15 ก.พ. 2021 เวลา 08:56 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
**Review** The Passenger [2008]
IMBD 6.0
Director: Rodrigo García
Writer: Ronnie Christensen
Stars: Anne Hathaway, Patrick Wilson, David Morse
The Passenger [2008]
The passenger เป็นหนังเก่าแล้วตั้งแต่ปี 2008 แต่ด้วยโครงเรื่องที่ไม่ได้เน้นกราฟฟิคหรือสเปเชี่ยล เอฟเฟ็คอะไรเยอะ ทำให้หนังดูได้เพลิน ๆ ไม่ขัดหูขัดตา
นักแสดงนำคงไม่ต้องพูดกันเยอะ Anne Hathaway เป็นเบอร์ต้น ๆ ที่พูดชื่อขึ้นมา
ทุกคนก็ร้องอ๋อ ด้านพระเอกได้Patrick Wilson มารับบทนำ แฟนๆหนังคงคุ้นหน้า
คุ้นตาเขาจากหลายเรื่องแต่ถ้าให้ยกตัวอย่างมาสักเรื่องแล้วคนดูนึกออกเลย
ก็คือบท Josh Lambert จาก Insidious
The passenger เป็นเรื่องราวของ Dr.Clair Summer (Anne Hathaway ) นักบำบัดสาวสวยที่ต้องเข้ามาดูแลกลุ่มผู้โดยสารที่ผ่านประสบการณ์เฉียดตายจาก
เหตุการณ์เครื่องบินตกมา
ในบรรดาผู้โดยสารที่รอดตายมาได้ 4-5 คน แคลร์ได้มาเจอกับEric
(Patrick Wilson) ผู้โดยสารหนุ่มหล่อที่กุมความลับบางอย่างไว้
Eric ดูเหมือนจะรู้ดีไปหมดทุกเรื่องว่า Clair เป็นคนยังไง มีปมอะไร
และต้องการอะไรในชีวิต ซึ่งมันประหลาดมากสำหรับคนที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรก
หรือว่าการที่ผ่านประสบการณ์เฉียดตายมา ปลุกความสามารถในการหยั่งรู้จิตใจ
คนอื่นของ Eric ให้ตื่นขึ้นมา
ถึงมันจะเป็นแค่ทฤษฎีที่ไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่ Clair ก็อยากหาคำตอบให้ได้ว่า
Eric อ่านใจคนได้จริงหรือเปล่า
เรื่องแปลก ๆ ไม่จบเพียงแค่นั้น กลุ่มคนไข้เครื่องบินตกที่อยู่ในความผิดชอบของ
Clair พวกเขาแต่ละคนต่างก็มีเรื่องราวประหลาดของตัวเอง
ในตอนแรก Clair คิดว่ามันเป็นเรื่องปกติของคนที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์ช็อครุนแรงมา
แต่เมื่อเวลาผ่านไป Clair เริ่มรู้ว่ามันมีเบื้องลึกมากกว่านั้น
ไหนจะเจ้าหน้าที่ของสายการบินอย่าง ARKIN [David Morse] ที่แสดงออกอย่าง
ชัดเจนว่าไม่อยากให้แคลร์เข้ามายุ่งย่ามสืบหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุครั้งนี้
รวมทั้ง Toni เพื่อนบ้านแสนดีเกินไปและ Perry เจ้านายของ Clair ที่ตั้งใจดึงเธอ
เข้ามารับผิดชอบเคสนี้โดยเฉพาะ Clair ของไขปริศนาทั้งหมดนี้ให้ได้
หนังเรื่องนี้อาจไม่เหมาะสำหรับคนชอบหนังแอ็คชั่น บู๊ ล้างผลาญ แต่จะเข้าจริตคน
ชอบดูหนัง Thriller, Mystery มาก
หนังทิ้งปมชวนสงสัยไว้ตั้งแต่เริ่มเรื่อง และคุม Mood ที่ชวนให้อึดอัด ชวนกดดันได้ดีตลอดกการเล่าเรื่อง
The Passenger เป็นหนังที่ตัวละครถอนใจบ่อยมาก ๆ นั่งดูไปก็เผลอถอนใจตามตัวละครไปด้วย ซึ่งตรงกับความตรงการของผู้กำกับที่อยากให้คนดูลุ้นและมึนงง
ไปพร้อมกับตัวละครนำ
ถึงเรื่องนี้จะไม่ฉากแอ็คชั่น ไล่ล่า ให้ลุ้นระทึก แต่การดำเนินเรื่องไม่น่าเบื่อเลย
เนื้อเรื่องไหลลื่นและเข้าสู่บทสรุปของเรื่องได้อย่างดี
ที่สำคัญตอนจบจะทำให้หลายคนอุทานเสียงดังออกมาแน่นอน
แต่จะเป็นคำว่า "โอ้โห...." หรือ "เชี่ยไรเนี่ย" ก็แล้วแต่จริตของแต่ละคน
=)
ทิ้งท้ายด้วยสำนวนน่าสนใจจากเรื่อง
"let’s just clear the air" = remove any confusion between us
มาเข้าใจให้ตรงกัน, ทำให้สิ้นสงสัย
บทสรุป
The Passenger [2008]
เหมาะกับคนที่ชอบหนังลุ้นระทึก แฝงปมไว้เยอะ ๆ ส่วนคนที่ชอบหนังบู๊ล้างผลาญ
5 นาทีตาย 100 ศพก็ข้ามไปได้ครับ
MW.
โฆษณา