22 ก.พ. 2021 เวลา 02:00 • ประวัติศาสตร์
“เลดี้ได (Lady Dai)” มัมมี่สภาพสมบูรณ์อายุกว่า 2,000 ปี
1
ในปีค.ศ.1971 (พ.ศ.2514) คนงานในมณฑลหูหนาน ประเทศจีน ได้ขุดพบซากโบราณคดีที่ทรงคุณค่า
สิ่งที่พวกเขาขุดพบ คือหลุมศพที่สร้างอย่างประณีตบรรจงถึงสามหลุม โดยหลุมหนึ่งเป็นของขุนนางที่ชื่อ “หลี่คัง (Li Kang)” และอีกหลุมหนึ่งของภรรยาของเขา นั่นคือ “เลดี้ได (Lady Dai)” และอีกหลุมเป็นของลูกชาย
สมาชิกทั้งสามนี้มีชีวิตอยู่ในสมัยราชวงศ์ฮั่น (206 ปีก่อนคริสตกาล-ค.ศ.220) โดยเลดี้ไดเสียชีวิตเมื่อราว 163 ปีก่อนคริสตกาล หรือเมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน หากแต่ร่างของเธอยังอยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่าสมบูรณ์มากทีเดียว และสิ่งของต่างๆ ที่พบ ก็ยังทำให้นักประวัติศาสตร์ทราบเกี่ยวกับชีวิตในยุคนั้น
การขุดพบครั้งนี้เป็นการขุดพบโดยบังเอิญ โดยสถานที่พบนั้น คือบริเวณภูเขา Mawangdui
1
ในเวลานั้น เหล่าคนงานกำลังพักผ่อนจากการทำงาน และได้สูบบุหรี่ หากแต่อยู่ๆ ไม้ขีดไฟของพวกเขาก็เกิดติดขึ้นมาเอง เนื่องจากลมจากอากาศภายในหุบเขาที่ปล่อยออกมา ทำให้เหล่าคนงานตกใจ และเรียกให้นักวิทยาศาสตร์ลองสำรวจ และพบกับเลดี้ไดในที่สุด
1
ในปีต่อมา นักโบราณคดีได้เริ่มขุดสำรวจบริเวณนี้ โดยมีนักเรียนที่ร่วมเป็นอาสาสมัคร ช่วยในการสำรวจกว่า 1,500 คน
จากการสำรวจ นักโบราณคดีพบว่าโลงศพที่อยู่ด้านในสุดเป็นของหลี่คัง ถัดมาคือเลดี้ไดและลูกชาย ส่วนโลงศพที่อยู่ด้านนอกเป็นที่ๆ เก็บสมบัติมีค่ามากกว่า 1,000 ชิ้น
1
สมบัติที่พบนั้น มีทั้งเสื้อผ้าที่ทำจากผ้าไหมกว่า 100 ตัว เครื่องไม้ขัดเงากว่า 182 ชิ้น รวมทั้งเครื่องสำอางและเครื่องประดับต่างๆ รูปปั้นคนรับใช้อีก 162 ตัว และทรัพย์สมบัติอีกจำนวนมาก
แต่ในโลงศพของหลี่คังและลูกชายนั้น ไม่มีอะไรให้น่าตื่นเต้นมากนัก และคาดกันว่าทั้งสองน่าจะเสียชีวิตก่อนเลดี้ไดเป็นเวลานาน
ภายหลังจากเสียชีวิตมานานกว่า 2,000 ปี ก็ได้มีการพบร่างของเลดี้ได และได้ทำการชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต
ผลการชันสูตร พบว่าในกระเพาะอาหารมีเมล็ดแตงโมกว่า 138 เมล็ด ซึ่งทำให้คาดการณ์ว่าเลดี้ไดน่าจะเสียชีวิตในฤดูร้อน ซึ่งเป็นช่วงที่ผลไม้งอกงาม และเธอได้เสียชีวิตหลังจากกินแตงโมไปไม่กี่ชั่วโมง และเธอยังมีพยาธิ ลิ่มเลือด ปัญหาเกี่ยวกับหลังและตับ
แต่สิ่งที่ทำให้เธอเสียชีวิต คาดกันว่าน่าจะเป็นโรคหัวใจ และเลดี้ไดน่าจะเสียชีวิตขณะอายุ 50 ปี
1
ศพของเลดี้ไดเรียกได้ว่าอยู่ในสภาพสมบูรณ์ถึงแม้จะผ่านเวลามานานกว่า 2,000 ปี ผิวหนังยังคงสภาพ เส้นผมก็ยังมี อวัยวะต่างๆ ก็ถือว่าสมบูรณ์
1
ในทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์ก็ยังคงทึ่งและสงสัยว่าทำไมศพของเธอถึงไม่เน่าสลาย ซึ่งก็อาจจะเป็นไปได้ว่าสถานที่เก็บศพนั้นอยู่ในหุบเขาซึ่งมีอากาศเย็น ทำให้เป็นการรักษาศพ
ได้มีการจำลองหุ่นเลดี้ได คาดกันว่าขณะมีชีวิตอยู่ เธอมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร ซึ่งสร้างความสนใจให้ใครหลายๆ คน
รูปจำลองเลดี้ได
เลดี้ได จึงเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่น่าจดจำในประวัติศาสตร์โลก
โฆษณา