10 ก.พ. 2021 เวลา 16:49 • หุ้น & เศรษฐกิจ
กองทุนจีนกองไหนดีนะ???
ช่วงนี้กองทุนจีนทำผลงานได้ดีหลายๆ กอง แล้วเราจะเลือกกองไหนดี
ครั้งนี้ผมจะนำ 4 กองทุนยอดฮิต มาเปรียบเทียบกันให้ดู ว่าเราเหมาะกับการลงทุนในกองทุนจีนอันไหนดี โดย 4 กองทุนที่นำมาเปรียบเทียบวันนี้ ได้แก่
1
1. ASP-EVOCHINA กองทุนจีนยอดฮิต ผลงานดีมากในช่วงนี้
2. WE-CHIG บลจ. น้องใหม่มาแรง ผลงานกองนี้ไม่แพ้รุ่นพี่ๆ เลย
3. TMBCOF กองทุนเก่าแต่ยังเก๋า (หรือเปล่า) กองทุนยอดฮิต คนที่เคยลงทุนมาก่อนโควิด ไม่มีใครไม่รู้จักกองทุนนี้
4. TCHCON กองทุนใหม่ มาแรงจะแซงกองรุ่นพี่ๆ ด้วยรถยนต์พลังงานไฟฟ้าได้หรือเปล่า
1
ชี้เป้าลงทุน ได้เปิดเพจเพื่อเป็นช่องทางในการติดต่อสื่อสาร พูดคุย และแนะนำการลงทุนให้กับทุกท่าน ได้สะดวกมากขึ้น
ไปติดตามกันได้นะครับ
1
ASP-EVOCHINA
1
ผลงาน 1 ปี +89.01% (ณ วันที่ 10 ก.พ. 64)
มูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท
ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด 3.86% ต่อปี
กองทุน ASP-EVOCHINA ลงทุนใน Master Fund 1 ตัว และ ETF 1 ตัว (รวม 55% ของกองทุน) คือ
Mirae Asset Global Discovery Fund เน้นกระจายการลงทุนในหลาย Sector
ตัวเด่นๆ ได้แก่ Tencent, Meituan, Alibaba, Bilibili, Kwiechow Moutai, Nio
Sector Allocation ของ Mirae Asset Global Discovery Fund
Premia CSI Caixin China New Economy ETF โดยมีนโยบายการลงทุนในธุรกิจใหม่ (New Economic) ภายใต้ CSI Caixin Rayliant New Economic Engine Index
การลงทุนของ ETF กองนี้จะเน้นการลงทุนไปใน Sector - Information Technology, Health Care, Industrials ดังนั้นจึงทำให้การลงทุนในกอง Mirae กับ Premia มีการทับซ้อนกันน้อย
Sector Allocation ของ Premia CSI Caixin China New Economy ETF
นอกจากการลงทุนใน Mirae Asset Fund และ Premia CSI ETF แล้ว กองทุน ASP-EVOCHINA ยังมีการลงทุนในหุ้นรายตัวของจีนอีกเกือบ 45% โดยการกระจายไปยังหุ้น Sector ที่มีเปอร์เซ็นต์น้อยในพอร์ต เช่น Consumer Discretionary, Real Estate เป็นต้น
1
หุ้นตัวเด่นๆ ที่มีการลงทุนเพิ่มในกองทุน เช่น China Education Group, Meituan Dianping, Hidilao, New Oriental Education, TAL Education, Weimob, Xiaome เป็นต้น
1
กองทุน ASP-EVOCHINA ถือว่าได้รวบรวมเอาหุ้นตัวเด่นของจีน ทั้งหุ้นใหญ่ที่เติบโตดี และหุ้น New Economy มารวมไว้ในกองทุนเดียว ทำให้กองทุนมีความยั่งยืน กระจายความเสี่ยงในแต่ละ Sector ได้เป็นอย่างดี
WE-CHIG
ผลงาน 6 เดือน +24.24% (ณ วันที่ 10 ก.พ. 64)
มูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ 1 บาท
ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด 1.96% ต่อปี
กองทุน WE-CHIG เป็น Feeder Fund ลงทุนใน Master Fund
Matthews Asia Funds - China Small Companies
ตามชื่อของ Master Fund กองทุนนี้มีนโยบายการลงทุนในบริษัทขนาดเล็กที่ยังไม่เป็นที่รู้จัก และใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมเข้ามามีส่วนร่วมกับธุรกิจ กองนี้จึงใช้ดัชนี MSCI China Small Cap เป็นตัวเปรียบเทียบ
1
Sector Allocation ของ Matthews Asia Funds - China Small Companies
เนื่องจากหลายบริษัทยังเป็นบริษัทขนาดเล็ก ทำให้ยังไม่มีข้อมูลบริษัทมากพอประกอบการวิเคราะห์ นี่เป็นรายชื่อ Top 10 Holdings ของกองทุน
- SITC International Holdings บริษัทท่าเรือ ขนส่งสินค้า
- Bilibili แอพ Video Streaming ชื่อดังของจีน
- Weimob บริษัท E-commerce และ Marketing ผ่าน Cloud
- Flat Glass Group บริษัทผลิตกระจกที่นำเอาเทคโนโลยีในการผลิตกระจกมาพัฒนาสินค้า
- Joyoung บริษัทผู้ผลิตเครื่องทำน้ำเต้าหู้
- China Meidong Auto Holding บริษัทตัวแทนจำหน่ายรถยนต์แบรนด์ชั้นนำในประเทศจีน
Top 10 Holdings ของ Matthews Asia Funds - China Small Companies
TMBCOF
ผลงาน 1 ปี +36.61% (ณ วันที่ 10 ก.พ. 64)
มูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ 1 บาท
ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด 1.74% ต่อปี
กองทุน TMBCOF เป็น Feeder Fund ลงทุนใน Master Fund
UBS (Lux) Equity Fund - China Opportunity
Sector Allocation ของ UBS (Lux) Equity Fund - China Opportunity
กองนี้เป็นกองทุนจีนยอดฮิต ในช่วง 1-2 ปีก่อนเนื่องจากทำผลงานได้โดดเด่น
แต่มาในช่วงหลังโควิด ผลงานกลับแพ้กองทุนอื่นๆ ที่ทำผลงานแซงทางโค้งมา
ทำให้หลายคนที่ถือ TMBCOF เกิดความลังเลว่า จะไปถือกองทุนอื่นแทนดีไหม
ลองสังเกตจากกราฟเปรียบเทียบกองทุน UBS (Lux) Equity Fund - China Opportunity (สีส้ม) กับกองทุนอื่นๆ เห็นได้ว่ากองทุนนี้ทำผลงานได้ดีกว่ากองทุนอื่นๆ มาโดยตลอด แต่หลังจากช่วงโควิดตอนเดือนมีนาคม ผลงานกลับค่อยๆ เติบโตน้อยกว่าคนอื่นมาเรื่อยๆ
1
กราฟเปรียบเทียบ UBS (Lux) Equity Fund - China Opportunity กับกองทุนจีนกองอื่น
ส่วนตัวมองว่า เหตุผลที่กองทุนนี้ ช่วงหลังทำผลงานได้ไม่ดีเพราะว่า กองทุนไม่ได้ลงทุนในหุ้น Growth ไม่ว่าจะเป็นหุ้นด้าน Technology หรือ Health care มากนัก
ถึงแม้จะมี Tencent, TAL Education, Alibaba, Ping An, Kweichow Moutai ล้วนแต่เป็นหุ้นที่ถือมาก่อนช่วงโควิด
และความเข้าใจผิดอีกอย่างหนึ่งคือ TMBCOF ไม่ใช่กองทุน Tech จีนซะทีเดียว แต่เป็นกองทุน China Opportunity ตามนโยบายกอง ดังนั้นทางผู้บริหารจะมองหาโอกาสในหุ้นกลุ่มต่างๆ ที่มีโอกาสเติบโตได้ มาลงในพอร์ต
TCHCON
ผลงาน 1 ปี +116.99% (ผลตอบแทนกอง Master Fund ณ วันที่ 10 ก.พ. 64)
มูลค่าการลงทุนขั้นต่ำ 1 บาท
ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมด 1.65% ต่อปี
กองทุน TCHCON เป็น Feeder Fund ลงทุนใน ETF
Global X MSCI China Consumer Disc ETF
นโยบายการลงทุนของกองทุนนี้เน้นลงทุนใน 2 ส่วนหลักๆ คือ
1. Consumer Staples - สินค้าที่มีความจำเป็นในการดำรงชีวิต
2. Consumer Discretionary - สินค้าฟุ่มเฟือย
รายละเอียดเพิ่มเติมของกองนี้ ผมเคยเขียนไว้แล้ว หาอ่านได้จากลิงค์นี้ครับ
1
สรุปควรเลือกซื้อกองทุนไหนดี
1. ASP-EVOCHINA
- หุ้นภายในพอร์ตโดดเด่น พื้นฐานแกร่ง แนวโน้มการเติบโตดี
- มีการกระจาย Sector ของธุรกิจได้ครอบคลุม ตั้งแต่ธุรกิจขนาดใหญ่จนถึงขนาดเล็ก
- มีค่าธรรมเนียมรายปีที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากการบริหารกองทุนที่ทั้งลงทุนใน Master Fund และ ETF อย่างละตัว รวมถึงลงทุนหุ้นรายตัวเอง ทำให้ต้นทุนในการบริหารงานมีสูง
- นโยบายของกองทุนมีช่องให้ผู้บริหารสามารถสับเปลี่ยนหุ้น เพิ่ม/ลด สัดส่วนการถือได้มากกว่ากองอื่นๆ
2. WE-CHIG
- หุ้นภายในกองทุนมีโอกาสให้เติบโตได้สูง เนื่องจากเป็นหุ้นขนาดเล็ก ถ้าเติบโตจะสร้างกำไรได้ดีกว่า
- มีความเสี่ยงเนื่องจากเป็นหุ้นขนาดเล็ก จะมีความผันผวนสูง หรือกรณีเลวร้ายสุดหุ้นบางตัวมีโอกาสล้มละลายได้
- เหมาะสำหรับคนที่ถือหุ้นจีนตัวใหญ่อยู่แล้ว อยากเติมหุ้นขนาดเล็กในพอร์ต
- ถ้าหากไม่ต้องการรับความเสี่ยงหรือความผันผวน ควรถือในสัดส่วนที่น้อยกว่ากองทุนจีนที่มีหุ้นตัวใหญ่
3. TMBCOF
- พื้นฐานการบริหารกองทุนที่โดดเด่นในอดีตเป็นเครื่องยืนยัน เพียงแต่ตอนนี้ต้องพิสูจน์ตัวเองว่า จะสามารถกลับมาได้หรือไม่ หากถือไว้อยู่แล้วสามารถรอดู หรือค่อยๆลดสัดส่วนพอร์ตลงมาก็ได้ ส่วนตัวยังมองว่ายังทำผลงานได้ดี แต่อาจจะยังสู้กองทุนอื่นไม่ได้ ณ เวลานี้
- กองทุนมีการเคลื่อนไหวช้า และมีการเก็บเงินสดเพื่อรอลงทุนไว้พอสมควร ทำให้เงินสดที่ถืออยู่ไม่สามารถทำกำไรได้
- หุ้นเป็น Cyclical หากเศรษฐกิจฟื้นมีโอกาสที่กองทุนนี้จะกลับมา
- นักลงทุนใหม่ที่ยังไม่มีกองนี้ อาจจะลองหากองทุนอื่นแทนได้ หากต้องการผลตอบแทนที่สูง
4. TCHCON
- เป็นกองทุนอีกตัวที่มี Performance มากพอที่จะมาเทียบกับ ASP-EVOCHINA ได้ในขณะนี้ ด้วยกองเองมีการลงทุนใน Sector ที่จะได้รับอานิสงค์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
- กองนี้มีหุ้นภายในที่คล้ายคลึงกับ ASP-EVOCHINA แต่ความหลากหลายสู้ไม่ได้
- หากใครเป็นคนที่ชื่นชอบ และคิดว่ารถยนต์ไฟฟ้าของจีนจะมาแน่ๆ กองนี้มีหุ้นรถยนต์ไฟฟ้าไว้ให้เกือบครบเลย
1
โฆษณา