18 ก.พ. 2021 เวลา 12:00 • นิยาย เรื่องสั้น
ใต้ร่มเงารัก ตอนที่ 8 หมายจันทร์คืนใจ 🌙
ใต้ร่มไม้หน้าอาคารเรียน มันทอดเงาขยายแผ่กว้าง แต่กลับตั้งต้นอยู่เดียวดาย พฤกษ์สะท้อนใจแหงนหน้ามองกิ่งก้านนั้น
“มานั่งตรงนี้เร็ว ฉันซื้อกาแฟมาให้คุณด้วย”
เฌอสรัลว่าพลางทรุดตัวลงบนม้านั่งหินอ่อนสีขาวคร่ำฝุ่น
เขารับแก้วมา และเพ่งมองไปยังต้นไม้อย่างใจลอยแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ต้นไม้แก่มาก”
“ค่ะ ตั้งแต่สมัยที่มหาวิทยาลัยยังมีแต่ป่า ต้นไม้นี้คงเป็นต้นสุดท้ายที่เหลืออยู่”
เธอพูดเร็วๆ พลางกดมือถือไปด้วย เพราะเธอจากไปหลายอาทิตย์ งานที่คั่งค้างรอสะสางจึงมีไม่หยุดหย่อน
“วันนี้คุณมีธุระอะไรไหมคะ”
เธอถามพลางซดกาแฟเร็วๆ ก่อนจ้องตาเขานิ่งลึก
“ผมจะมีอะไรทำ ตามคุณมาอย่างเดียว”
เขาว่าและหัวเราะแห้งๆ ก่อนจิบกาแฟบ้าง
ลมพัดแผ่วๆมาด้วยกระไอร้อน ปอยผมมุ่นของเขาตกลงหน้ามาเคลียปลายคิ้ว เขายังคงหล่อเหลากับท่าทีสบายๆแม้จะดูขัดเขิน
“เพื่อนอาจารย์ฉันน่ะค่ะ เขาอยากเจอคุณมาก เราทำการศึกษาเรื่องนี้มานานมากกับหลายกลุ่มชาติพันธุ์ เขาอยากสัมภาษณ์คุณเรื่องความเชื่อมโยงของวัฒนธรรมคุณกับกลุ่มชาติพันธุ์ในนิเวศใกล้เคียง ถ้าคุณจะกรุณา..”
เธอพูดไม่หยุดปาก แต่เขารู้ว่าเธอต้องการอะไร
ถ้าเขาอยู่นี่นานกว่านี้เธอคงลากเขาไปพบใครต่อใคร เสมือนเขาเป็นของป่า ของแปลก แม้น่าชื่นชม น่าสนใจใคร่รู้แต่ก็แปลกแยกแตกต่าง
“ผมว่าพรุ่งนี้จะกลับแต่เช้า คงต้องขอพัก”
เขาตอบเสียงนิ่งๆ
เฌอสรัลรับรู้ไอเย็นในน้ำเสียงจึงรีบบีบมือเขาเบาๆ
ทั้งคู่กุมมือกันเนิ่นนาน มองลมพัดใบไม้ไหวจากต้นไม้ใหญ่ที่แผ่ร่มเงา
หญิงสาวคว้าใบสีส้มอ่อนที่ร่วงจากต้น แผ่มือเขาออกและแนบมันไว้ในฝ่ามือเขา
“แม้ไม่งามอย่างต้นที่บ้านคุณ แต่คุณย่าต้นไม้นี้ก็อยู่คู่กับคณะเรามานาน ฝากไว้เผื่อระลึกถึงกันนะคะ”
เธอยิ้มใส่เขาตาหวาน
เขาลืมความโกรธขึ้งและยิ้มสวนไปแม้นัยน์ตาจะเศร้าซึม
🌿🌿🌿
เช้าวันถัดมา เฌอสรัลตื่นมาส่งพฤกษ์ที่ด้านล่างตึก
เขาเตรียมสัมภาระมาไม่มาก
พอละของเธอไว้ที่นี้ จึงเปรียบเสมือนเขากลับไปตัวเปล่าเท่าที่เขามา
พฤกษ์โอบกอดเฌอสรัลราวกับจะเป็นครั้งสุดท้าย อ้อมกอดของเขานิ่งงัน แต่หนักแน่น
“คิดถึงผมบ้าง” เสียงเขาห้าวแหบพร่า
พฤกษ์สะกดกลั้นกับอารมณ์สุดท้าย
เขาจ้องลึกไปในดวงตาของเธอ
หญิงสาวพยักหน้าหนักๆ
เขาจูบลงมาที่ริมฝีปาก
แรงกดประทับราวกับจะจดจำทุกร่องรอยสัมผัส
เขายัดห่อผ้าฝ้ายเล็กๆใส่มือเธอ
แหวนหมั้นของเขายังคงประกายล้อแสงอยู่บนเรียวนิ้วงาม
"พูฉ่องตู ปลูกมันไว้ เหมือนปลูกดอยไว้กับคุณ”
เฌอสรัลกะพริบตาถี่ๆ ขับไล่หยาดน้ำตา
เขาเดินก้าวไปที่รถมอเตอร์ไซค์ สวมเสื้อนอกและบิดเครื่องจากไป ไม่แม้เหลียวกลับมามอง
หญิงสาวมองเขาจนลับตา
คลี่ห่อผ้าเปิดดูออกมันเขียนด้วยอักษรในภาษาของเขา แปลความได้ว่า “แล้วคุณจะกลับมา”
🍃🍃🍃
เวลาผ่านนานหลายสัปดาห์
ค่ำคืนนั้นเฌอสรัลนั่งวุ่นกับกองบันทึกภาคสนาม เทป ไฟล์เสียง ไฟล์ภาพและหลักฐานใดๆก็ตามที่เธอใส่เครื่องคอมพิวเตอร์ไว้
หญิงสาวขมวดคิ้ว หน้ามุ่น ทั้งพิมพ์และจดลงบนกระดาษ มิใยต้องพูดถึงหนังสือและเอกสารอีกกองโตที่ถูกขีด คั่นหน้า รอการนำมาร้อยเรียงในรายงานการวิจัย
เธอห่อปากน้อยๆ ใช้ปลายดินสอเคาะปาก ข้อความบางส่วนถอดความอย่างไรก็ไม่เข้าใจ คงจะดีหากมีใครที่เข้าใจในวัฒนธรรมนี้ลึกซึ้งอย่างคนใน*คอยอธิบายให้เธอฟัง
เฌอสรัลคิดถึงพฤกษ์
เธอเหม่อมองไปที่กระถางต้นไม้นอกหน้าต่าง
มันว่างเปล่าเปรียบเหมือนร้างไร้ต้นไม้ แต่ที่จริงภายใต้ดินนั้น เฌอสรัลฝังเมล็ดที่พฤกษ์มอบให้กับเธอไว้ ต้นไม้ป่ามันไม่ยอมโตในกระถาง
แม้เธอจะพร่ำรดน้ำ พรวนดินอย่างไรก็ไร้วี่แว่วของต้นอ่อน แต่เธอก็ใจไม่แข็งพอที่จะขุดมันไปทิ้งเสีย จึงได้แต่ปล่อยกระถางให้แลดูว่างอยู่อย่างนั้น
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นทะลายภวังค์ของเธอ มันเป็นเบอร์แปลกที่ไม่คุ้นเคย
แม้ปกติจะไม่ค่อยมีใครโทรศัพท์หากันแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยามวิกาลเช่นนี้ แต่เฌอสรัลก็เลือกที่จะรับสาย
"สา” เสียงเรียกนั้นเป็นของพฤกษ์อย่างแน่นอน ใจหญิงสาวโลดแรงอยู่ในอก
"พฤกษ์?” เธอเรียกชื่อเขากลับ แล้วเธอก็ได้ยินเสียงสะอื้นไห้
"คุณมาหาผมที่โรงพยาบาลภูมินทร์ได้ไหม คุณพ่อแย่แล้ว” เขาบอกเรื่องร้อนมาตามสาย เธอรับคำและรีบขับรถออกไปหาเขาอย่างรวดเร็ว
🍃🍃🍃
พฤกษ์นั่งไม่ติด เขาจึงมายืนรอเฌอสรัลอยู่หน้าโรงพยาบาลแสงจันทร์นวลชวนฝันสีเหลืองอ่อนละออ
หญิงสาววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาเขา
"คุณพ่อเป็นอย่างไรบ้าง” เธอว่าพลางยื่นมือมาจับเขาแน่น แต่สำหรับเขาไม่พอแค่นั้น เขาดึงร่างเธอเข้ามากอดทั้งร่าง รวบไว้ในอ้อมแขน
"ขอบคุณสวรรค์” เขาพูดออกมาไม่ตรงคำถาม
แต่เธอก็กอดตอบเขา
พฤกษ์พาเฌอสรัลเข้าไปภายในโรงพยาบาล ห้องผู้ป่วยของคุณพ่อเงียบสงัด
มันเป็นเวลากลางดึก เฌอสรัลเข้าห้องแล้วจึงนั่งลงที่โซฟาเงียบๆ
ทั้งสองพูดคุยกันเบาๆ เพราะไม่อยากให้ชายชราตื่น
“หมอบอกว่าต้องรักษาตัวอีกนานไหม” เธอถามไถ่ สายตาทอดไปยังชายชราอย่างห่วงใย
พฤกษ์ส่ายหัว “คุณพ่อแก่มากแล้ว ผมเกรงว่านี่อาจเป็นครั้งสุดท้าย”
"ครอบครัวของท่านล่ะ” เธอถามต่อ
"ท่านจากบ้านเกิดมาหลายสิบปี บ้านของท่านคือที่นี่”
เฌอสรัลทำหน้าทุกข์ร้อน เธอบิดมือไปมาก่อนโพล่งในที่สุด "รู้ไหม ฉันไม่ห่วงคุณพ่อเท่าห่วงคุณ”
เขาอึ้งกับคำพูดห่วงใยตรงๆของเธอ เสียงหนักแน่นพาถ่วงใจเขาหนักด้วยความอุ่นขึ้นอย่างประหลาด
"คุณพ่อท่านแก่แล้วและท่านก็เยือกเย็นพอที่จะยอมรับชะตาอย่างสุขุม แต่วันนี้ที่ฉันได้ยินเสียงคุณ จ่อเส่ บอกตรงๆฉันว่าคุณกำลังหลงทาง”
พฤกษ์แทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ไม่เคยมีใครคิดถึงเขาแบบที่เธอคิดเลย
“ใช่ นอกจากคุณพ่อ ผมก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนเหลือแล้ว หากท่านจากไป ผมก็อยู่ลำพังบนโลกนี้”
เขายอมรับอย่างง่ายๆ
ดวงตาทอดมองไปทางเตียงที่คุณพ่อนานอยู่ ท่านหายใจรวยริน
"คุณมีฉัน” เธอว่าแล้วจับมือเขาไว้แน่น
เมื่อเห็นเขาเงียบไป เธอจึงเอ่ยย้ำอีกครั้ง “คุณมีฉัน”
ท้ายเสียงนั้นห้วนเข้า เขาคิดเองว่าเธออาจเคืองเมื่อเห็นไม่ได้การจึงจูบเธอเร็วๆหนักๆเข้าที่ปากบางนั้น
"นี่คุณทำบ้าอะไร”
เฌอสรัลเสียงเขียวและบิดแขนเขาหนึ่งที
"อยากยืนยันตัวตนว่าคุณอยู่ตรงนี้จริงๆ”
เขาโอบเอวแล้วซบไหล่เธอดึงหัวเธอรุนมาซุกอกเขาไว้
อธิบายศัพท์
คนใน หมายถึง คนที่อยู่ในกลุ่ม แวดวงหรือวัฒนธรรมดังกล่าว ในที่นี้หมายถึงคนในกลุ่มชาติพันธุ์ที่เฌอสรัลกำลังศึกษา
หมายเหตุ ชื่อบุคคล สถานที่และข้อมูลเป็นเรื่องแต่งจากจินตนาการของผู้เขียน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา