Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ครัวของแม่
•
ติดตาม
24 ก.พ. 2021 เวลา 05:38 • อาหาร
ครัวของแม่ ตอนที่ 8 : คิดถึง...แม่
ในภาพนี้คือ สำรับข้าวมันส้มตำเครื่อง ๙ ตามตำรับพระวิมาดาเธอครับ ผมได้มีโอกาสไปเรียนและฝึกทำมาเมื่อประมาณปีที่แล้วนี้เอง สนุกและเหนื่อยสุดๆ ไปเลย ^^"
ครั้นเมื่อผมเข้าเรียนในสถาบันราชภัฎใจกลางเมืองหลวง
จากเด็กชานเมืองย่านเพชรเกษม รอยต่อระหว่างกรุงเทพและนครปฐม
ต้องเดินทางเข้าเมืองทุกเช้ามืด การเดินทางในสมัยนั้นค่อนข้างลำบากมากครับ
รถเมล์น้อยสาย จำเป็นที่จะต้องนั่งฝ่าเข้าใจกลางเมืองไปกันเลยทีเดียว
ไม่เหมือนสมัยนี้ ที่รถเมล์ครอบคลุมถนนแทบทุกเส้นทาง
หลีกเลี่ยงถนนที่รถติด ซอกแซกไปยังที่หมายได้รวดเร็ว
เพชรเกษม บางแค ท่าพระ จรัญสนิทวงศ์ บางพลัด ซังฮี้ แยกการเรือน …
ผมออกจากบ้าน 05.30 น. ถึงมหาวิทยาลัยก็ 8 โมงเกือบ 9 โมงเช้า
เข้าเรียนรวมก็ไม่ทันเพื่อน หลับบนรถเมล์ไม่รู้กี่ต่อ
ร้อน เหนื่อย เพลีย และ ... เบื่อ
หลายต่อหลายครั้ง ที่ผมท้อจนเกือบจะเลิกเรียนไปกลางคัน
“จะเรียนได้ซักเท่าไหร่ คอยดูเหอะ อีกหน่อยก็มาลากสายตู้อ๊อคกับกูนี่ 55555”
คำพูดปรามาสจากพี่ชายคนโต ยังคงดังก้องในหัวผมเสมอจนวันนี้
ความอบอุ่นหนึ่งเดียวที่ผมรับได้ในตอนนั้น
คือไม่ว่าผมต้องตื่นเช้าขนาดไหน ตี 4 ตี 5 เช้ามืดอย่างไร
“แม่” จะลุกขึ้นมาทั้งชุดนอน เพื่อส่งผมขึ้นรถสองแถวหน้าบ้านเสมอ
พร้อมกับการคะยั้นคะยอให้รอแม่ทำอะไรให้กินก่อนไปผจญเมืองหลวงแบบรายวัน
“ไม่ทันหรอกแม่ แค่นี้ก็สายแล้ว”
ผมปฏิเสธแม่อย่างนุ่มนวลที่สุดเท่าที่จะทำได้
ถึงแม้จะรู้ว่า แม่เสียใจและเป็นห่วงมากแค่ไหน
ในวัยเด็ก ๆ ก่อนขึ้นรถของพ่อไปโรงเรียน
แม่มักจะทอดไข่ดาว 2 ใบพร้อมกัน ไว้ให้ผมกับน้องคนละจาน เราจะหยอดซอสแม๊กกี้ทานก่อนขึ้นรถ
หรือหากสายแล้ว พ่อจะบังคับให้เราเอาไปนั่งกินบนรถจนถึงโรงเรียน
ในวัยเยาว์วันที่คุณครูจะตรวจเล็บตอนเข้าแถว
พ่อจะนั่งตัดเล็บให้ผมบนรถ ขณะที่รถจอดหน้าโรงเรียน
แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว … ความเป็นผู้ใหญ่ช่างโหดร้ายกับผมเหลือเกิน
ออกจากบ้านตี 5 ครึ่ง กลับถึงบ้านเกือบเที่ยงคืน
ผมเรียนละครเวที เพราะฉะนั้นไม่แปลกเลย ที่ผมจะอยู่ดึก ๆ ดื่น ๆ ที่ภาคเพื่อซ้อมและทำงานละครที่ผมรักดั่งชีวิต
ฝีมือด้านงานช่างที่ผมได้รับถ่ายทอดมาจากพ่อ ทำให้ผมโดดเด่นในเรื่องการทำฉากขึ้นมาอย่างฉับพลัน
เอาไว้ผมจะเล่าเรื่องสนุก ๆ ตอนเรียนมหาวิทยาลัยให้ฟังนะครับ …
ว่าแต่ … ไม่ได้กินข้าวพร้อมพ่อแม่มานานแค่ไหนแล้วนะ …
ทุกวันเมื่อผมถึงบ้านในยามค่ำคืน
“แม่” จะเป็นคนที่ลงมารับผมที่บันไดบ้านเสมอ
“กินอะไรมารึยังลูก วันนี้แม่ผัดเนื้อหน่อไม้ดองไว้ให้นะ”
เด็กหนุ่มก้มหน้าถอดรองเท้า หวังจะก้าวขึ้นบ้านเพื่อพักผ่อน
“ผัดเนื้อหน่อไม้ดองของแม่...”
ไม่ได้กินมานานมากแค่ไหนแล้วนะ
น้ำตาเด็กหนุ่มหยดลงบนปลายรองเท้าหนังสีดำขลับราวนัดไว้ แต่เขายังคงก้มหน้านิ่งมองรองเท้าหนังมือสองที่เขาซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงของเขาเอง
ความอ่อนล้าที่สะสม กดทับอยู่บนไหล่ ทำให้เด็กหนุ่มทรุดตัวลงบนบันไดขั้นแรก
“ไม่ไหวแล้วอ่ะแม่ เหนื่อยอ่ะ...”
ไม่มีคำพูดใดจากปากแม่ในตอนนั้น
มีเพียงอ้อมกอดที่อุ่น … อุ่นเหลือเกินสำหรับเด็กคนนั้น
ผมรู้ดีว่าแม่อยากให้ผมอดทนแล้วเรียนให้จบปริญญาตรี เพื่อคว้าใบปริญญาให้แม่ชื่นใจ เพราะถ้าผมทำได้ ผมจะเป็นลูกคนเดียวในบ้านที่คว้าปริญญามาให้แม่กับพ่อ
“ไปกินข้าวกันนะแม่”
หลังสะอื้นไห้ในอ้อมกอดของแม่จนพอใจ เด็กหนุ่มกลืนน้ำตา แล้วก้มหน้าเดินไปที่โต๊ะอาหาร
ใต้ฝาชีพลาสติคแทบจะผุพังนั้น เนื้อผัดหน่อไม้ดองของแม่ตั้งอยู่อย่างเดียวดาย คล้ายมันกำลังรอใครบางคนอยู่
ความทรงจำในครัวตอนอยู่กับแม่ชัดเจนกลับมาอีกครั้ง
“เนื้อหั่นตามขวางลาย ดูลายเนื้อออกมั๊ย”
“ทำไมล่ะแม่”
“หั่นขวางกินง่ายกว่า หั่นตามยาวกินยาก แล้วหน่อไม้ต้องเอาไปลวกน้ำร้อนก่อน ลดเฝื่อน ลดฝาด ผัดแล้วจะหอมขึ้น”
เนื้อครึ่งกิโลกรัมถูกแม่หั่นไวราวเสก น้ำในหม้อที่ตั้งเตาไว้เดือดพล่านพร้อม ๆ กับที่แม่เอาหน่อไม้ดองแผ่นหั่นเป็นชิ้นพอคำลงไปลวก กลิ่นแสบจมูกของหน่อไม้ดองหายไปแทบจะทันใด
พริกจินดา 1 กำมือ ราว 10-15 เม็ด และพริกเหลืองเม็ดใหญ่ 2 เม็ด
กระเทียมไทยของแม่ ราว 15-20 กลีบได้
ตำทั้ง 2 อย่างเพียงให้แหลกแต่ไม่ละเอียด
ใบโหระพาเด็ดล้าง พักไว้อย่างดี
แม่เริ่มจากตั้งกะทะให้ร้อนด้วยไฟแรง ใส่น้ำมันหมูลงไปซัก 1 กระบวย
น้ำมันร้อนตักพริกกระเทียมที่โขลกไว้ลงผัด
“ฉ่าาา” เสียงและกลิ่นอันเร่าร้อนปรากฏขึ้นแทบจะพร้อมกัน
แม่ผัดจนหอม ตามด้วยเนื้อที่หั่นชิ้นไว้ตามลงไป
ผัดจนเนื้อเริ่มสุก ตามด้วยหน่อไม้ดองที่ลวกแล้ว
ปรุงรสด้วยน้ำตาลปีบ น้ำปลาดี ปรุงให้รสเผ็ด เค็ม หวานตามมาไกล ๆ
ปิดท้ายด้วยน้ำมันหอยพอเป็นพิธี ปิดไฟ ใส่โหระพาแล้วผัดต่อ
“ผัดเนื้อหน่อไม้ดองของแม่”
ในวันนี้รสชาติยังคงเดิม แต่ที่เปลี่ยนไปคือวันนี้นเด็กหนุ่มกินข้าวเคล้าน้ำตา
และมีแม่ของเขาคอยเฝ้าดู … ไม่ห่าง
วันนั้นเด็กหนุ่มเข้านอน พร้อมหยดน้ำตาที่ยังคงผุดผาดในหัวใจของเขา
จะไม่ยอมแพ้แค่นี้ ….
จะไม่ยอมจมปลักอยู่แค่นี้ ….
จะไม่ยอมให้คำดูถูกและปรามาสนั้นเป็นจริง
เด็กหนุ่มหลับไปพร้อมปณิธานที่แน่วแน่ในหัวใจ
…..
ถ้าไม่ทานเนื้อ เปลี่ยนเป็นหมูได้ไม่ว่ากันนะครับ
ตอนหลัง ๆ มานี้ ผมพยายามรื้อความทรงจำเกี่ยวกับอาหารของแม่ให้ชัดเจนมากขึ้น
เผื่อว่าใครอยากลองทำตาม จะได้ง่ายขึ้น แต่จะพยายามเท่าที่ได้นะครับ ^^
และหากใครหาใบยี่หร่าสดได้ ใช้แทนโหระพาจะได้ผัดเนื้อที่เผ็ดร้อนมากกว่าเดิม แซ่บลืมกันเลยทีเดียว
ขอบคุณที่อ่านเรื่องของแม่และขอบคุณที่อยู่ด้วยกันในวันนี้นะครับ
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย