11 ก.พ. 2021 เวลา 02:30 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
The Irishman (Netflix)
ฝีมือของผู้กำกับ Martin Scorsese
หนังความยาวสามชั่วโมงนิดๆ
ระหว่างดูก็แอบกดดูว่าอีกนานมั้ยกว่าจะจบ
ไม่ได้น่าเบื่อนะ แต่สนุกมาก กลัวจบเร็ว
ดูแล้วนึกถึง 2 อย่าง
อย่างแรกคือ The Godfather ภาคแรก
อาจจะเพราะเป็นหนังมาเฟียอิตาลีด้วยมั้ง
กลิ่นอายมันคล้ายกันมาก
และความยอดเยี่ยมของหนังก็คล้ายกันอีก
อย่างที่สองคือนึกถึง
Quentin Tarantino และ Guy Ritchie
เพราะมีมุขในการพูดจายาวๆเถียงอะไรกันไม่รู้
แต่ก็สนุกและน่าฟังอยู่ตลอดทั้งเรื่อง
แต่ในภาพรวมทั้งหมดก็เห็นลายเซ็น
ของ Martin Scorsese เองนั่นแหละ
ความดีงามก็คือ
ทั้งผู้กำกับ ทั้งนักแสดง
อยู่ในวัยที่ตกผลึกในอาชีพของตัวเองแล้ว
เราจึงได้เห็นงานที่เนี้ยบ ล้นจากประสบการณ์
ของผู้กำกับ
และได้เห็นการแสดงที่น้อยแต่มาก
ใช้สายตาสื่อสารได้ดีชะมัดของตัวเอกทั้งสามคน
โจ เปสซี่ — เล่นน้อยมาก ไม่โฉ่งฉ่าง ตัวเล็กแบบที่ไม่น่าจะเป็นหัวหน้ามาเฟียได้ แต่กลับใช้สายตาสื่อพลังอำนาจได้ดีมาก
อัล ปาชิโน่ — เล่นโฉ่งฉ่างตาม คาแรคเตอร์ของ Jimmy Hoffa บุคคลจริงในประวัติศาสตร์ สื่ออารมณ์จากสายตาได้ดีเช่นกัน เป็นแววตาที่รักและเชื่อใจ เพื่อนคนสนิทมากๆ ตอนดูนี่สะเทือนใจจุดจบจริงๆ
โรเบิร์ต เดอนีโร — ตัวเอก ตัวเดินเรื่องทั้งหมด สื่อแววตาของทุกช่วงชีวิตได้ลึกซึ้ง เล่นน้อย แต่ใช้สายตาเยอะมากกกกก โดยเฉพาะตอนที่ โจ เปสซี่กำลังทำสลัด แล้วสั่งงานสำคัญ ดูแล้วอึดอัดจะร้องไห้แทน เป็นสายตาที่บอกทุกความรู้สึก สับสนปนเปไปหมด
ค้างว่าจะดูมาเป็นเดือนแล้ว เพราะมันยาว 3 ชั่วโมงกลัวไม่สนุก กลัวน่าเบื่อ แต่ผิดคาด สนุกมากจริงๆ ทั้งๆที่หนังไม่หวือหวาอะไรมาก แต่ทำเอาอยากรู้ไปเรื่อยๆๆๆ
ดูจบก็มี สารคดีสั้นๆ ที่ผู้กำกับกับนักแสดงหลักนั่งคุยกันสบายๆ ให้ดูต่ออีกเรื่องด้วย
เค้าก็คุยกันขำๆนั่นแหละว่า ถึงจะมีเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ช่วยเรื่องปรับใบหน้าให้อ่อนเยาว์ย้อนอายุได้แบบเนียน ๆ แต่ที่ยากคือสังขาร บางทีก็ลืมตัว มันกระฉับกระเฉงไม่ไหวจริงๆ เพราะตัวจริงแต่ละคนก็แก่มากแล้ว อย่างอัล ปาชิโน นี่ปีนี้ 80 แล้วนะ แล้วในเรื่องต้องมีช่วงย้อนยุคไปตอนอายุ 49 มีฉากนึงที่ต้องลุกจากเก้าอี้ ผช ผกก ก็บอกกับ ผกก ว่า เค้าต้องลุกให้เหมือนคนอายุ 49 นะ คือมันช้าไป
หรือฉากที่ โรเบิร์ต เดอนีโร ตอนหนุ่มต้องไปกระทืบเจ้าของร้านชำ ท่าทางเตะต่อยนี่ก็ไม่ค่อยไหวแล้วนะ ก็ปีนี้อายุ 77 แล้วอ่ะนะ
ทั้งหมดทั้งมวล ให้อภัยได้หมดแหละ
มันไม่ใช่หนังแอคชั่นอะไรขนาดเจมส์ บอนด์ หรือไอรอนแมน นี่มันหนังชีวประวัติ
แค่ได้ดูหนังที่กำกับเทพๆ การแสดงเทพๆ
นี่ก็ไม่กล้าติอะไรแล้ว
ขออวยอย่างเดียวละกัน
⭐️ ⭐️ ⭐️ ⭐️ ⭐️

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา