11 ก.พ. 2021 เวลา 12:48 • อาหาร
“เรื่องเล่าจากปลาหลังบ้าน”
ในวันที่ผมต้องเข้าไปเป็นลูกมือของแม่
ในการช่วยเตรียมวัตถุดิบในการทำกับแกล้มให้วงเหล้า
ผมมักจะแปลกใจกับเมนูต่าง ๆ ที่แม่สรรหามานำเสนอขี้เมาเหล่านี้
ผัดเผ็ดสารพัด ต้มแซ่บสารพันเมนู
แต่มีอยู่หนึ่งเมนู ที่ผมจำได้ดี เพราะมันเป็นเมนูที่อร่อยและคุ้นรสเหลือเกิน
ความกรอบของปลาที่ทอดให้กรอบและไม่อมน้ำมัน
เครื่องยำที่แม่บรรจงหั่น คัด และผสมด้วยมือของแม่ทุก ๆ ขั้นตอน
"ปลาดุกทอดกรอบทรงเครื่อง"
ผมสถาปนาชื่อของมันขึ้นมาเอง
เนื่องจากเครื่องยำที่หลากหลาย เยอะแยะ และวุ่นวาย
แต่คุณเอ๋ย มันอร่อยจับใจจริง ๆ ครับ
ในช่วงสร้างบ้านใหม่ที่เพชรเกษม หลังบ้านเรา พ่อจะขุดท้องร่องใหญ่เอาไว้ในบริเวณสวนด้วยครับ
ซึ่งเป็นท้องร่องที่ผมและน้องชาย มักจะขอพ่อลงไปเล่นน้ำเสมอ เวลาเลิกเรียนกลับมา
โดยมีข้อแม้ว่า ต้องทำการบ้านของแต่ละวันให้เรียบร้อย
และถ้าฟ้าไม่มืด ก็เป็นอันบรรลุข้อตกลงว่าเล่นได้
ท้องร่องแสนธรรมดา แต่มันช่างมีค่ากับผมเหลือเกิน
เพราะมันคือ “อาณาจักรแห่งความเป็นเด็กแห่งเดียว” ของผม
ด้วยความเป็นลูกคนจีน เราต้องรู้จักประหยัดครับ
อาป๊า...ไม่ใช่คนที่จะสุรุ่ยสุร่ายกับเรื่องของเล่นของลูก (ยกเว้นตอนเมา)
บ้านเราไม่มีของเล่นอะไรมากมายนัก บางทีก็จะเป็นตุ๊กตุ่น ตุ๊กตาจากรุ่นมาอีกรุ่น
เพราะส่วนใหญ่เมื่อโต ๆ หน่อย
อาป๊าก็จะมีบัญชาให้ลงมาช่วยงานของที่บ้าน เป็นอันว่าไม่ต้องเล่นกัน ของเล่นของผมเลยกลายเป็นค้อน ตะปู เครื่องตัดเหล็กแบบคันโยก คีม ประแจ สารพัดเครื่องช่าง
เอาล่ะ กลับมาเข้าเรื่องกันต่อ
ในท้องร่องนั้นเองครับ ที่ป๊ากับแม่ จะสรรหาปลามาปล่อย แล้วยังมีเป็ดที่อยู่ข้าง ๆ บ่อ รวมถึงไก่ที่เลี้ยงไว้เก็บไข่ด้วย ผมเองก็ไม่รู้หรอกครับว่าปลามันไปอยู่ที่ไหนกันตอนผมกับน้องเล่นน้ำ เรารู้แต่ว่า เรามีเป็ด ไก่ และหมาของเราเป็นผู้ชมตอนเราเล่นน้ำ แค่นั้นก็สนุกแล้ว
แต่พอเราขึ้นจากน้ำ แล้วแม่เอาอาหารมาโปรย ไม่รู้มันมาจากไหนกันเยอะแยะไปหมด
ปลาดุกเอย ปลาสวายเอย แย่งกันขึ้นมากินอาหารราวสัตว์ประหลาดใต้น้ำที่หิวโหย
หลายครั้งที่แม่ครึ้มใจ ก็จะเอาเบ็ดไม้คันสั้น ๆ เกี่ยวเข้ากับเนื้อหมูชิ้นเล็ก ๆ
ไปปักไว้ตรงดินนิ่ม ๆ ข้างท้องร่อง ทิ้งไว้ข้ามคืน
“พรุ่งนี้ จะทำของอร่อยให้กิน” แม่ทิ้งท้ายในยามวิกาลไว้แบบนั้น
รุ่งเช้าแม่ก็จะให้ผมเดินไปดูเบ็ดให้ หากไม่มีปลามาติด เดี๋ยวสาย ๆ แม่ก็เอาเหยื่อชิ้นใหม่มาเกี่ยวไว้เหมือนเดิม
เราใช้ชีวิตแบบนี้ ชีวิตแบบไม่บีบคั้น ได้ปลาก็กินปลา ไม่ได้ปลาก็กินอย่างอื่นไป
แต่ถ้าโชคดี ปลากินเบ็ด ผมก็จะแหกปากโวยวายลั่นบ้าน เพื่อให้คนที่โตกว่าผม มาปลดปลาจากเบ็ด
แล้วเอาปลาใส่ถังไปให้แม่
"ปลามันเจ็บมั๊ยแม่ แล้วมันจะรู้ตัวไหมว่ามันกำลังจะตาย"
ความคิดเพ้อเจ้อของผมในวัยนั้น มักจะถูกแม่จี้จุดเอาเสมอ
"เราเลี้ยงมันมาเป็นอาหาร อย่าไปคิดแบบนั้นเลย"
แม่ไปจัดการเจ้าปลาดุกผู้โชคดีตัวนั้นตอนไหนไม่รู้
ผมเห็นอีกที่เจ้าปลาดุกก็ปลายเป็นชิ้นแว่นตามขวาง ขนาดประมาณซัก 1 นิ้วกองกันอยู่ในชามไปเสียแล้ว
แม่ตั้งกะทะใบบัวใบใหญ่และใบเดิมของแม่ขึ้นเตา
เทน้ำมันลงไปเกือบหมดหม้อใหญ่ที่เจียวไว้
ผมถอยกรูดออกมาจากกะทะโดยอัตโนมัติ เพราะกลัวน้ำมันจะกระเด็นใส่
“กลัวน้ำมันแบบนี้ แล้วเมื่อไหร่จะทำกับข้าวเป็น”
อ้าว เป็นอย่างนั้นไป
ก็มันกระเด็นนี่แม่ แล้วมันแสบ มันร้อน
ความทรงจำมันแสนเจ็บปวดจากการทอดไข่ยังคงเพรียกหาผมเสมอ
“เวลาทอดแล้วน้ำมันกระเด็น แสดงว่า ”น้ำ” มันลงไปในน้ำมัน เพราะฉะนั้น ถ้าไม่อยากให้น้ำมันกระเด็น ก็ต้องทอดของที่สะเด็ดน้ำแล้ว จำไว้”
แม่ใช้มือขวาควานลงไปตักชิ้นปลาดุกขึ้นมาจากชามใหญ่ที่พักไว้
รอให้น้ำสะเด็ด และสะบัดลงอีกเล็กน้อย จากนั้นก็หย่อนปลาทั้งกำมือ ลงไปในกะทะ
 
“ฉ่าาาาา”
ฟองร้อน ๆ ลอยขึ้นในฉับพลัน พอมันเลิกกระเด็น ก็จะเห้นชิ้นปลากระจายตัวเดือดพล่านในกะทะ ผมจัดแจงเตรียมตะหลิวไปช่วยกลับปลาในกะทะอย่างกุลีกุจอ
“อย่าเพิ่งไปคนมันนะ เดี๋ยวปลาจะแตก ไม่สวย”
รออีกอึดใจใหญ่ กว่าแม่จะยอมให้พลิกปลา พลิกกลับไป กลับมาจนสีสวยดี เหลืองกรอบทั้งชิ้น
จึงจัดแจงตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน
เสร็จจากปลา แม่ก็ตั้งหม้อเล็ก ๆ ใส่น้ำตาลปีกก้อนใหญ่ลงไป ตามด้วยน้ำปลาและส้มมะขามจากบ้านที่อ่างทองเคี่ยวจนหอมคลุ้งไปทั้งบ้าน จนได้น้ำปรุงรสหวาน เปรี้ยว เค็ม สีน้ำตาลสวยรสจัดจ้านแต่ยังไม่เหนียวข้นถึงขนาดน้ำปลาหวาน แม่พักหม้อนั้นไว้ แล้วหันเข้าหาโต๊ะกลางครัวที่วางผักนานาชนิดกองสุมไว้ เขียงพร้อม มีดพร้อม แม่ไล่จากหั่นขิงแก่เป็นเต๋าเล็ก ๆ ขนาดเท่ากินเมี่ยงคำ หอมแดง กระเทียมจีนฝานแผ่น มะนาวหั่นเต๋าทั้งเปลือก พริกจินดาหั่นซอยไม่เล็กมาก เผื่อใครไม่ทานเผ็ดจะได้เขี่ยออก คว้าขวดถั่วลิสงคั่วทั้งเปลือกที่ทำเก็บไว้มาร่วมด้วย ตะไคร้เลือกเอาอ่อน ๆ จากต้นหลังบ้าน ล้างแล้วซอยแว่นบางให้ละเอียด ผักชีท่อนสั้น ๆ ตามไปไม่มากแค่พอสร้างสีสัน แม่แยกชามผักที่หั่นเต๋าเตรียมไว้ จากปลา และน้ำเชื่อมของแม่
“พอจะป๊าจะกินค่อยคลุกรวมกันนะ ไม่งั้นเดี๋ยวมันเซ็ง” … จานโปรดของป๊าอีกแล้ว
เมื่อถึงเวลารวมร่าง แม่จะตักเครื่องเต๋าส่วนหนึ่งที่กะไว้เสริ์ฟประมาณ 1 จานเปล ลงในชามคลุกก่อน จากนั้นตามด้วยน้ำปรุงของแม่ คลุก ๆ แล้วก็คลุก ให้น้ำในเครื่องเต๋าออกมาซะส่วนหนึ่งและน้ำปรุงเข้าเนื้อรวมกันดี จากนั้นจึงหย่อนชิ้นปลาทอดลงไป เนื้อกรอบ ๆ ของปลาดุกทอด จะดูดซับน้ำปรุงแสนอร่อยไว้ที่ผิวของมันทันทีที่ได้สัมผัสกัน คลุกแต่เบามือ อย่าให้ปลาช้ำจนแตกป่นเป็นผง พอคลุกทั่วก็จัดวางลงในจานเปลใบใหญ่ เหมือนปลาดุกโรยด้วยอัญมณีสีสรรสดสวย รอให้ขี้เมาในบ้านมาลิ้มลอง
จานไหน จานนั้น ปลากี่ตัวก็ไม่มีทางเหลือ จากฝีมือคุณนายแม่ในเมนูนี้
หลายต่อหลายครั้ง ที่บ้านข้างเคียง ถึงขนาดลลงเงิน ลงแรงไปซื้อของ ซื้อเครื่องมาตระเตรียมส่งให้ถึงหน้าครัว เพื่อให้แม่ปรุงเมนูอันวิจิตรนี้ รอยยิ้มน้อย ๆ ที่แสนถ่อมตัวในฝีมือ กลับอิ่มเอมไปด้วยหัวใจคนทำครัวที่พองโต แม่มีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำครัว … …. และผมก็เช่นกัน
ขอบคุณที่อ่านครับ
ลาบวุ้นเส้น : เป็นอาหารอีกจานที่ผมได้รับแรงบันดาลใจมาจากครัวของแม่ครับ วุ้นเส้นนุ่มๆ ฉ่ำน้ำลาบรสชาติจัดจ้าน อิ่มสบายท้อง
โฆษณา