ฟังไม่ผิดครับ บ้านเด็กหนุ่มทำคอหมูย่างกินเองและไม่ได้กินเล่น ๆ ครั้งละ 3-4 กิโลนับเป็นอย่างน้อย
เมนูนี้จะปรากฏตัวขึ้นเมื่อผู้เป็นพ่ออารมณ์ดีและมีเงินในกระเป๋าเท่านั้น
แล้วถ้ามีเมนูนี้ คนทั้งบ้านจะต้องรู้กันโดยปริยายว่า จะไม่มีเมนูอื่นมาแบ่งแย่งพื้นที่ในกระเพาะโดยเด็ดขาด
“โห หมูอะไรมันขนาดนั้นแม่ สามชั้นเหรอ”
เด็กหนุ่มร้องถามแม่ทันทีที่ได้เห็นหมูมันชิ้นใหญ่ชิ้นโตบนเขียงไม้กว้าง ๆ อันเก่าของแม่
“เปล่า นี่สันคอหมู ป๊าเค้าอยากกินคอหมูย่าง” แม่หยุดมือแล้วหันมาตอบ
แม่หันกลับไปที่เขียงอีกครั้ง ใช้มีดทำครัวอันใหญ่ ปาดแต่ง และตัดเนื้อหมูออกเป็นชิ้นใหญ่ ๆ เท่า ๆ กัน ทั้งความหนา และขนาดโดยรวม พร้อมฮัมเพลงเบา ๆ ไปด้วย
… ทำไมวันนี้อารมณ์ดี …
ในช่วงเวลายากลำบากของบ้านเรา ที่โดนนายจ้างรวยแสนรวยแล้วยังหวังจะจับเสือมือเปล่าโกงเอา
เรายังโชคดีที่พ่อหันกลับมาตั้งหลักได้ ป๊าเริ่มรับงานอื่นบ้าง แล้วก็ทยอยใช้เงินคืนร้านค้าวัสดุที่พ่อไปเครดิตมา และควบคู่ไปกับการเข้าไปเจรจากับเจ้าของหมู่บ้าน ที่เริ่มขายบ้านในโครงการที่เขาสร้างโดยไม่จ่ายเงินไปแล้ว
ถ้าโชคดี เขาจะเจียดเงินให้เรา 5,000 บ้าง 10,000 บ้าง หรืออาจน้อยกว่านั้น
ป๊ากลายเป็นคนที่ต้องเข้าไปอ้อนวอน ต่อรอง หรือแม้แต่ขอเงิน “ของตัวเอง” เงิน...ที่ป๊าควรจะได้โดยดุษฎี …
แม่เล่าว่า วันนี้ที่หมู่บ้านยอมจ่ายมาก้อนโตหน่อย เพราะป๊าพาตำรวจเข้าไปที่โครงการด้วย และโชคดีที่มีลูกค้ากำลังมาดูบ้าน โครงการเลยไม่อยากเสียหน้า จึงยอมจ่ายเงินเพื่อให้ป๊าออกจากสำนักงานไป
… เห็นข้อดี ของการมีป๊าเสียงดัง ก็วันนี้ ...
ป๊ากลับมาจากตลาดด้วยเนื้อหมูถุงใหญ่และผักกองโต แล้วหิ้วเข้ามาวางไว้กลางครัว จากนั้นแม่ก็สามารถจัดการต่อเมนูได้ทันที โดยไม่ต้องถามอะไรกันให้มากพิธี
สันคอลงไปนอนรอในหม้อแล้ว ตามด้วยพริกไทยป่น และน้ำมันหอย
แค่นั้น…?
“แค่นี้เลยเหรอแม่”
“สันคอมันหวานอยู่แล้ว เนื้อมันชุ่ม ไม่ต้องหมักเยอะ” แม่ครัวขานตอบโดยไม่มองหน้าหนุ่มน้อยข้างเขียง
“แม่เอ้ย อย่าลืมใส่นมข้นจืดนะ” เสียงป๊าดังมาจากหน้าบ้าน ราวกับรู้ว่าแม่กำลังแอบริดรอนส่วนผสมหลักของพ่อ
“เฮ่อ พูดกี่ทีก็ไม่เชื่อ” แม่ครัวบ่นอุบ
เดือดร้อนถึงเด็กหนุ่ม ต้องเดินไปซื้อนมข้นจืดจากร้านชำมาให้แม่ในทันที เมื่อได้รับนมข้นจืดแม่จัดการเจาะกระป๋อง แล้วเทตามลงไปในหม้อหมักหมู
“หมักนานเท่าไหร่ล่ะแม่” เด็กหนุ่มพูดพลางขยำหมูในหม้อไปมา หลังจากแม่ถอนตัวไปล้างมือเรียบร้อยแล้ว สันคอหมูนุ่ม ๆ ลื่น ๆ ถูกเคลือบบาง ๆ ด้วยเครื่องปรุงที่แม่เทลงไป อืม หอมดีแฮะ
“หมักไปเถอะ กว่าจะย่างก็บ่าย 3 บ่าย 4 โน่นแหละ”
“โห นี่เพิ่งเที่ยงเองนะแม่” เด็กน้อยขานร้องอย่างรู้สึกไม่เป็นธรรม ทำไมต้องรอนานขนาดนั้นล่ะ
“หมักนาน ๆ ยิ่งดี ไป ๆ ไปช่วยแม่ล้างผัก”
เด็กหนุ่มจำใจต้องรามือจากหม้อหมู หันไปล้างมือแล้วแกะถุงผักถุงใหญ่ที่ป๊าซื้อมาพร้อมกัน
ผักกาดหอมจัดการล้างให้เอี่ยม มะเขือเทศล้างแล้วหั่นแว่นหนาหน่อย แตงกวาหั่นแบบแว่นเฉียง ๆ ผักเรียงใส่ถาดเข้าตู้เย็นเรียบร้อย เวลากินจะได้กรอบ ชื่นใจ แม่ว่าอย่างนั้น
ตกเย็น เด็กหนุ่มทำหน้าที่ลำเลียงแอลกอฮลล์จากร้านค้าสู่วงเหล้าเรียบร้อย จึงกุลีกุจอเข้าครัวไปดูแม่ย่างหมู ควันขาวขุ่นลอยโขมงไปทั่วครัวเปิดของแม่ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของหมูย่างลอยอบอวลยิ่งกว่า
หมูย่างชิ้นหนาถูกหนีบกลางระหว่างตะแกรงย่าง ถ่านไม้คุกรุ่นในเตาอั้งโล่ ส่งความร้อนขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมเสียง "ฉ่า" ของน้ำมันหมูตกลงกระทบถ่านไหม้ไฟ คอหมูย่างหอมกลิ่นเครื่องปรุงและควันถ่านอบอวล เรียกน้ำลายจากวงเหล้าดีนักแล
“เอาผักไปวางก่อนนะ แล้วมาทำน้ำจิ้มให้แม่หน่อย”
ทำน้ำจิ้ม!!! ซวยแล้ว …. เด็กหนุ่มขนลุกซู่
...พ่อเรื่องมากเรื่องนำจิ้มจะตาย ถ้าทำเองโดนเละแน่ ๆ …
เด็กหนุ่มเดินกล้า ๆ กลัว ๆ กลับมาหาแม่ในครัวหลังเสิร์ฟผักเสร็จ
“อย่าไปกลัวสิ คนทำกับข้าวน่ะ มีคนติคนว่า เรื่องธรรมดา”
“เอาชามมา ใส่พริกป่นลงไป แล้วก็น้ำปลา มะนาว น้ำตาลนิดนึง” แม่สั่งและแน่นอน เด็กหนุ่มทำตาม อย่างว่าง่าย
พริกป่นคั่วของแม่ น้ำปลา มะนาว น้ำตาล คน ๆ ๆ ให้เข้ากัน ชิมรส เผ็ดนำ ตามด้วย เค็ม เปรี้ยว หวานตามแค่ปลายลิ้น
“เสร็จแล้วเอาข้าวคั่วในกระปุกใส่ลงไป หอมแดงที่แม่หั่นไว้บนเขียงด้วย เสร็จแล้วหั่นต้นหอมละเอียด ๆ โรยอีกทีนะ ”
ข้าวคั่ว หอมแดง ต้นหอมหั่นออกมาเกือบครึ่งเซ็น แต่เอาเถอะ บางแล้วล่ะสำหรับเด็กอายุแค่นั้น เอาเป็นว่า สวยงามใช้ได้ เด็กหนุ่มประเมินผลงาน
เป็นเวลาเดียวกับที่แม่ยกหมูเตาแรกขึ้นมาเทบนถาดพัก ด้านนอกเกรียมกำลังสวย เรียกน้ำลายได้อึกใหญ่ แม่จับชิ้นหมูวางบนเขียง มือซ้ายประคองหมู มือขวากดมีดหั่นเนื้อหมูแฉลบบาง ๆ น้ำในเนื้อหมูแทบจะเอ่อทะลักขึ้นมาทันทีที่แม่ลงน้ำหนักมีด ชิ้นแล้วชิ้นเล่า ถูกแม่หั่นแล้ววางเรียงในจานเปลใหญ่ของบ้านเราจนเต็ม แม่หยิบชิ้นมันหมูย่าง ที่เป็นปลายสุดของชิ้น ขึ้นมาจิ้มน้ำจิ้มแล้วส่งให้เด็กหนุ่มได้ลิ้มรสเป็นคนแรก ชิ้นเนื้อติดมันที่ถูกเคลือบด้วยน้ำจิ้มสีแดงฉานถูกส่งเข้าปากแทบจะในทันที
“เป็นยังไง”
“โห อร่อยอ่ะแม่”
“ไปกินกับผักแกล้มบนโต๊ะ จะอร่อยกว่านี้อีก”
“น้ำจิ้มใช้ได้มั๊ยแม่” เด็กหนุ่มร้องถาม หลังจากแม่ของเขาได้ชิมบ้าง
“ใช้ได้ เผ็ด เค็มกำลังดี แต่อ่อนหวานไปหน่อยสำหรับป๊า” ว่าแล้วแม่หยิบน้ำตาลทรายมาโรยเพิ่มอีกนิด
“เอาล่ะ ยกไปได้”
เด็กหนุ่มถือจานใส่สันคอหมูย่าง พร้อมน้ำจิ้มถ้วยโตไปเสิร์ฟทันทีที่วงเหล้าที่ราวกับเฝ้ารอมานานนับปี ทันทีที่จานวางถึงโต๊ะ คนละไม้คนละมือคว้าผัก คว้าหมูกันอุตลุด ผักกาดวางรองบนมือ ตามด้วยแตงกวา มะเขือเทศ โปะด้วยสันคอ 2-3 ชิ้นหนา ๆ ราดน้ำจิ้มแจ่ว ห่อเป็นคำแล้วกินด้วยกัน
“อื้มมม อร่อย” เสียงจากประธานหัวโต๊ะดังก่อนใคร
เด็กหนุ่มเดินเข้าครัวพร้อมรอยยิ้มกริ่มบนใบหน้า เสียงครื้นเครงจากโต๊ะกินข้าวยังไม่หยุดหย่อน เย็นนั้นเป็นช่วงเวลาที่อบอุ่นเหลือเกิน เด็กหนุ่มมีความสุข และทุกคนมีความสุข
ความสุขของเราที่อาจจะแตกต่างกันออกไป
แน่นอน ในครัวเปิดนี้เป็นพื้นที่ความสุขของแม่ แต่ใต้รอยยิ้มความสุขของแม่ ยังมีความทุกข์ระทมของความเป็นแม่ ... แอบซ่อนอยู่
หลังจากแม่จัดหมูสำหรับพวกขี้เมาเสร็จและแน่ใจว่าจะไม่มีใครเรียกหา แม่จัดหมูอีกชุดที่เล็กกว่าพร้อมข้าวสวยพูนจาน ใส่ถาดแบน ๆ ใบประจำของแม่
แล้วหันหลัง … เดินหายไปจากครัว
ครัว … ที่รอยยิ้มของแม่หายไป .. เช่นกัน