12 ก.พ. 2021 เวลา 01:30 • ปรัชญา
Own Your Breath: โยคะกับความเครียด และวัดในใจ
อัญมณี วรรณวิชย์ หรือ ครูอันย่า เริ่มฝึกโยคะเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยอันเกิดจากความเครียด ที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อหลังและอักเสบลุกลามไปจนถึงกระเพาะอาหาร เธอจึงได้รับโจทย์ที่แสนแอ็บสแตร็คจากคุณหมอว่าห้ามเครียด ซึ่งการตีโจทย์ของเธอคือการออกกำลังกายคลายเครียด และโยคะก็คือทางเลือกนั้น จนถึงวันนี้ก็นับเป็นเวลา 14 ปีแล้ว
จากนักเรียนโยคะ อันย่าเริ่มผันตัวเองมาทำคอนเท้นต์เกี่ยวกับโยคะควบคู่ไปกับการฝึก โดยเขียนคอนเท้นต์ให้กับ Ashtanga Samasthiti ที่เธอฝึกอยู่ ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีความคิดเรื่องการเป็นครูสอนโยคะไม่เคยอยู่ในหัวเธอมาก่อน แต่พอได้เขียนเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ได้ฝึกมา บวกกับเวลาที่คุยกับเพื่อนๆ มันเหมือนเป็นแรงบันดาลใจซึ่งกันและกัน ครูเน้า (นวรัตน์ ตีรประเสริฐ) ผู้ก่อตั้ง Ashtanga Samasthiti ซึ่งสอนเธออยู่ขณะนั้น เลยชักชวนให้มาแบ่งปันประสบการณ์ที่เรียนมาให้กับคนอื่นด้วยการสอนโยคะอีกทางหนึ่ง
“จริงๆโยคะไม่เคยหายไปจากใจตลอดเวลาที่ฝึกมาสิบสามปี แต่มันเพิ่งชัดเจนกับตัวเองมากขึ้นเมื่อเราคิดว่าเวลาที่เราแก่ตัวมากขึ้น อะไรที่จะอยู่กับเราจนถึงลมหายใจสุดท้ายของเราจริงๆ ถึงได้มองว่าโยคะคืออันดับหนึ่งของเรา ก็เลยคิดว่าต้องลองออกมาจากความเชื่อเดิมๆที่ว่า ฉันต้องมีงานประจำแบบนั้นแบบนี้ถึงจะมั่นคง” อันย่าจึงได้ลาออกจากอาชีพโปรเจ็กต์แมเนเจอร์ที่เธอเคยทำอยู่
ทุกวันนี้นอกเหนือจากการสอนและเขียนคอนเท้นต์เกี่ยวกับโยคะแล้ว เธอยังให้ความสนใจในเรื่องของศิลปะและงานฝีมือต่างๆ ยังรับงานฟรีแล้นซ์ที่เกี่ยวกับการดูงานดีไซน์เพิ่มเติมบ้าง อีกงานหนึ่งที่เธอกำลังสนใจก็คือเรื่องของการจัดการกับขยะ หรือ waste management “ทุกครั้งที่เห็นข่าว เกี่ยวกับเรื่องของขยะ ก็จะติดต่อไปตามหน่วยงานหรือองค์กรเหล่านี้ ขออุทิศตัวเป็นอาสาสมัคร เป็นคนที่ให้ความรู้ความเข้าใจกับคนอื่น อาจจะไม่ได้มีรายได้เยอะ แต่มันพอเพียงสำหรับเราตอนนี้ค่ะ”
อัญมณี วรรณวิชย์ หรือ ครูอันย่า
สำหรับเธอแล้ว โยคะเหมือนการปฏิบัติธรรม เพราะก่อนหน้านี้ที่ทำงานประจำไปด้วย ต้องอยู่กับไซต์ก่อสร้าง ต้องคุยกับช่าง โยคะเข้ามามีผลอย่างมากกับการจัดการด้านอารมณ์และเวลา รวมไปถึงจัดการเรื่องคน เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่น และงานสำเร็จลุล่วงลงไปได้
“ถ้าให้เทียบก็เหมือนอาสนะที่เราฝึก เราเลือกไม่ได้ว่าอันไหนที่เราชอบหรือไม่ชอบ ซึ่งก็เหมือนสถานการณ์ในชีวิตประจำวันที่เราเลือกไม่ได้ แต่เราจะมีวิธีการรับมือและจัดการกับมันอย่างไร ให้เรารู้สึกว่าเรายังอยู่กับมันได้ นี่คือสิ่งที่โยคะค่อยๆเข้ามาเปลี่ยนแปลงตัวเราทีละนิด”
อันย่าบอกว่าตัวเองไม่ใช่แนวเข้าวัด แต่อย่างน้อยต้องถือศีลห้า
“เหมือนจะง่ายๆ แต่ยากเหมือนกันนะคะ อย่างเวลาฝึกโยคะนี่ ถ้าเทียบกับศีลข้อ 1 ก็คือเราต้องไม่ทำร้ายร่างกายตัวเอง ไม่ว่าจะใช้อาสนะท่าไหนก็ตาม สิ่งเหล่านี้มันเลยเป็นเหมือนการปฏิบัติธรรมของเรา โดยที่ไม่ต้องเดินเข้าวัด เพราะวัดอยู่ในใจเรา”
“แล้วเคร่งศาสนาไหม” เราถาม
“ไม่ได้เป็นคนเคร่งศาสนาค่ะ สิ่งที่นับถือคือธรรมชาติ เพราะธรรมะคือธรรมชาติ มันไม่มีอะไรนิ่ง ขึ้นอยู่กับเราว่าจะรับมือกับมันอย่างไร นี่คือสิ่งที่เชื่อค่ะ” เธอตอบอย่างมั่นใจ
ติดตามเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของเรา https://read-alive.co/november2019-faces/
โฆษณา