4 มี.ค. 2021 เวลา 00:00 • สุขภาพ
อยากอารมณ์ดี โปรดฟังทางนี้ 😊
ขอบคุณภาพจาก The Momentum
อาหาร นอกจากจะมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว ยังมีผลต่ออารมณ์ และความรู้สึกของเราด้วยนะ ใครที่ชอบคิดมาก หรือมักเครียดบ่อยๆ บางทีอาจเกิดจากการกินอาหารที่ไม่ค่อยมีคุณประโยชน์เท่าไหร่ จึงทำให้ร่างกายและสมองไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอที่จะไปหล่อเลี้ยง โดยเฉพาะสมองที่ไม่อาจหลั่งสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับความสุข หรือความรู้สึกได้
ลองหันมาใส่ใจกับประเภทอาหารที่เลือกรับประทานกันหน่อยดีไหม ? ว่ามีคุณค่าทางอาหารหรือไม่ ? กินแล้ว ส่งผลดีต่อร่างกาย และสมองอย่างไรบ้าง ?
วันนี้ติ ด อ่ า น ขอนำเสนอประเภทอาหารที่มีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของคนเรา เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์สุขภาพอันดับต้นๆของประเทศมาเลย์เซียอย่าง Hello Doktor มาดูกันสิว่า มีอาหารอะไรบ้าง ที่จะช่วยปรับอารมณ์ของเราให้ดีขึ้นได้บ้าง ? พร้อมแล้ว ไปอ่านกันเลย 💃
1. อาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต
1
ความเหนื่อยล้า และภาวะซึมเศร้า อาจเกิดจากการขาดการหลั่งของสารเซโรโทนินในสมองของเรา เซโรโทนินคืออะไรงั้นเหรอ ? เซโรโทนินก็เป็นสารที่ควบคุมสภาพอารมณ์ และความรู้สึกของคนเราไงล่ะ 😊 สารตัวนี้จะส่งผลโดยตรงต่ออารมณ์ และความรู้สึกของเราด้วยหน่า
1
หากใครมีการหลั่งของสารตัวนี้ในปริมาณที่ต่ำ มักทำให้เป็นคนวิตกกังวล ก้าวร้าว หรือซึมเศร้าไปเลย ดังนั้นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้มีการหลั่งสารตัวนี้มากขึ้น คือการกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตนั่นเอง
ทำไมน่ะเหรอ ? ..
ก็เพราะในอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตมีทริปโตเฟนที่แฝงตัวมาด้วย ซึ่งไอ้เจ้าหมอนี่มันมีหน้าที่หลักคือ ทำให้สมองผลิตเซโรโทนินมากขึ้น และเมื่อสมองสามารถผลิตสารเซโรโทนินได้มากขึ้นแล้ว แน่นอนอารมณ์บวกของเราก็จะมีมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ที่นี้อยากรู้แล้วล่ะสิ ว่าอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตมีอะไรบ้าง ? ขอยกตัวอย่างดังนี้นะ เช่น ธัญพืช มันเทศ ถั่วแดง ข้าวกล้อง ฟักทอง กล้วย เป็นต้น
2. กรดไขมันโอเมก้า -3
กรดไขมันโอเมก้า -3 เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน นักวิจัยหลายท่านระบุว่า โอเมก้า -3 มีผลต่อเซลล์ประสาท เพราะมันเป็นสารสื่อประสาท กรดไขมันโอเมกา-3 มีบทบาทสำคัญต่อโครงสร้างและการทำงานของสมอง ตับ และระบบประสาทเกี่ยวกับการพัฒนาเรียนรู้ด้วยนะ
ทีนี้เรามาดูกันว่า อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า -3 มีอะไรบ้าง ?
อาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า -3 เช่น อาหารทะเล อาทิ ปลาที่มีไขมัน ปู หอยแมลงภู่ และอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า -3 สูงมากก็ได้แก่ ปลาทู หอยนางรม และสาหร่าย ฯลฯ
3. อาหารที่อุดมด้วยซีลีเนียม
ซีลีเนียมที่แนะนำต่อวันคือ ไม่ควรเกิน 400 ไมโครกรัม แม้จะยังไม่มีการวิจัยที่ชัดเจนว่าซีลีเนียมจะมีผลต่อภาวะซึมเศร้าจริงหรือไม่ แต่ก็ได้มีการศึกษากลุ่มตัวอย่างผู้สูงอายุ 16 คน พบว่าภาวะซึมเศร้าหมดไปเมื่อได้รับซีลีเนียม 200 ไมโครกรัมต่อวัน ซึ่งไปสอดคล้องกับการศึกษาในปี ค.ศ. 2018 ที่พบว่าการขาดซีลีเนียมในอาหารอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้
โฮ้ ไม่ใช่เล่นๆนะเนี้ย 😲
อาหารที่อุดมไปด้วยซีลีเนียม ส่วนใหญ่มักพบในอาหารทะเล ไต และเนื้อสัตว์ ส่วนในพืชพบได้น้อยกว่า เพราะซีลีเนียมที่พบในพืชจะขึ้นอยู่กับซีลีเนียมที่มีอยู่ในดินที่ปลูกด้วย พืชที่มีซีลีเนียม เช่น ข้าวบาร์เลย์ ข้าวกล้อง เมล็ดทานตะวัน งา ผักโขม กระเทียม ฯลฯ
4. วิตามินดี
วิตามินดีสามารถเพิ่มสารเซโรโทนินในสมองได้เช่นเดียวกับอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต ปริมาณที่เหมาะสมต่อวันในการรับประทานวิตามินดีขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่าง แต่ที่แนะนำคือ 600 IU* ต่อวัน
* International Unit (I.U.)
Vitamin D 1 I.U. = 0.025 microgram cholecalciferol. (พญ. ปุญชรัสมิ์ วุฒิทวี)
อาหารที่มีวิตามินดี อาทิ ซีเรียลข้าวโอ๊ต นมถั่วเหลือง ไข่แดง ตับวัว และน้ำมันตับปลา เป็นต้น
5. อาหารเช้า
อาหารเช้าสำคัญต่อการทำงานของระบบร่างกายและสมอง นักวิจัยเปิดเผยว่าการกินอาหารเช้าเป็นประจำจะทำให้รู้สึกสดชื่น และการทานอาหารเช้าที่สมดุลจะช่วยปรับปรุงหน่วยความจำให้ดีขึ้นอีกด้วยนะ แต่ตรงกันข้าม หากไม่ได้รับประทานอาหารเช้าบ่อยๆ จะทำให้เหนื่อยล้าอย่างรวดเร็ว และยังทำให้วิตกกังวลง่ายอีกด้วย ลองสังเกตตัวเองกันดูนะ
อาหารเช้าที่ดี ควรเป็นอาหารประเภทที่มีใยอาหาร โปรตีน และไขมันดี เพราะมื้อเช้าสำคัญ เราจึงต้องพิถีพิถันในการเลือกอาหารที่จะรับประทานให้ดีที่สุด
3
.
และสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ส่งผลให้ร่างกายเกิดความตื่นตัว เช่นพวกน้ำอัดลม ขนมหวานต่างๆ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะทั้งหมดที่ว่ามานี้ เป็นอาหารที่มักแฝงโรคร้ายมาด้วย
เป็นไงกันบ้างครับ กับเรื่องราวที่นำมาแบ่งปันกันในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนหน่า 😊 ลองสำรวจตัวเองดูนะ ว่าเป็นคนหงุดหงิดง่ายหรือเปล่า ? หากเป็นเช่นนั้น ไม่แน่ว่าคุณอาจขาดการทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อการกระตุ้นความรู้สึกในสมองก็เป็นได้ 😊
ลองหาอาหารทั้ง 5 ประเภทที่กล่าวมา มารับประทานดูนะ หวังว่ามันจะช่วยให้อารมณ์ และความรู้สึกดีขึ้นได้ ลองดูนะ 😊
---
อ้างอิง : นิตยสารชีวจิต
โฆษณา