6 ก.พ. 2021 เวลา 12:29 • ไลฟ์สไตล์
“👚ก่อนใส่เสื้อกาวน์”👚
🌸ได้รับคำขอร้อง (เรียกกันว่าชาเลนจ์ ใช่ไหมคะ?)จากน้องหนอนน้อยซ์เจ้าปัญหา ที่โพสต์เล่าชีวิตนักศึกษาแพทย์(จอมป่วน)ตามลิ้งค์นี้
ว่าให้ช่วยเล่าเรื่องชีวิตดุจดั่งเทพนิยายของเหล่านักศึกษาแพทย์ยุคก่อนให้ฟังหน่อย
🌸หลังจากปล่อยให้เมล็ดพันธ์ุ”เรื่องเล่า”นอนนิ่งๆในช่วงเวลาฟักตัว incubation peroid นานเป็นเวลา 7 วัน ก็คิดว่าได้เวลาที่รากจะแทงทะลุเปลือก และต้นกล้าจะผลิบานแล้วค่ะ😀
เรื่องที่จะเขียนต่อไปนี้เป็นเรื่องที่แต่งขึ้นโดยอิงจากชีวิตจริงของนักศึกษาแพทย์หลายๆคน เอามาประติดประต่อกัน ประเภท based on true story แต่แต่งเติมสีสันบ้าง 🍄หากบังเอิญไปพ้องกับชีวิตของใครก็ถือว่า ไม่ได้ตั้งใจ และไม่มีความปรารถนาร้ายใดๆกับผู้ใดทุกประการค่ะ🍄
<a href='https://th.pngtree.com/so/มือวาด'>มือวาด png จาก th.pngtree.com</a>
🌟นั่งยานย้อนเวลาหมุนควงติ้วๆๆๆ 4 รอบ 8ตลบ....กลับไปสู่อาคารเก่าแก่ริมน้ำที่เป็นสถาบันบ่มเพาะผู้ที่จะออกไปดูแลรักษาสุขภาพของประชาชน
หนุ่มสาวในวัย 20 ต้นๆ ใจเปี่ยมด้วยความฝัน กายเปี่ยมไปด้วยพลัง เดินผ่านเข้ามาคนแล้วคนเล่า ...เรียนรู้ชีวิต เก็บประสบการณ์ที่ส่งผ่านจากรุ่นสู่รุ่น....ที่นี่ .....🏩....
บริเวณทางเดินเส้นนี้จากหอพักหญิงไปสู่ตึกคนไข้ ไม่เคยร้างราผู้คน ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหน
ตอนเย็นๆมีคนตีเทนนิส สนามบาสก็มีหนุ่มๆนักกีฬาออกมาเลี้ยงลูกบาสชู้ดห่วงกันเป็นปกติ ดึกๆก็ยังมีคนเดินเพราะถูกตามไปดูคนไข้
เราจะเห็นความเคลื่อนไหวอยู่เสมอ ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ...ช่วงเช้า...ชีวิตเริ่มตั้งแต่ 6 โมงเช้าค่ะ⛅️
ทางเดินที่มีต้นไม้ร่มรื่น
สาวๆกลุ่มนี้เดินเร็วๆจนเสื้อกาวน์ที่ยาวคลุมลงไปถึงกระโปรงปลิวสะบัดไปข้างหลัง อ๋อ! ถ้าใส่เสื้อกาวน์ยาวแบบนี้เป็นนักศึกษาแพทย์ค่ะ ..นี่คงจะมีเคสที่ต้องเตรียมตัวรายงานเช้านี้แน่ๆเลย ถึงต้องเร่งรีบเดินไปให้ถึงวอร์ด
ก่อนพี่ๆแบบนี้
ส่วนแพทย์ประจำบ้าน หรือเรียกทับศัพท์ ว่า เรสิเด๊นท์(Resident) อยู่ในโปรแกรมฝึกอบรมเป็นแพทย์เฉพาะทาง 3 ปี กลุ่มนี้จะแต่งตัวอีกแบบหนึ่งค่ะ ...ไปแอบยืนดูที่หน้าหอนี่แหละ...พี่ๆเหล่านี้จะเดินออกมาสายหน่อยสัก 7โมงกว่า...โน่น..เดินมาคนหนึ่งละ👩🏻‍⚕️
หญิงสาวสูงโปร่งผิวขาว ผมยาวรวบเรียบร้อย ...ตาตี่ๆซ่อนอยู่ข้างหลังแว่นตากลมโตที่บังแก้มไปเสียตั้งครึ่งหนึ่ง
หน้าตาที่ปราศจากเครื่องสำอางค์ใดๆแลดูเคร่งขรึม เธอสวมเสื้อสีขาว มีกระเป๋าด้านล่างข้างขวาที่ขลิบด้วยแถบเล็กๆสีเขียว ส่วนกระโปรงยาวคลุมเข่า เป็นสีน้ำเงินเข้มพื้นๆ ไม่มีดอกดวง รองเท้าคัทชูสีดำเรียบ ส้นเตี้ย
นี่คือชุดทำงานประจำวันจันทร์ถึงศุกร์ค่ะ...
เหมือนเธอเพิ่งจะเดินออกมาจากแคตตาล็อคแฟชั่น......เมื่อ 50 ปีก่อน😁...จริงๆแล้วก็คือเชยแหลกเลยล่ะค่ะ 😆
ก็อาจารย์ไม่อนุญาตให้ใส่กระโปรงที่เป็นลายดอกดวงเลยนี่คะ ใส่ได้แต่กระโปรงสีเข้มพื้นๆ ใส่ตุ้มหูตุ้งติ้งก็ไม่ได้ (กลัวเดี๋ยวคนไข้มัวแต่มองเพลิน ไม่มีสมาธิหรืออย่างไรก็ไม่ทราบค่ะ😀)ถ้าอยากใส่เม็ดเล็กๆก็พอ
https://mumeaw.com/design/รูปการ์ตูนอาชีพ/
ที่จริงก็เป็นชุดที่สะดวกไม่ต้องเสียเวลาเลือกมาก รองเท้าส้นเตี้ยก็เหมาะที่จะวิ่งเร็วๆเมื่อต้องไปช่วยชีวิตคนไข้ ขืนใส่ส้นสูง3นิ้วมีหวังเดินล้มขาแพลงก่อนไปถึง!😀
ไม่เคยนำเทรนด์อะไรกับเขาเสียเลย ไม่มีเวลาจะโงหัวไปไหน อย่าว่าแต่นำเลย แค่ตามก็ไม่ค่อยจะทันล่ะค่ะ...
ตั้งแต่เช้าดูแลคนไข้ ในวอร์ดซักประวัติ ตรวจร่างกายเขียนรายงาน สั่งการรักษา ออกตรวจคนไข้นอกโอพีดี ตอนบ่ายเข้าร่วมประชุมปรึกษา ทำเคสคอนเฟอร์เรนซ์ แล้วยังงานวิจัยอีกล่ะ
ตอนเย็นกลับถึงหอ ได้อาบน้ำก็เป็นบุญแล้วค่ะ บางวันยังต้องไปอยู่เวรห้องฉุกเฉินต่ออีก....ดังนั้นมีเวลาว่างเมื่อไรขอนอนก่อน ...หัวถึงหมอนก็หลับเป็นตาย
พวกเราจึงเป็นเผ่าพันธุ์ที่ กินง่าย รวดเร็ว มีเวลาแค่ 10นาที ก็กินได้ เพราะยังไม่รู้ว่าจะมีเคสหนักไหม ถ้ามีก็ไม่รู้ว่าจะได้กินอีกทีเมื่อไร อยู่ก็ง่าย นอนยิ่งง่ายใหญ่😆
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ เราได้ถูกฝึกมาตั้งแต่เป็นนักศึกษาแพทย์แล้วค่ะ ความถึก และบึกบึนมันค่อยๆซึมเข้ามาในสายเลือด
ว่าที่จริงในสายตาของเพื่อนร่วมรุ่น พวกผู้หญิงก็เสมอภาคเท่าเทียมกับผู้ชาย ถึงแม้เราจะเป็นชนส่วนน้อยของรุ่น มีกันแค่ 25 คนจาก 150 ก็ไม่ได้มีอภิสิทธิ์อะไร
ไม่มีใครมามองว่าเราเป็น”ผู้หญิง” ที่แบบบางน่าทุนถนอม ต้องมาคอยเอาใจ ไม่ใช่เลย!😅
https://www.pngegg.com/th/search?q=การ์ตูนหมอ
ลองประเมินดูจากสถานการณ์ต่อไปนี้ค่ะ....😀😀
สมัยนั้นการเรียนแพทย์ยังต้องเรียน 6 ปี คือ เรียนวิทยาศาสตร์พื้นฐาน 2 ปี เรียนพรีคลีนิค 2ปี และเรียนคลีนิค( ดูแลคนไข้) 2ปี ช่วงพรีคลีนิคจะมีวิชา พวกชีวเคมี ฟิซิโอโลยี่ พาโธโลยี่ พาราซิโตโลยี่ เอ็มบริโอโลยี่ วิชาที่ลงท้ายด้วย”โลยี่”เยอะมาก ...ยู่ยี่กับการสอบทุกสัปดาห์!
วิชาPhysiology ฟิซิโอโลยี่ เราก็จะศึกษาว่าระบบต่างๆในร่างกายทำงานได้อย่างไร ระบบประสาท กล้ามเนื้อ ประสานกันอย่างไร
มีการทำแล็บทดลองให้เห็นจริงด้วย
วันหนึ่งที่เรียนเรื่องการทำงานของกล้ามเนื้อ ก็จะต้องมีการทดลองให้เห็นว่ากล้ามเนื้อของเราหดตัวอย่างไรเมื่อมีกระแสสัญญาณประสาทส่งมา
คิดว่าอาจารย์จะใช้กล้ามเนื้อของสัตว์อะไรมาให้เราทดลองคะ?
แอบมองเข้าไปในห้องแล็บ ....อุ๊ย...กบค่ะ 🐸เห็นน่องกบสีแดงๆเรียงกันเป็นแถวเลย ...กบอ๊บ อ๊บ นี่แหละ ใครเคยไปเดินตลาดนอกเมืองก็อาจจะเคยชินกับภาพกบนอนเรียงเป็นแถว
แต่คนที่ไม่เคยโผล่หัวไปนอกกรุง แค่เห็นกบก็สยองแล้วค่ะ อย่าพูดถึงขนาดว่าจะต้องจับมาทดลอง....
ภาพจาก https://webs.wofford.edu/davisgr/bio342/labsetup.htm
อาจารย์ก็เริ่มทอล์คแล็บก่อน ว่า วันนี้จะต้องทำอะไรบ้าง “วันนี้นักศึกษาจะต้องชำแหละเนื้อน่องของกบนะคะ เพื่อเอามาทดลองว่า เมื่อผ่านกระแสไฟฟ้าเข้าไปแล้วจะมีปฏิกิริยาอย่างไรบ้าง?” “จะมีกบให้กลุ่มละ 1ตัว เริ่มจากเอาขากบใส่ในน้ำเกลือก่อนเลย”
แค่เห็นกบมานอนแบะขาตรงหน้าก็แทบจะไม่ไหวแล้ว ยังจะต้องให้ผ่าเอากล้ามเนื้อออกมาอีกเหรอ?
“วันนี้ฉันขอไม่เป็นคนลงมือผ่ากบนะ” นักศึกษาหญิงแว่นโตรีบกระซิบบอกเพื่อนผู้ชายในกลุ่มอีก 3 คน
“ไม่ได้ ...ไม่ได้...ไม่ยุติธรรม! ทุกคนต้องได้ลงมือทำเท่าๆกันสิ จะขอเว้นไม่ได้” เพื่อนหัวหมอคนหนึ่งประท้วงขอความเท่าเทียมในการผ่ากบ..เออ ..คุณเองก็ไม่อยากผ่าใช่ไหมล่ะ ฮึ!
“ก็มันขยะแขยงน่ะ ดูสิ..เนื้อมันสีแด๊งแดง...แล้วถ้าตอนที่ฉันกำลังผ่าอยู่ แล้ว....แล้วมันเกิดกระดุกกระดิกขึ้นมาล่ะ...” แว่นโตไม่ยอมลดละ
“กระตุกแล้วเป็นไงล่ะ ...นี่คือการทดลองนะ ...มาโอน้อยออกกันดีกว่า” นี่คือวิธีตัดสินหรือ? อย่างกับเด็กๆแน่ะ!
เอาก็ได้ ...ใช้วิธีที่ทุกคนมีความน่าจะเป็นเท่าๆกันแบบนี้ก็ดี...
แล้วคุณแว่นโตก็เป็นผู้โชคดีในวันนั้นค่ะ .... เธอได้สัมผัสเนื้อกบหยุ่นๆเป็นครั้งแรก ....ความหยึกหยึยคงจะตามไปหลอกหลอนเธออีกนาน😀
บอกแล้วว่าหญิงชายเท่าเทียมไม่มีการ “ยอม”ให้เพื่อนผู้หญิงหรอก!
แล็บอีกครั้งหนึ่งที่ต้องกลืนสายให้อาหารลงไปในกระเพาะ เพื่อดูดน้ำย่อยออกมาทดลองอะไรสักอย่าง ก็ได้ผลัดกันกลืนสายพลาสติกแข็งลงไปอย่างฝืดคอกันทุกคนอย่างไม่มีใครน้อยหน้าเช่นเคยค่ะ😀
สายยางให้อาหาร ภาพจาก https://sites.google.com
เห็นไหมคะว่า นักศึกษาแพทย์ผู้หญิง ไม่ได้ถูกมอง และถูกปฏิบัติดั่งว่าเป็นเพศอ่อนแอ ไม่ใช่ผู้หญิงที่เป็นคุณหนู แต่เธอถูกฝึกให้แกร่งและอึดค่ะ
พอจบออกมาเป็น แพทย์หญิง ก็มักจะมีความเชื่อมั่นในตนเองสูง ลุยไหนลุยกัน ไม่มีการมานั่งอ่อนหวานให้เสียเวลา!
พูดก็พูดเถอะ. ...พวกผู้ชายมักจะเกรงๆ พวก”แพทย์หญิง”เหล่านี้อยู่บ้างไม่มากก็น้อย ถ้าไม่มีของดีจริงมักไม่ค่อยกล้ามาแหยม จึงทำให้ประชากรของแพทย์หญิงจำนวนไม่น้อยต้องถูกยกขึ้นไว้บนหิ้งบูชาด้วยความเคารพ😀😀😀ภาษาชาวบ้านเรียก “ขึ้นคาน”ทอง ครองความเป็นโสดอย่างเหนียวแน่น! ซึ่งพวกเธอก็ดูจะมีความสุขดีอยู่ไม่เดือดร้อนอะไรค่ะ😀😀😀
รูปดาราเกาหลีที่แสดงเป็นหมอ ดูสวยเกินจริงไปมากhttp://www.siamdara.com
วันนี้คงจะพอหอมปากหอมคอแต่เพียงเท่านี้นะคะ พี่เขียนหวังว่าคงจะได้รับความบันเทิงกันพอสมควร มีสาระมาตลอดทั้งสัปดาห์แล้ว🥰
ตอนจบจะต้องส่งชาเลนจ์ต่อให้ใครไหมคะ? ไม่รู้ว่ากติกาเป็นอย่างไร จะเรียนเชิญใครมารับไม้ต่อไปดีคะ?😀😀😀...
🌺พรุ่งนี้พาไปเที่ยวสุดสัปดาห์ แล้วอาทิตย์หน้าเข้าห้องเรียนกันต่อนะคะ🌺

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา