ทำความรู้จัก SPCG เจ้าของฟาร์มพลังงานที่ไม่มีวันหมดจาก “แสงอาทิตย์”
สวัสดีครับเพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน เชื่อว่าหนึ่งในพลังงานที่อยู่ใกล้ตัวพวกเราที่สุดอย่างนึงนั้นก็คงจะเป็น “แสงอาทิตย์” ที่มีความร้อนแรงเหลือเกินในโซนของประเทศเรา
ซึ่งเพื่อนๆก็น่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า เป็นเวลาหลายปีแล้วที่มนุษย์สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าขึ้นมาจากแสงอาทิตย์ได้ แต่ปัจจุบันอาจจะยังไม่เป็นที่แพร่หลายในภาคครัวเรือน
และหุ้นอย่าง SPCG ก็คือหนึ่งในเจ้าของฟาร์มพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำของไทยที่เราอยากจะแนะนำให้เพื่อนๆได้รู้จักกันวันนี้ ส่วนพวกเขาจะทำอะไร และมีความน่าสนใจแค่ไหน
เตรียมตัวให้พร้อมแล้วไปลุยกันเลยครับ
สำหรับ SPCG ก็คือชื่อหุ้นของบมจ. เอสพีซีจี ผู้ประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ “รายแรก” ของประเทศไทยและอาเซียน
SPCG ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2553 โดย “ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ” ผู้ที่เพิ่งจะเกษียณตัวเองจากการทำงานมาได้ราวๆ 4 ปีและตัดสินใจผันตัวเองมาเป็นผู้บุกเบิกการทำธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์เชิงพาณิชย์
โดยในปัจจุบัน SPCG ก็จะทำธุรกิจอยู่ 4 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่
ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโซล่าร์ฟาร์มแบบครบวงจร (Solar Farm) พร้อม Maintenance
ธุรกิจติดตั้งหลังคาเหล็ก & โครงสร้าง
ธุรกิจติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof)
ผู้แทนจำหน่ายเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้า (Inverter) และ SMA Solar Technology AG (SMA) ของประเทศเยอรมัน
และถ้าหากแบ่งตามสัดส่วนรายได้แล้ว ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโซล่าร์ฟาร์ม จะถือว่ามีสัดส่วนเยอะสุดอยู่ที่ 84% รองลงมาเป็น ธุรกิจจำหน่ายเครื่องแปลงกระแสไฟฟ้าที่ 9.5% และธุรกิจติดตั้งหลังคาเหล็ก & โครงสร้างอีก 4.2%
ซึ่งความโดดเด่นที่ SPCG มีนั้นก็คือคุณภาพของแผงที่ผ่านการคัดเลือกคุณภาพ และความมั่นคงของตัวบริษัทนั่นเองเพราะว่าทางบริษัทนั้นจะต้องรับประกันกตัวแผงว่าจะผลิตพลังงานไฟฟ้าให้ลูกค้าได้อย่างน้อย 80% ในระยะเวลาอีก25 ปีข้างหน้า
💰งบการเงินของ SPCG
ปี 2560 รายได้ 6,122 ล้านบาท
กำไร 2,524 ล้านบาท
ปี 2561 รายได้ 6,046 ล้านบาท
กำไร 2,614 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้ 5,323 ล้านบาท
กำไร 2,669 ล้านบาท
(ล่าสุด)งวดเก้าเดือนปี 2563
รายได้ 3,890 ล้านบาท
กำไร 2,097 ล้านบาท
ถึงแม้ว่าจะเป็นหุ้นที่เงียบๆ ไม่ค่อยถูกพูดถึงบ่อยกันสักเท่าไหร่ แต่ SPCG ก็จะถือว่าเป็นหุ้นที่มีผลงานและตัวเลขทางการเงินต่างๆที่น่าสนใจเลยทีเดียวครับ กับระดับ P/E 6.75 เท่าและเงินปันผลอีก 6.19% ด้วย Market cap ปัจจุบันที่19,188 ล้านบาท
ส่วนโครงการ M&A หรือการควบรวมกิจการโซลาร์ฟาร์มในประเทศญี่ปุ่นราวๆ 100MW ในช่วงนี้ก็ต้องมีการเลื่อนออกไปก่อนจากผลของการแพร่ระบาด Covid-19 ระลอกใหม่ทั้งในประเทศญี่ปุ่นและไทยอยู่นั่นเอง
แต่สำหรับโครงการภายในประเทศ SPCG ก็ยังมีการเดินหน้าลงทุนต่อด้วยงบกว่า 1 หมื่นล้านบาททั้งในพื้นที่ EEC และการก่อสร้างโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม Ukujama ประเทศญี่ปุ่นรวมกันราวๆ 300MW ซึ่งคาดว่าจะทำการเปิดใช้เชิงพาณิชย์ได้ภายในปีพ.ศ. 2566
เรียกได้ว่าเป็นหุ้นที่ค่อนข้างจะมีความมั่นคงและไม่ค่อยหวือหวาสักเท่าไหร่ครับกับ SPCG ทั้งในด้านของราคาหุ้นและการเติบโต ทำให้หุ้นตัวนี้เหมาะที่จะเป็นตัวเลือกสำหรับนักลงทุนผู้มองหาหุ้น Defensive ที่มีอัตราการจ่ายปันผลที่ดีๆอยู่
ส่วนความเสี่ยงของ SPCG ก็คงจะต้องไปติดตามกันต่อทั้งในเรื่องคู่แข่งที่เริ่มมากขึ้น และสัญญาการขายไฟฟ้าแบบAdder ที่เพิ่งจะหมดไปเมื่อปีพ.ศ. 2563 ซึ่งอาจจะส่งผลกับการเติบโตของพวกเขาได้หรือไม่ ?
และสำหรับในวันนี้พวกเรา หุ้นพอร์ตระเบิด ก็คงจะต้องขอตัวลาทุกท่านกันไปก่อน
สวัสดีครับ...
ผู้สนับสนุน
สนใจเปิดบัญชี ค่าคอมหุ้น 0.05 %
TFEX สัญญาละ 25
กับโบรคเกอร์
พร้อมเข้ากลุ่ม VIP
แจ้งชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรทาง INBOX ได้เลยครับ
- 41
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
