17 ก.พ. 2021 เวลา 09:02 • อาหาร
ผักอนามัย ผักปลอดสารพิษ และผักอินทรีย์ ต่างกันอย่างไร
ผมค่อนข้างตกใจ เมื่อลองศึกษาเกี่ยวกับความหมายของผักปลอดสารพิษ เนื่องจากมีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องทำเกษตรอินทรีย์ จึงได้พบความจริงที่ว่า จริง ๆ แล้วมีการให้นิยามหรือความหมายของผักที่เราทานอยู่ในท้องตลาดแตกต่างกันไป และในวันนี้ผมก็จะมาบอกให้เพื่อน ๆ ได้ทราบเกี่ยวกับความหมายของที่ใช้เรียกผักในแต่ละชนิด ได้แก่ ผักอนามัย ผักปลอดสารพิษ และผักอินทรีย์ งานนี้มีเซอรไพส์กันแน่นอนครับ ว่าแล้วเริ่มกันเลย
1.ผักอนามัย ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าอนามัยปลอดภัยแน่นอน แต่เดี๋ยวก่อนมาดูความหมายกันดีกว่า
ผักอนามัย หมายถึง ผักที่อยู่ในกระบวนการผลิตแบบใช้สารเคมีป้องกันและปราบศัตรูพืช รวมทั้งมีการใช้ปุ๋ยเคมีเพื่อการเจริญเติบโต ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้ยังมีสารพิษตกค้างแต่ไม่เกินปริมาณที่กำหนด ต้องเก็บเกี่ยวทำความสะอาดและบรรจุหีบห่ออย่างดี เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค
ชื่อดูดีมาก มีสารพิษไม่เกินมาตรฐาน แล้วผู้บริโภคจะรู้ได้ยังไงครับ ว่าผักอนามัยนั้นมีสารเคมีเกินหรือไม่เกินมาตรฐาน
2. ผักปลอดสารพิษ ชื่อว่าผักปลอดสารยังไงต้องปลอดสารแน่นอนคร้าบ มาดูความหมายกันดีกว่า
ผักปลอดสารพิษ หมายถึง ผักที่มีระบบการผลิตที่ใช้สารเคมีในการป้องกันและปราบศัตรูพืช รวมทั้งปุ๋ยเคมีเพื่อการเจริญเติบโตของพืช แต่ให้เว้นช่วงการใช้สารเคมีก่อนการเก็บเกี่ยว ซึ่งผลผลิตที่ได้ยังมีสารเคมีตกค้าง แต่ไม่เกินในปริมาณที่กำหนดเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค โดยให้มีการขอใบรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้ใบรับรองผักปลอดสารพิษ ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 163 พ.ศ. 2538 ลงวันที่ 28 เมษายน 2538 เรื่องอาหารที่มีสารเคมีตกค้าง
ช็อค ! สตั้นไป 10 วิ ผักปลอดสารที่ผมมีความเข้าใจว่ามันปลอดสารนั้น จริง ๆ แล้วเป็นผักที่ผ่านกระบวนการใช้สารเคมีแทบทั้งสิ้น
3. ผักอินทรีย์ หรือที่เราเรียกว่าผักออร์แกนิค มาดูความหมายกันครับ
ผักอินทรีย์ หมายถึง ผักที่มีระบบการผลิตแบบไม่ใช้สารเคมีใด ๆ ทั้งสิ้น และไม่ใช้พันธุ์พืชที่ตัดต่อพันธุกรรม มีการใช้ปุ๋ยที่มาจากธรรมชาตเท่านั้น ผลผลิตที่เก็บเกี่ยวได้จึงมีความสะอาดและปลอดภัย 100 % ตามกรรมวิธีของเกษตรอินทรีย์และเป็นระบบการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ความหมายของผักอินทรีย์เป็นไปตามที่คิดไว้ใช่ไหมล่ะครับ การปลูกผักในระบบอินทรีย์ส่งผลดีต่อสุขภาพของผู้ปลูกและผู้บริโภค สำหรับผู้บริโภคแล้ว การได้เลือกทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ไร้สารพิษถือเป็นสิ่งสำคัญมากในการดำรงชีวิตเพราะการเลือกรับประทานอาหารที่ดีก็ย่อมจะส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาว
สำหรับเกษตรกรถ้าจะทำการตลาดอย่างจริงจังจะต้องมีการขอใบรับรองผลผลิตของเราว่าเป็นอินทรีย์ 100 % และผมคิดว่าตอนนี้การทำเกษตรอินทรีย์ยังให้ผลผลิตที่น้อยอยู่มาก เมื่อเทียบกับความต้องการของผู้บริโภค ตามห้างสรรพสินค้ายังหาได้ยาก บางครั้งต้องรู้จักกับเกษตรกรอินทรีย์ผู้ผลิตจึงจะได้มีโอกาสรับประทาน เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเกษตรกรรุ่นใหม่ที่จะเจาะตลาดอินทรีย์โดยเฉพาะ เพราะการเปลี่ยนแปลงในรุ่นเรา ๆ ทำได้ง่ายกว่าเกษตรกรรุ่นพ่อรุ่นแม่ ดีต่อผู้ผลิตและผู้บริโภคเองก็มีความต้องการที่มากอยู่แล้ว
ผมจึงอยากเชิญชวนเกษตรทุกท่านค่อย ๆ เปลี่ยนการทำปลูกผัก ผลไม้มาเป็นระบบเกษตรอินทรีย์ เริ่มจากน้อยไปหามาก ทั้งนี้ผู้บริโภคก็พร้อมที่จะสนับสนุนผู้ผลิตผักผลไม้ที่อยู่ในระบบเกษตรอินทรีย์ด้วยเช่นกัน
และอีก 1 การทดลอง คือการเก็บรักษาผลผลิต
ผมซื้อผักในตลาดมาเก็บไว้ในตู้เย็น เพียง1 สัปดาห์ ผักเน่า
**แต่ผักที่ผมปลูกแบบอินทรีย์กลับเก็บได้นาน ถึง 2 สัปดาห์
นี่แหละครับผักอินทรีย์ก็ดีอย่างนี้แหละครับ
โฆษณา