13 ก.พ. 2021 เวลา 12:24 • ธุรกิจ
Mastercard จะเปิดให้ลูกค้าชำระด้วยคริปโตเคอเรนซีภายในปีนี้
คริปเตอเคอเรนซีกำลังมีมูลค่าเพิ่มขึ้น และถูกยอมรับมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ และ Mastercard กำลังจะให้ผู้ใช้สามารถใช้คริปโตเคอเรนซีในการชำระได้
2
จากการนำโดย PayPal ที่ให้ลูกค้าซื้อขายคริปโตเคอเรนซีได้ โดยตอนแรกเปิดให้ซื้อขายได้ 4 สกุล Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), Bitcoin Cash (BCH) และ Litecoin (LTC) และล่าสุด CEO ของ PayPal Dan Schulman ประกาศแผนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับคริปโตเคอเรนซี อย่างกระเป๋าเงินดิจิทัล โดย Schulman ระบุว่ากระเป๋าดิจิทัลในโปรเจคใหม่นี้เหมาะสมที่จะใช้เป็นแพลตฟอร์มสำหรับธนาคารกลาง( CBDC ) (คล้ายกับแอพที่ดูแลโดยรัฐบาลอย่างแอพกระเป๋าตัง) และนอกจากนั้นยังมีแผนในการแปลงสินทรัพย์อื่นๆ ให้เป็นดิจิทัลผ่านการใช้ Smart contracts ได้อีกด้วย
1
และผู้นำด้านการชำระเงินยักษ์ใหญ่รายที่ 2 ที่ก้าวลงสนามคือ Mastercard โดยแผนคือจะให้ลูกค้าสามารถชำระเงินโดยใช้คริปโตเคอเรนซีได้ โดย Mastercard เล็งเห็นว่าแม้ว่าคริปเตอโคเรนซีจะมีผู้ใช้งานยอมรับเป็นจำนวนมาก แต่ยังคงถูกจำกัดในเรื่องการนำมาใช้ซื้อขายสินค้ากันจริงๆอยู่ โดย Mastercard จะทำตัวเป็นเหมือน gateway ระหว่างร้านค้า และลูกค้า โดยให้ลูกค้าสามารถชำระสินค้าบริการโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลได้ โดยไม่ต้องเจอกับความยุ่งยากในการแปลงเงินไปมา เช่น ถ้าลูกค้ามี BTC ก็สามารถนำไปชำระสินค้าเป็นสกุลอะไรก็ได้ ไม่ต้องทำการขาย BTC เป็นสกุลเงินนั้นก่อน(หลังบ้านทำให้เอง)
2
มูลค่าตลาดระหว่าง Mastercard และ Bitcoin
Mastercard 341 พันล้านดอลลาร์
Bitcoin 876 พันล้านดอลลาร์
คริปโตเคอเรนซี 1,428 พันล้านดอลลาร์
หลายปีที่ผ่านมามูลค่าลาดของ Mastercard จะถูกนำมาเปรียบเทียบกับ bitcoin เสมอซึ่งปัจจุบันมูลค่าของทั้ง bitcoin และคริปโตเคอเรนซีก็เกินมูลค่าของบริษัท Mastercard ไปไกลแล้ว ซึ่งการที่คนนำมาเปรียบเทียบเพราะอาจจะเห็นว่าคริปโตเป็นเสมือนคู่แข่งของ Mastercard และอาจจะส่งผลกระทบต่อบริษัทได้
แต่ปัจจุบันเป็นคู่แข่งหรือไม่ ไม่ได้สำคัญเลยเพราะ Mastercard อ้าแขนรับการมาของคริปโตได้อย่างรวดเร็วถือเป็นบริษัทที่ปรับตัวเข้ากับ fintech ที่กำลังเปลี่ยนแปลงได้อย่างดี ซึ่งสุดท้ายบริษัทในอุตสาหกรรมการเงินที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับ fintech ในยุคปัจจุบันมูลค่าจะค่อยๆลดลงเรื่อยๆ และหายไปในที่สุด
1
และการเพิ่มบริการในการเป็นสื่อกลางในการรับชำระด้วยสกุลเงินดิจิทัลของ Mastercard จะส่งผลในหลายด้านเช่น
1.ธุรกรรมการแลกเปลี่ยนในตลาดคริปโตเคอเรนซีจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล เพราะมันสามารถนำไปใช้ซื้อสินค้าและบริการได้ทุกที่ทั่วโลกที่รับชำระด้วย Mastercard
2.เราไม่จำเป็นต้องแลกเงินในจำนวนเท่าเดิมเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ จริงๆทุกวันนี้พฤติกรรมได้เปลี่ยนไปมากแล้วจากที่ทุกคนต้องไปแลกเงินบาทเป็นเงินเยน หรือดอลลาร์เมื่อไปต่างประเทศ แต่ปัจจุบันคนใช้บัตรเครดิตมากขึ้น หรือมีบางกลุ่มอาจจะกลัวค่าธรรมเนียมของบัตรเครดิตอยากแลกเงินเก็บไว้ก็มีบัตรที่ให้แลกสกุลต่างประเทศอย่างบัตร Youtrip ของกสิกรไทย การมารับชำระโดยสกุลเงินดิจิทัลของ Mastercard ก็จะส่งผลในแนวทางเดียวกัน เรียกได้ว่าแค่มีสกุลดิจิทัล 1 สกุล อาจจะใช้จ่ายได้ทุกที่ทั่วโลกแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปแลกเงินที่ตลาดแลกเปลี่ยน และถือเงินสกุลของต่างประเทศอีก
แต่แน่นอนว่าการบ้านของ Mastercard ต้องพิจารณาว่าจะรับเงินดิจิทัลสกุลใดบ้าง และวิธีในการดูแลความปลอดภัยของลูกค้า
โฆษณา