16 ก.พ. 2021 เวลา 13:51 • นิยาย เรื่องสั้น
ใต้ร่มเงารัก ตอน 6 สอยดาวมาเคียงดิน 💫
ท่ามกลางหมู่ดาวพร่างพราย จูบของเฌอสรัลทำให้พฤกษ์ตาพร่ากว่าเดิม
"คุณไม่ได้ไล่ตามฉัน เรารักกัน" ปากเล็กนั้นเผยอบอก มันยังคงชุ่มฉ่ำเพราะเพิ่งผ่านจูบอันดูดดื่ม
เขาอดใจไม่ไหวก้มลงไปเชยชมริมฝีปากเธออีกครั้ง เธอไม่ผละหนีแต่มืออุ่นนั้นรุนไล้หลังเขาไว้อย่างร้อนรน
เขากระซิบข้างหูเธอ "จำที่ผมบอกตอนกลางวันได้ไหม" เขาขบหูเธอบริเวณที่ทัดดอกไม้ไว้ลิ้นชำแรกลงไปตามซอกกลีบใบหู จนเฌอสรัลขนลุกเกรียวและเผลอครางออกมา
"ฮื่อ" เธอตอบคำได้เพียงเท่านั้น เพราะมือใหญ่ของเขาลูบเนื้อโนมเนียนอุ่นช่วงบนของเธอไม่พัก
"สัญญาก่อนว่าถ้ากลับถึงบ้านแล้วจะไม่เปลี่ยนใจ" เขาถามเย้าพลางหัวเราะ
เธอผลักอกเขาออกละมองตาวาวนั้นอย่างยั่วเย้า
"ก็ไม่แน่" เธอว่าแล้วเดินเร็วๆทิ้งระยะห่างออกไป
พฤกษ์มองตามแล้วยิ้ม เธอคนนี้ช่างยั่วเขานัก
เขาวิ่งเข้าไปกอดเธอจากด้านหลัง หน้าจมเข้าสู่เรือนผมละหอมหนักๆ
"ยังไงคุณก็หนีหัวใจผมไม่พ้นหรอก" เขาพูดทั้งหัวเราะเสียงหนักแน่น
🍃🍃🍃
แสงแดดยามบ่ายส่องแรงน้อยลง หญิงสาวปาดเหงื่อขณะที่แหวกม่านไม้บุกป่าตามพฤกษ์ ลึกเข้าไปในป่าไม่ได้วังเวงอย่างที่เคยคิด
หากเต็มไปด้วยสรรพสำเนียงทั้งเสียงนกร้อง เสียงน้ำไหล เสียงลมพัดใบไม้ เขาก้าวเท้ายาวๆแต่ละย่างก้าวเต็มไปด้วยพละกำลังและความชำนาญ
เขาหันมาจับมือเธอ ฉุดให้มาทันแรงและความไวของเขา "ใกล้จะถึงแล้ว พูฉ่องตู" เขายิ้มเยื้อนและจ้องตาเธอด้วยประกายกล้า เธอจ้องตอบในที่นี่แห่งนี้ปราศจากความกลัวอีกต่อไป
เขาเดินนำเธอไปถึงระยะหนึ่งแล้วหยุดเสียเฉยๆ "ถึงแล้ว" ณ ที่นี่คือใจกลางป่า เฌอสรัลมองไปรอบกายแมกไม้เขียวครึ้มแลดูลานตาคล้ายกันไปหมด
"ต้นไม้นี้พ่อและแม่ของผมปลูกไว้วันที่ทั้งคู่แต่งงานกัน" ท้ายเสียงนั้นมีแววละห้อยหา แต่อิ่มเอิบใจในที
ไม้ใหญ่งามสองต้นเคียงกัน อายุร่วมกว่าหลายทศวรรษ "ผมเป็นลูกชายคนเดียวของพวกท่าน หลังจากพวกท่านตาย ผมก็มาที่ต้นไม้คู่นี้ มาดูแลรดน้ำ อย่างน้อยก็รู้สึกได้ว่าพวกท่านยังอยู่กับผม" เฌอสรัลน้ำตาคลอ
ความคิดถึงอันท่วมท้นไหลบ่าอวลอยู่ในกระแสอากาศ เขายืนนิ่งห่างเธอออกไป แม้ไหล่บ่าตั้งตรง รูปร่างสูงใหญ่ตระหง่านง้ำท้าแดดกล้าที่ส่งผ่านร่มไม้ ปลายผมรุ่ยลงมาที่เธอเห็นจนเริ่มคุ้นตา ความโดดเดี่ยวเหว่ว้านี้เธอเพิ่งเคยได้สัมผัส
เฌอสรัลเดินเข้าไปกุมมือพฤกษ์แน่นเข้าและซบไหล่อุ่นนั้น เขาเอนตัวเข้าหากดศีรษะลงให้ซบทับลงบนเรือนผมของเธอ "มีคุณแล้วผมอุ่นในใจเหลือเกิน"
"พ่อแม่คุณคงชื่นใจที่เห็นคุณเติบใหญ่ในวันนี้"
เธอเสพูดไปเรื่องอื่น
"ไม่มีใครแทนพวกท่านได้ และเลือดของท่านยังคงมีชีวิตอยู่ในกายผม" เขาพูดจบละนิ่งเนิ่นนาน
"ผมหวังและเคยฝัน คุณอย่าคิดว่าผมคาดคั้น วันหนึ่งผมอยากให้ลูกหลานของเราได้มองมาดูต้นไม้นี้ ณ ที่แห่งนี้เหมือนเรา" เธอไม่ตอบคำแต่รับรู้ได้ถึงความหนักแน่นที่เขาพูดในแต่ละพยางค์
เธอเพียงกดศีรษะเข้าหาเขามากเข้า และคล้องแขนเกี่ยวไว้ใต้ไออุ่นนั้น "ฉันเข้าใจ" เธอตอบคำแผ่วเบา
ทั้งคู่จ้องมองต้นไม้เนิ่นนาน พฤกษ์เอ่ยคำยืดยาวในภาษาของเขา น้ำตาไหลลงมาเป็นสาย
"คุณพูดว่าอะไรคะ" เธอถามอย่างสงสัยใคร่รู้ แววตาวามเป็นประกายจ้องมาในตาเขา ค้นคว้านอย่างไม่มีที่สิ้นสุด "ผมเพียงแค่ขอปาฏิหาริย์ให้สักวันคุณยอมปลงใจที่จะฝังรากกับผมที่นี่" เขามองเธอและเลื่อนตาไปมองฟ้าต่อร่มไม้ครึ้มบดบังแสงอาทิตย์
เขาไม่อยากรับรู้ท่าทีเรียบเฉย หญิงสาวแสร้งหลุบตาลงต่ำ ทำเป็นไม่รู้ร้อนรู้หนาวอีกเช่นเคย
🍃🍃🍃
"คืนนี้เราไปนอนดูดาวกันเถอะ" เขาเอ่ยชวนเธอหลังทานมื้อเย็นง่ายๆกันเสร็จแล้ว
เธอส่งสายตาแวววาว ใคร่รู้ว่าท้องฟ้าจะงามเพียงใด โดยเฉพาะเมื่อมีเพื่อนข้างกายชมดาวเป็นเขา
เมื่อทั้งคู่ไปถึงยอดผากว้างที่มีลานชมดาว หนุ่มสาวหลายคู่มาจับจองที่นั่ง นั่งพลอดรักกันแล้ว
"ไอ้เด็กรุ่นพวกนี้ ไปไหนก็หนีมันไม่พ้น" พฤกษ์บ่นอุบ พลางส่งสายตาชิงชังไปยังคู่รักหนุ่มสาวที่เอนไหล่พิงซบกัน
เฌอสรัลหัวเราะร่า "คุณบ่นเป็นตาเฒ่าไปได้ ใครเขาก็อยากมีคืนโรแมนติกกันทั้งนั้น"
ทั้งคู่หันมองรอบกายและมองฟ้า ค่ำคืนนี้มีบรรยากาศแสนหวานแต่ผู้คนก็พลุกพล่านจนน่ากระอักนะอ่วน
"ผมคงเริ่มแก่แล้วมั้ง ดูจากวัยของพวกนี้ มันรุ่นน้องผมนับสิบปี"
หญิงสาวนึกขันเบาๆแล้วส่ายหัว "ฉันก็ไม่ต่างกับคุณเท่าไหร่หรอก เราไปนั่งกันดีกว่า จะมายืนบ่นอยู่เสียเวลา"
เขาและเธอทรุดกายนั่งลงตรงโขดหินใหญ่
เขานำเต้นท์มาด้วยจึงตั้งกางมันอย่างลวกๆด้านหลัง เมื่ออากาศหนาวจะได้หลบเข้าไปพักและเผื่อว่าอากาศเป็นใจด้วยจะได้...
"คุณคิดอะไรอยู่คะ" หญิงสาวถามขึ้นขัดความคิดถามเมื่อเห็นเขานิ่งเหม่อ พฤกษ์กำลังง่วนกับเต้นท์จึงมีท่าท่างเงอะงะ ได้แต่บ่นในใจว่าเธอช่างสังเกตเสียจริง
"ผมกำลังคิดว่ามันหนาว คุณเข้ามาหลบลมก่อน" เขาใช้อุบายชี้ชวนเธอเข้ามาในมุมส่วนตัว
"อากาศกำลังสบายเลยค่ะ ฉันว่าจะถอดเสื้อนอกออกเสียตัวนึงด้วยซ้ำ จะเอาไปรองนั่งอุ่นๆ" หญิงสาวพูดพาซื่อ สายตายังสำรวจไปที่คู่รักต่างๆอย่างไม่ลดละ
"ผมบอกให้มานี่ เดี๋ยวก็จับไข้อีก"
เฌอสรัลขี้เกียจเถียง เขาเพียรบอกให้เธอหลบลมหนาว ตั้งแต่เธอมาเยือนดอยนี้เธอยังไม่เคยจับไข้สักครั้ง
เธอช่วยเขากางเต้นท์จนเสร็จแล้วก็มุดตัวเข้าไปข้างใน เขาหอบผ้าห่มตามมาแล้วรูดซิปปิด
"เต้นท์คุณมีรูด้วย" เธอว่าพลางเอนตัวลงนอน รอยขาดนั้นมันอยู่บริเวณเหนือหัวนอนพอดี
"ใครว่ารูขาด ผมตั้งใจเจาะไว้นอนชมดาวต่างหาก" เขาเฉไฉแก้ตัวเสียงขุ่น เฌอสรัลซ่อนยิ้มไว้ในหน้า
"คุณมานอนข้างๆฉันสิ จะได้นอนมองดาวผ่านรูด้วยกัน" เธอแกล้งเย้า เขาทำหน้าบึ้งแต่ก็ทรุดตัวลงนอนข้างๆเธอ ลมหายใจเขาระใบหน้า เขาไม่ได้นอนหงายแต่นอนตะแคงเข้าหาและมองจ้องหน้าเธอ
"ทำไมคุณถึงมาอยู่ตรงนี้" เขาถามอย่างเผลอไผล ถ้อยคำถามเขาเหมือนไม่ได้อยากรู้จริงๆแต่มันอดปากไม่ได้
"ลมเพลมพัดมามั้งคะ" เธอตอบยียวนและพินิจมองแสงดาวที่ลอดผ่านรูต่อ "ทำไมดาวลอยลงมาใกล้ดินอย่างนี้" เขากอดเธอกระชับเข้าละพูดพร่ำใส่หู
"คืนนี้ผมต้องได้ตัวคุณ ไม่งั้นผมคงคลั่งตาย"
"คุณพูดบ้าอะไรของคุณ เราเพิ่ง.." เธอเกือบจะหลุดปากไปว่าเมื่อกลางวัน แต่เขาไม่ยอมให้เธอพูดจบประโยค เขาโถมทับเธอแล้วจูบปากเธอด้วยแรงกดอันดูดดื่ม ท่อนล่างเขาพร้อมด้วยแรงและพละกำลัง
"พฤกษ์" เธอเรียกชื่อเขาเสียงแข็ง
"เฌอสรัล" เขาเรียกเธอกลับแต่น้ำเสียงละมุ่นนุ่มนั้นแนบหายไปเมื่อเขารุนไล้ผิวเนื้อเธอทั้งแก้มและลำคอ
"คุณจะมากไปแล้วนะ" หญิงสาวพยายามขืนแข็งตัว
"ก็ผมรักคุณนี่นา" เขาตอบอย่างขอไปทีและยังโลมไล้เธอไม่หยุด
เฌอสรัลรับรู้ได้ถึงระไออุ่นร้อนระหว่างแผ่นหลังและช่วงขาที่แนบกับเขา
"คุณอยากมาอยู่ตรงนี้เอง ผมปล่อยให้ว่างไม่ได้หรอก" เขาพูดพลางเอานิ้วเขี่ยไล้ปลายเนื้อโนมของเธอ หญิงสาวสูดปากอย่างแรง เขารู้รสนิยมของเธอจึงลงดื่มกิน ดูดดึงความหวานและแลบเลียจนขนลุกเกรียว
"พอแล้ว" เธอดันหัวเขาออกและพยายามบิดร่างซึ่งนั่นยิ่งเร่งกระตุ้น
"พอแล้วแสดงว่าพร้อมแล้ว" เขาปลดกางเกงออกไปอย่างไวละลากเสื้อผ้าท่อนล่างของเธอลงมา
เขาเห็นเธอยังแข็งขืนอยู่จึงลองล้วงเข้าไปหยั่งภายใน
เธอบิดเร่าพยายามปฏิเสธ แต่เนื้อในกลับชุ่มฉ่ำด้วยแรงเสน่หา เขารู้ว่าเธอชอบตรงจุดไหนจึงล้วงลึกเข้าไปทาบในส่วนนั้นแล้วกระตุกแรงๆจนหญิงสาวบิดเกร็ง
เขาผ่อนมือและเริ่มโลมไล้ต่อ ทั้งมือและปากไม่ได้หยุด "อย่าเงียบอย่างนี้สิ ผมอยากได้ยินเสียงคุณ"
เฌอสรัลพยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ร้องออกมา เขาเพ่งหน้าเธอเหมือนแกล้งและยิ่งย้ำลงในจุดที่อ่อนไหว เธอหลับตาปี๋เพราะไม่อยากมองให้ต้องอาย เขาได้ทีจังหวะที่เธอหลับตาจึงละมือออกแล้วรีบสอดของสำคัญเข้าไปอย่างรวดเร็ว หญิงสาวหายใจหอบเมื่อโดนโจมตีจุดสำคัญ เขาเอามือยกสะโพกเธอดึงหยัดเข้ามา
"คุณชอบฝืนตัวเอง ผมเลยต้องช่วยให้รีแล็กซ์หน่อย" เขาพูดพลางเค้นเคี่ยวลงไปซ้ำจนหญิงสาวอดไม่ได้ เสียงร้องหวีดหวิวเพราะความลึกของแรงสัมผัส เธอแหงนหน้าและแอ่นอก เขาได้ท่าจึงโลมไล้เลียไม่หยุดหย่อน
ในวินาทีนั้นเฌอสรัลมองผ่านรูขาดบนเต้นท์เห็นดาวลอยเด่นลับจากฟ้าร่วงมาบนดิน เขากระแทกเธอสุดทาง หญิงสาวร้องโอดและห่อปากด้วยแรงที่พุ่งเข้า ภายในเธอรัดรึงเข้าหาอันเป็นสัญชาตญาณธรรมชาติเมื่อถึงจุดหมาย แรงบีบนั้นพาเขาให้เค้นแรงสุดท้ายก่อนการปลดปล่อย
เขาทิ้งร่างลงข้างเธอแล้วหอมไหล่เปลือยของเธอหนักๆ "คุณนอนมองดาวสวยไหม" เขาพูดแล้วหันมากอดซุกหน้าไว้ที่ทรวงอกเธอ
"สำหรับผมดาวไหนก็ไม่สวยเท่าคุณแล้ว" นาทีนั้นที่ดาวตก หญิงสาวอธิษฐานขอให้ความมุ่งหวังเธอเป็นจริง มันควรถึงเวลาที่เธอต้องไปแล้ว
-หมายเหตุ ชื่อบุคคล สถานที่และข้อมูลเป็นเรื่องแต่งจากจินตนาการของผู้เขียน-

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา