Blockdit Logo (Mobile)
The Brain Club
•
30 เม.ย. 2021 เวลา 05:00 • สุขภาพ
#9 The Brain Club : Healthy : อันตรายจากการโกนหนวดของ US NAVY
ในปัจจุบันผู้ชายหลายคนเริ่มหันมาไว้หนวดเครากันมากขึ้น นอกจากจะเสริมสร้างบุคลิกภาพให้ดูหล่อเท่ตามสไตล์ของแต่ละคน ยังสามารถช่วยให้สุขภาพดีขึ้นได้อีกด้วย
ก่อนหน้านี้หลายคนอาจเคยมีภาพจำว่า ทหารต้องโกนหนวดเคราให้เกลี้ยงเพื่อความเป็นระเบียบ ซึ่งโดยทั่วไปมักจะเป็นแบบนั้น แต่ก็มีหลายประเทศที่ไม่ได้ยึดกฏระเบียบดังกล่าวแบบตายตัว
ทางกองทัพสหรัฐ 4 เหล่าทัพ ไม่ว่าจะเป็นทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ หรือนาวิกโยธิน ได้อนุญาตให้นายทหารบางกลุ่มสามารถไว้หนวดเคราได้ เพื่อเคารพเสรีภาพทางศาสนา เช่น ผู้นับถือศาสนาซิกข์ ที่กำหนดให้ผู้ชายต้องไว้ผม และหนวดเครา
หรือทหารหน่วยรบพิเศษที่จำเป็นต้องไว้หนวดเคราเพื่ออำพรางตัว และใช้เป็นสัญลักษณ์สำหรับการปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยง แต่ความฝันในการไว้หนวดเคราของเหล่าทหารในกองทัพเรือสหรัฐนั้นค่อนข้างเป็นไปได้ยาก เนื่องจากมีกฏระบียบเรื่องหนวดเคราที่เข้มงวดเป็นพิเศษ
เหตุผลสำคัญที่กองทัพเรือเริ่มบังคับใช้กฏนี้ เนื่องจากคำนึงความปลอดภัยของทหารเป็นหลัก เพราะวิธีการใช้งานอุปกรณ์ช่วยหายใจอย่างถูกต้อง ต้องสวมใส่อุปกรณ์ให้แน่นกระชับติดกับใบหน้ามากที่สุด
ถ้าหากมีหนวดเคราบนใบหน้าจะทำให้การสวมใส่อุปกรณ์ไม่แน่นกระชับติดกับใบหน้า ในการปฏิบัติหน้าที่จึงเป็นความเสี่ยงขั้นร้ายแรง อาจส่งผลให้นายทหารได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
จึงมีกฏระเบียบสุดเข้มที่บังคับให้ทหารทุกนายต้องโกนหนวดทุกวัน แต่ในความหวังดีก็มีข้อเสียตามมา เพราะมีทหารหลายนายต้องเจอกับความทรมาน จากอาการที่เรียกว่า PFB (Pseudofolliculitis Barbae)
Pseudofolliculitis Barbae หรืออาการ "ขนคุด" โดยทั่วไปจะมีอยู่ 2 ประเภท
1) Extrafollicular เกิดจาการสะสมของเหลว และสิ่งสกปรกภายในรูขุมขน
2) Transfollicular เกิดจากหนวดเคราโค้งกลับไปทิ่มรูขุมขน
ปัญหาที่ทหารในกองทัพเรือสหรัฐกำลังเผชิญ คืออาการแบบที่ 2 PFB Transfollicular เกิดจากอาการแพ้วิธีโกนหนวดเคราโดยใช้ใบมีดโกน ซึ่งจะเป็นการตัดปลายหนวดให้มีลักษณะแหลม ถ้าให้มองเห็นภาพชัดๆ ก็คงไม่ต่างอะไรจากปลายหอกอันแหลมคม ถ้าหากหนวดโค้งกลับไปทิ่มรูขุมขนบริเวณใบหน้า ร่างกายจะแสดงปฏิกิริยาตอบโต้โดยการตีความว่าหนวดคือสิ่งแปลกปลอมที่กำลังทำร้ายรูขุมขน
ส่งผลให้ผิวเกิดอาการคัน ระคายเคืองจนเกิดเป็นผื่นแดง และถ้าหากโกนหนวดซ้ำๆ ในบริเวณเดิมทุกวันแบบที่ทหารเรือทำ ก็จะส่งผลให้เกิดการระคายเคืองที่หนักขึ้นจนเกิดการอักเสบอย่างรุนแรง สุดท้ายถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ หรือดูแลรักษาความสะอาดไม่ดีพอ จะเกิดเป็นตุ่มหนอง (Pustules) หรือเกิดแผลคล้ายคีลอยด์ (Keloid) ขึ้นตามบริเวณหนวดเครา
โดยส่วนมากอาการ PFB มักพบในชายอเมริกันแอฟริกันประมาณร้อยละ 60 โดยเฉพาในหมู่ผู้ชายที่มีลักษณะผมหยิก เพราะคนผมหยิกจะมีหนวดเคราหยิกด้วย ทำให้มีโอกาสที่หนวดจะโค้งทิ่มยังรูขุมได้มากกว่าผู้ชายทั่วไป
จากการสำรวจทหารเรือกองทัพเรือสหรัฐมากกว่า 337,000 นาย ในแต่ละปีจะมีทหารประมาณ 6,000 นายได้ผลกระทบจากอาการ PFB จึงเป็นหน้าที่ของแพทย์ผิวหนังจาก Naval Medical Center ที่ต้องเข้ามาดูและรักษา และประเมินอาการของโรค
จากปัญหาดังกล่าวจึงส่งผลให้กองทัพเรือได้ยกเว้นกฏสำหรับนายทหารที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการ PFB ไม่ต้องโกนหนวดทุกวัน โดยจะอนุญาตให้ไว้หนวดเคราได้ป็นเวลา 60 วัน เพื่อฟื้นฟูสภาพผิวหน้า และประเมินผลการรักษาว่าได้ผลดีมากน้อยแค่ไหน โดยจะทำการรักษาด้วยการทาครีม และการปลูกหนวด เพื่อเพิ่มความยาวที่เหมาะสมคือประมาณ 0.5 - 1 มิลลิเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้หนวดโค้งกลับไปทิ่มรู้ขุมขน
ส่วนวิธีการการป้องกันการเกิด PFB โดยทั่วไป สำหรับผู้ชายชอบไว้หนวดเคราคงไม่มีปัญหา ปล่อยให้หนวดงอกไปตามธรรมชาติ แต่ต้องดูแลรักษาความสะอาดให้สม่ำเสมอ
แต่ถ้าหากไม่ต้องการให้ยาวเกินไปก็สามารถหลีกเลี่ยงการเกิดขนคุดโดยการใช้กรรไกรเล็มหนวดเครา หรือใช้เครื่องโกนหนวดไฟฟ้า เพราะใบมีดจะไม่สำผัสกับผิวหนังโดยตรง หรือใช้วิธีทำเลเซอร์กำจัดหนวด ที่จะช่วยให้รากหนวดฝ่อ และหยุดเจริญเติบโต
ส่วนผู้ชายหน้าใสรักความอ่อนโยนที่ต้องการโกนหนวดจริงๆ ควรเลือกใช้ใบมีดโกนใบเดียวที่สะอาด ก่อนการโกนให้ทำการล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น จะช่วยทำให้รูขุมขนขยายตัว จากนั้นล้างหน้าด้วยน้ำเย็นอีกรอบ เพื่อไม่ให้หนวดแบนราบไปกับผิวหน้าขณะโกนหนวด จากนั้นทาครีม หรือเจลโกนหนวดเพื่อช่วยให้ผิวลื่นขึ้น
เรียบเรียงโดย : สโมสรสมอง
โฆษณา