16 ก.พ. 2021 เวลา 12:41 • หนังสือ
แอร์คาสเซิลตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา มีผังเมืองเป็นทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ห่างจากแม่น้ำโนวอเตอร์ 2 ไมล์
ช่างน่าขบคิดว่า ทำไมต้องให้ชื่อแม่น้ำดังกล่าวว่า โนวอเตอร์ ทั้งที่เป็นแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดแท้ๆ
ภาพในปก ไม่ใช่รูปต้นฉบับนะครับ และขออภัยสำหรับความเบลอของมันด้วยครับ
นอกจากนี้ยังมีแม่น้ำอีกสายหนึ่งซึ่งเล็กกว่าไหลออกมาจากเขาและเข้าประสานกับโนวอเตอร์ ทำให้นครแห่งนี้ดูจะอุดมสมบูรณ์ทีเดียว
แม้นต้นน้ำจะอยู่ไม่ไกล แต่ชาวเมือง ก็ได้(ตามที่ผมเข้าใจ) เหมือนว่าพวกเขาจะขุดล่องน้ำ สร้างคลองรอบกำแพงเมือง ซึ่งอาจมิใญ่มาก เหมือนกับในหนังยุคกลาง ที่ปราสาทมีคลองรอบๆ
นอกจากนี้ พวกเขายังมีระบบท่อน้ำและมีถังน้ำฝนด้วย นี่มันอัจฉริยะเกินไปแล้ว!
เมืองล้อมด้วยกำแพงสูง มีหอคอยปรากฏเป็นระยะ และมีคูน้ำ(ที่ไม่มีน้ำ) รอบเมืองสามชั้น นอกจากยั้นแล้ว ยังมีรวดหนามคอยป้องกันอีกด้วย
ภายใต้ชายคาปราการกล้า บ้านเมืองในนครนี้กลับดูไม่โดเด่นนัก พูดก็คือ มันเหมือนกันไปหมด ด้วยเหตุว่าพวกเขาไม่เชื่อในเรื่องสมบัติส่วนตนนั่นเอง บ้านทุกหลังจะมีสวน และชาวแอแคสเทิลก็เจะชอบดูแลพวกมันยิ่ง อย่างไรเสีย ทุกสิบปี พวกเขาก็ต้องย้ายออกไป เพราะบ้านแต่ละหลังจะถูกเปลี่ยรมือทุกสิบปีนั่นเอง
อย่างไรเสีย มิใช่ว่ากการทำสวนเป็นแค่กิจกรรมยามว้าง ในนครที่ไม่มีทรัพส่วนตนนี้ สวนอาจเป็นสิ่งเดียวที่ยกเว้น พวกเขาชอบแข่งกันทำส่วน แต่ก็มิอาจมองหาส่วนที่โดดเด่นได้เลย ในเมื่อทุกสวนล้วนงามไร้ที่ติ และผู้ดีแลล้วนสนุกกับมัน
อย่างไรเสีย ตามหนังสือ โทมัส มอร์ เขียนว่า ความชื่นชมในการจัดสวนนี้อาจมีที่มาจากตัวผู้ก่อตั้งยูโทเปีย นายยูโทโพสนั่นเอง
ประชากรแบ่งเป็นกลุ่มละสามสิบครัวเรือน แต่ละกลุ่มมีหัวหน้าเรียกว่า สไตวอร์ด ถูกเลือกมาทุกปี
แต่ละเมืองจะให้ไสวอร์ดสองร้อยคนเลือกนายกเทศมนตรี เป็นการเลือกลับๆ จากผู้เข้าชิงสี่คนที่ถูกเสนอชื่อมาจากกลุ่มของตน เทศมนตรีดำรงตำแหน่งตลอดชีพ
เรื่องปัญหาบ้านเมือง ควรจะประชุมให้จบเร็วที่สุด สไตวอร์ดต่างคู่กันทุกวัน(หากจำเป็นต้องทำถี่ขนาดนั้น) และนายกเทศมาตรีจะมาร่วมประชุมในห้องประชุม หากไม่ประชุมในห้องดังกล่าวถือว่าผิด เพือป้องกันการทุจริตโดยไม่ผ่านความเห็นของฝ่ายๆต่างๆ
ในยูโทเปียทุกคนถูกสอนให้ทำเกษตรตั้งแต่เด็ก และนอกจากกสนเกษตรเด็กๆมักจะทำอาชีพตามพ่อแม่ แต่ก็มิจำต้องบะงคับเพราะสามารถไปทำงานอื่นได้
ทุกคนในบูโทเปียจะถูกจับตาโดยสไตวอร์ดท้องถิ่น ผู้มีหน้าที่ดูว่า ใครอู้งานบ้าง และจะจ้องฝห้แน่ใจว่าพวกเขาทำงานด้วย แต่พวกเขาไม่ได้ทพงานตลอด ชาวยูโทเปียทำวานวันละหกชั่วโมง
ทุกเช้าในยามว่าง คนส่วนใหญ่มักใช้เวลาใการศึกษา เข้าฟังบรรยายในห้องเรียน แต่บางคนก็ทำงานในเวลาว่างแทน
ช่วงเย็นพวกเขาจะใช้เวลาไปกับการพีกผ่อนบ่อนใจในสวน หรือในห้องอาหารรวม แต่ขะไม่มีการเล่นเกมอย่างหมากรุกแน่นอน เพระแสดงออกถึงสงคราม
แม้นจะทำงานวันละไม่มาก ชาวยูโทเปีย ก็ยังได้ปลผลิตดี เหมือนที่บริษัตร์ที่ให้ทำง่นที่ไหนก็ได้และเข้างานบามใดก็ได้ นั่นเองครับ
สรุปจากเนื้อหาในหนังสือ ยูโทเปีย: มหานครแห่งฝัน ฉบับตีพิมพ์โดย Arrow classicbook กราบขออภัยหากผมสปอยมากเกินไปด้วยนะครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา