สามารถเก็บข้อมูลผู้ใช้งานได้เหมือนเดิม ก็แค่ขออนุญาติผู้ใช้งานก่อนแค่นั้น”
1
ประโยคนี้ตรงไปตรงมามาก และเป็นสิ่งที่ทำให้ Facebook เถียงไม่ออก เพราะเหตุผลที่จะไม่ขออนุญาตก่อนก็จะไม่มี เพราะการที่ไม่เห็นด้วยกับประโยคนี้ไม่ต่างจากการที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้โดยที่ไม่ขออนุญาตเลย
และในงานเกี่ยวกับ Data Privacy ล่าสุด Tim Cook ก็แสดงความเห็นต่อเรื่องนี้อีกครั้งแม้ไม่ได้กล่าวถึงชื่อ “Facebook” ตรงๆ แต่ก็ไม่ต่างไปจากการตบหน้าแรงๆเลย ลองมาฟังมุมมองของ Tim Cook ที่มีต่อเรื่อง Data Privacy ที่ค่อนข้างน่าสนใจ
Tim Cook มองว่าเทคโนโลยีไม่ได้ต้องการข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้มากขนาดนั้นที่ต้องยอมใช้เพื่อให้เว็ปไซต์ หรือแอปพลิเคชันหนึ่งให้ประสบความสำเร็จ และที่สำคัญเราต้องอย่างลืมนะว่า “Advertising existed and thrived for decades without it” โฆษณามันมีมานานมากแล้วกว่าทศวรรษแล้วก็ประสบความสำเร็จโดยปราศจากการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนมหาศาลนั่นนะ
2
และถ้ามีธุรกิจใดที่กำลังทำเช่นนั้นอยู่คือการเอาข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้มาหาประโยชน์โดยไม่ได้ขออนุญาต ใช้การสื่อสารที่บิดเบือน ธุรกิจที่ทำแบบนั้นไม่ได้ควรสรรเสริญนะ แต่ควรปรับปรุงตัว
เราไม่สามารถหลับหูหลับตาว่าการที่ทำแบบนี้อยู่จะมีแต่สิ่งที่ดีและเป็นประโยชน์(หมายถึงการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลแล้วนำไปใช้แต่ในทางที่ดี) และมีแต่การนำไปสู่การเก็บข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีคนคอยตั้งคำถามอยู่ว่า “เราจะหนีจากสิ่งพวกนี้ได้ไหม” “ผลที่ตามมาคืออะไร”
อะไรคือผลที่ตามมาของการชักจูงไปสู่กลุ่มทีมีทฤษฎีสมคมคิด/ลัทธิการกบฏ ที่ก่อให้เกิดความรุนแรง?
อะไรคือผลที่ตามมาของการไม่เพียงแต่ยอมรับ แต่ให้รางวัลกับบทความที่ส่งผลให้สาธารณชนเกรงกลัวต่อการฉีดวัคซีนช่วยชีวิต?
อะไรคือผลที่ตามมาของการที่มีกลุ่มคนกำลังเข้าร่วมกลุ่มหัวรุนแรง และกำลังแนะนำให้คนที่มีความชื่นชอบใกล้เคียงเข้ามาร่วมด้วยมากขึ้นเรื่อยๆ?
เป็นเวลานานแล้วที่จะหยุดแสร้งทำเป็นว่าแนวทางนี้ไม่ได้เป็นสาเหตุ การแบ่งขั้วของความไว้วางใจที่หายไปและส่งเสริมความรุนแรง และ social dilemma ไม่สามารถปล่อยให้กลายเป็นหายนะทางสังคมได้
นี้คือสิ่งที่ Tim Cook กล่าวทั้งหมด และการที่ไม่ได้เอ่ยชื่อของ Facebook ตรงๆยิ่งสร้างผลกระทบที่รุนแรงขึ้นไปอีกเพราะทำให้ผู้ที่กำลังฟังจินตนาการไปในทางเดียวกันว่าทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ Facebook กำลังทำ
หลักการดำเนินธุรกิจที่กำลังไม่ลงรอยกันของ 2 บริษัทเทคยักษ์ใหญ่
Apple เป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ และส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ที่ Apple ขายคือผู้ใช้สามารถควบคุมความเป็นส่วนตัวได้มากขึ้น(แต่ยังไม่ได้มีหลักฐานแน่ชัดนะว่า Apple เองก็ไม่ได้แอบเก็บข้อมูลลูกค้า)
ในทางกลับกัน Facebook อยู่ในธุรกิจข้อมูล ยิ่งพวกเขารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้มากเท่าไหร่พวกเขาก็สามารถขายโฆษณาที่ตรงเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แต่การรวบรวมและขายข้อมูลทั้งหมดนั้นต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงอย่างที่ Tim Cook ให้ความสำคัญ “ ผลลัพธ์สุดท้ายของทั้งหมดนี้ก็คือคุณไม่ใช่ลูกค้าอีกต่อไป” "คุณคือสินค้า" Tim Cook กล่าว
Tim Cook ยังเคยกล่าวในเชิงปรัชญาอีกว่า
“ เราเชื่อว่าเทคโนโลยีที่มีจริยธรรมเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะกับคุณ” "เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณนอนหลับ ไม่ได้ทำให้คุณตื่น มันจะบอกคุณว่าคุณมีเพียงพอเมื่อไหร่ และเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้คุณมีพื้นที่ในการสร้างหรือวาดหรือเขียนหรือเรียนรู้ไม่ใช่รีเฟรชเพียงครั้งเดียว"
แน่นอนว่าถ้าเราเป็นแค่ผู้ใช้งานก็อาจจะไม่ต้องการให้มาเก็บข้อมูลเราโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่เมื่อเราเป็นเจ้าของธุรกิจละ เราจะเลือกฝั่งไหน?
เราต้องการธุรกิจที่ให้บริการลูกค้าของเรา(Apple) หรือธุรกิจที่ใช้ประโยชน์จากลูกค้าของเราเพื่อทำให้ธุรกิจของเราดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ(FaceBook)
Credit Pic: Reuters/B. McDermid
โฆษณา