11 ก.พ. 2021 เวลา 04:05 • หนังสือ
#0 เล่ม 2 บทนำ
❇️ นี่คือเอกสารที่ไม่ธรรมดา ❇️
❇️ นี่คือสารจากพระเจ้า ❇️
เนื้อหาในนี้พระเจ้าแนะถึง 'ปฏิวัติทางสังคม' ' เรื่องทางเพศ' 'การศึกษา' 'การเมือง' 'เศรษฐกิจ' และ 'จิตวิญญาณบนโลก' ในแบบที่เราไม่เคยพบเห็นมาก่อนและแทบไม่เคยนึกถึง
คำแนะนำนี้อยู่ในบริบทของสิ่งที่พวกเราในฐานะผู้ใช้ชีวิตบนโลกบอกว่าปรารถนา เราบอกว่าเราเลือกจะสร้างชีวิตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน จะยกระดับจิตสำนึก จะหาทางสร้างโลกใหม่ พระเจ้าจะไม่สาปส่งเราไม่ว่าเราจะเลือกอะไร แต่หากเลือกทางนี้พระเจ้าก็พร้อมแสดงหนทางให้เห็น
1
🔸ทว่าพระเจ้าจะไม่บังคับฝืนให้เราทำตาม ไม่มีวันบังคับแน่นอนไม่ว่าตอนนี้หรือตอนไหน🔸
ผมเห็นว่าถ้อยคำต่างๆในเล่มนี้ ทั้งจับใจ รบกวนจิตใจ ท้าทาย และให้พลังไปพร้อมๆกัน
🔹จับใจ🔹ในแง่ที่ว่ามันทำให้ผมลืมหายใจหายคอกับขอบเขตและประเด็นเนื้อหา
🔹รบกวนจิตใจ🔹ในแง่ที่มันทำให้ผมเห็นตัวเอง (และมนุษยชาติ) ในแบบที่ชวนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
🔹ท้าทาย🔹ในแง่ที่มันท้าผมอย่างที่ไม่เคยมีใครหน้าไหนท้ามาก่อน ท้าให้ผมเป็นคนที่ดีกว่าเก่า ให้มีจิตใจกว้างขวางกว่าเดิม ให้เป็นต้นกำเนิดของโลกที่ความโกรธ ความริษยา คับแคบ ความพิกลพิการทางเพศ ความไม่เสมอภาคทางเศรษฐกิจ ความไม่เอาไหนของระบบการศึกษา ความไม่เท่าเทียมทางสังคม การซ่อนเร้นทางการเมือง เล่ห์เพทุบายและการแย่งชิงอำนาจ จะไม่เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์มนุษย์อีกต่อไป
และ🔹ให้พลัง🔹ในแง่ที่มันให้ความหวังว่าเรื่องราวทั้งหมดนี้เป็นไปได้
เราสร้างโลกแบบนั้นขึ้นมาได้จริงๆ หรือพระเจ้าบอกว่าได้ ทั้งหมดที่จำเป็นคือเราต้อง🔸เลือก🔸ทำอย่างนั้นจริงๆ
หนังสือเล่มนี้คือการพูดคุยกับพระเจ้าที่เกิดขึ้นจริง เป็นเล่ม 2 ในไตรภาค 3 เล่ม คือส่วนหนึ่งของการสนทนาที่กินเวลากว่า 5 ปี และยังคงเกิดขึ้นจนถึงตอนนี้
ผู้อ่านอาจไม่เชื่อว่าเอกสารชุดนี้มาจากพระเจ้าจริงๆ และผมก็ไม่เห็นความจำเป็นที่คุณจะต้องมาเชื่อด้วย
สิ่งสำคัญสำหรับผมอยู่แค่ว่าเอกสารชุดนี้มีคุณค่าอะไรบ้างไหม?
ให้ความเข้าใจอะไรบ้างหรือเปล่า?
ก่อให้เกิดการตื่นรู้ จุดประกายปรารถนาใหม่ เกื้อหนุนให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ออกดอกผลในชีวิตประจำวันของเราบนโลกนี้บ้างหรือไม่?
พระเจ้ารู้ว่าของบางอย่างจำต้องเปลี่ยนจากเดิม เราไม่อาจให้มันเป็นเช่นที่เป็นมาได้อีก
ไตรภาคแห่ง `สนทนากับพระเจ้า` เริ่มขึ้นเมื่อเล่ม 1 ออกสู่สาธารณะเมื่อเดือน พฤษภาคม 1995 เนื้อหาในเล่มนั้นกล่าวถึง 🔹ประเด็นส่วนบุคคลเป็นหลัก🔹 และมันได้เปลี่ยนชีวิตผมไปเลย ทั้งยังเปลี่ยนชีวิตผู้คนอีกมากมายด้วย
ยอดขายวิ่งฉิวอย่างไม่น่าเชื่อภายในระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ พร้อมยอดจัดจำหน่ายไต่สู่ระดับที่น่าทึ่ง หมดปีแรก ขายไปเดือนละ 12,000 เล่มและยังเพิ่มขึ้นตลอด
แน่นอนว่า "ผู้เขียน" หนังสือเล่มนี้เป็นใครมาจากไหนแทบไม่มีใครรู้จัก และนี่ยิ่งทำให้หนังสือเล่มนั้น (สนทนาฯเล่ม 1) น่าสนใจและทรงพลังเป็นอย่างมาก
ผมซาบซึ้งอย่างลึกล้ำที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ กระบวนการที่ผู้คนเป็นหมื่นเป็นแสนได้รำลึกถึงสัจธรรมยิ่งใหญ่บางประการอีกครั้ง โดยส่วนตัวแล้วผมยินดีและมีความสุขเหลือเกินที่คนมากมายเห็นคุณค่าของหนังสือเล่มนั้น
อยากให้คุณทราบว่าตอนแรกนั้นผมกลัวอย่างกับอะไรดี กังวลว่าคนจะคิดว่าผมบ้าไปแล้ว คิดว่าผมมีปัญหาทางจิตเพราะหลงว่าตัวเองยิ่งใหญ่ หรือกลัวว่าถ้าคนเชื่อว่าหนังสือได้รับแรงดลใจจากเบื้องบนจริง ผู้คนจะพากันทำตามที่หนังสือแนะนำ ทำไมผมถึงกลัวเรื่องพวกนี้รู้ไหมครับ ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย คำตอบคือ เพราะผมรู้ว่าทุกอย่างที่เขียนไปอาจผิดได้น่ะสิ
จากนั้นก็เริ่มมีจดหมายมาถึงผม จดหมายจากคนทั่วโลก ตอนนั้นเองที่ผมได้รู้...รู้อยู่ลึกๆข้างในว่ามันไม่ผิดหรอก นี่ละคือสิ่งที่โลกจำเป็นต้องได้ยินในช่วงเวลาแบบนี้❗
(แน่นอนครับ ไม่มีอะไร "ถูก" หรือ "ผิด" เว้นแต่ในประสบการณ์เชิงเปรียบเทียบของการดำรงอยู่ของเรา ฉะนั้นสิ่งที่ผมหมายความกับตัวเองก็คือ หนังสือเล่มนั้นมัน "ใช่เลย" เมื่อดูจากว่าใครและสิ่งไหนที่เราอยากจะเป็นบนโลกใบนี้)
ตอนนี้มาถึง `เล่ม 2` แล้ว ผมรู้สึกว่าตัวเองกลัวขึ้นมาอีก หนังสือเล่มนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตของพวกเราในแง่มุมที่กว้างขึ้น รวมถึงข้อพิจารณาทางธรณีฟิสิกส์และภูมิรัฐศาสตร์ที่มีนัยสืบเนื่องไปทั่วโลก เพราะเหตุนี้ผมคาดว่าคงมีหลายสิ่งที่ผู้อ่านทั่วไปอาจไม่เห็นด้วย เพราะอย่างงี้ไงครับผมถึงได้กลัว กลัวว่าคุณจะไม่ชอบสิ่งที่ได้อ่าน กลัวว่าคุณจะทำให้ผมเป็น "คนผิด" จากบางข้อความในนี้
กลัวจะไปทำให้หลายคนโกรธ ทำให้เกิดการโต้แย้งที่เผ็ดร้อน และสร้างปัญหายุ่งยากตามมา เพราะไปหักล้างสิ่งที่ผู้คนยึดถือ และผมกลัวว่าทั้งหมดนี้อาจผิดขึ้นมาจริงๆ
แน่นอนว่าผมควรเข้าใจอะไรมากพอที่จะไม่ต้องกลัวแล้ว ที่สำคัญคือ ผมไม่ได้อ่านหนังสือเล่มแรกของตัวเองหรือไง?
คุณเข้าใจใช่ไหมครับ ผมก็แค่มนุษย์เดินดินธรรมดาคนหนึ่ง คุณเข้าใจไหมว่าผมไม่ได้อยากเผยแพร่บันทึกการพูดคุยนี้เพื่อให้เกิดการกระทบกระเทือนผู้อื่นเลย แค่อยากส่งต่ออย่างซื่อสัตย์และไม่แอบแฝง ถึงสิ่งที่พระเจ้าสื่อสารเพื่อตอบคำถามของผมเองเท่านั้น
ผมสัญญากับพระเจ้าว่าจะเปิดเผยการสนทนาแก่สาธารณชน ผมไม่อาจละเมิดสัญญาที่ให้ไว้ได้
1
คุณเองก็เหมือนกัน ชัดเจนว่าคุณได้สัญญาที่จะยอมให้ความคิด แนวคิด และความเชื่อของตัวเองได้รับการท้าทายต่อเนื่อง แน่ชัดเหลือเกินว่าคุณได้ "ให้คำมั่น" กับตัวเองจากเบื้องลึกว่า "จะเติบโตตลอดเวลา"
🔸เพราะมีแต่ผู้ที่ผูกมัดตัวเองในลักษณะนี้เท่านั้นที่จะหยิบหนังสือแบบนี้ขึ้นมา🔸
ดังนั้นจึงดูเหมือนว่าเรากำลังลงเรือลำเดียวกันอยู่...และไม่มีอะไรให้ต้องกลัว เราเป็นอย่างที่เป็นและทำอย่างที่ทำด้วยเหตุผลนี้ ทั้งหมดที่เราต้องทำคือ ให้จริงแท้ต่อตรงนี้ไว้และไม่ต้องกลัว
สิ่งที่ตอนนี้ผมรู้...ซึ่งผมเดาว่าตัวเองได้รู้มาโดยตลอดก็คือ 🔆ทั้งคุณและผมต่างเป็นผู้นำสารด้วยกันทั้งหมด🔆
✴️ ไม่อย่างนั้นผมคงไม่มานั่งเขียนอะไรอยู่ตรงนี้ และคุณคงไม่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ ✴️
🌟 เราคือผู้นำสาร...และมีงานให้ต้องทำ 🌟
🔹อย่างแรก🔹 เราต้องแน่ใจว่าเราเข้าใจสารที่อยู่ในหนังสือชุดนี้ชัด
🔹สอง🔹 เราต้องนำสารนี้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของตัวเองเพื่อให้มันก่อประโยชน์ขึ้นมาให้ได้
🔹สาม🔹 เราต้องนำสารนี้สู่ผู้อื่น นำสัจจะของมันสู่ทุกชีวิตที่พานพบ★...ด้วยตัวอย่างอันเรียบง่ายและงดงามจากตัวเรา
★ซึ่งผมกำลังพยายามทำสิ่งนั้นอยู่ (เพียงบางส่วน) โดยการนำมาแบ่งปันให้พวกคุณได้อ่านกัน
—แอดมิน—
ผมดีใจที่คุณเดินทางไปกับผม มันง่ายแล้วก็สนุกกว่ากันมากถ้ามีคุณร่วมทางไปด้วย เรามาออกเดินทางไปกับหนังสือเล่มนี้ด้วยกันนะครับ
มันอาจทำให้คุณรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวนักตรงที่มันไม่เหมือนกับเล่ม 1 เพราะเล่มนั้นเป็นเหมือนอ้อมกอดจากพระผู้เป็นเจ้า...โอบไหล่เราด้วยความแนบแน่นและอบอุ่น
ส่วน เล่ม 2 นี้ ยังเปี่ยมด้วยรักไม่น้อยไปกว่ากัน ทว่ามีการเขย่าไหล่เล็กน้อยอย่างอ่อนโยน เหมือนเป็นการปลุกให้ตื่น เป็นคำท้าให้ก้าวสู่ขั้นต่อไป
1
คุณรู้ไหมครับว่ามีขั้นต่อไปให้ก้าวเสมอ วิญญาณของคุณ (ซึ่งมาที่นี่เพื่อมามีประสบการณ์อันล้ำเลิศที่สุด...ไม่ใช่ต่ำตื้นที่สุด มากสุด...ไม่ใช่น้อยสุด) ไม่อยากให้คุณหยุดอยู่เฉยๆหรอก ขณะที่ทางเลือกจะขึ้นอยู่กับคุณเสมอ ทว่าวิญญาณของคุณไม่ต้องการให้คุณนิ่งนอนใจหรือพอใจกับตัวเองเพียงเท่านี้ และแน่นอนว่ามันไม่ต้องการให้คุณเฉื่อยเนือยด้วย
🔸เพราะมีหลายสิ่งเหลือเกินบนโลกนี้ที่ต้อง "เปลี่ยนแปลง"
🔸หลายอย่างที่รอให้คุณ "สร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่"
1
🔸มีภูเขาลูกใหม่ให้ปีนป่ายเสมอ
🔸มีเขตแดนใหม่ให้สำรวจ
🔸มีความกลัวใหม่ให้ข้ามพ้น
1
🔸รวมถึงมีที่ทางที่สูงล้ำกว่า แนวคิดที่กว้างกว่า และวิสัยทัศน์ที่ยิ่งใหญ่กว่าแต่ก่อน
ฉะนั้นหนังสือเล่มนี้อาจชวนอึดอัดกว่าเล่ม 1 เล็กน้อย โปรดอยู่กับความไม่สบายนั้น ถ้า (และเมื่อ) คุณรู้สึกอย่างนั้นขึ้นมา จับเรือไว้ให้มั่นถ้ามันเริ่มสั่น แล้วใช้ชีวิตไปตามกระบวนทัศน์ใหม่ หรือถ้าให้ดีกว่านั้นก็ช่วยสร้างขึ้นมาใหม่เสียเลย...ผ่านความงดงามและตัวอย่างจากการใช้ชีวิตของคุณ
1
นีล โดนัลด์ วอลซ์
แอชแลนด์, โอเรกอน
มีนาคม 1997 💗

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา