3 มี.ค. 2021 เวลา 01:00 • ธุรกิจ
กรณีศึกษาของ ‘ธุรกิจให้เช่าไก่’ ที่ทำรายได้ถล่มทลายในสหรัฐฯ
นับพันปีมาแล้ว ที่มนุษย์รู้จักทำมาค้าขายด้วยวิธีการ ‘เช่า’
2
แต่ ณ ปัจจุบัน หลายสิ่งได้เปลี่ยนแปลงไป นั่นก็คือ ‘ตัวสินค้า’ และ ‘วิธีการ’ ที่ไม่ซำ้เดิม
รู้หรือไม่ ที่น่าแปลกสุดๆ เห็นจะเป็นธุรกิจให้เช่าไก่ในสหรัฐอเมริกา ที่ทำรายได้อย่างถล่มทลาย
1
ซึ่งจะน่าสนใจอย่างไร ไปหาคำตอบกัน..
แน่นอนว่าโลกทุกวันนี้ ภิวัฒน์ก้าวไกลไปรวดเร็วอย่างมาก ในส่วนการใช้ชีวิตของคนเมือง ที่ถึงแม้จะเข้าใกล้เทคโนโลยีมากเท่าไหร่ ขณะเดียวกัน ก็ห่างไกลความใกล้ชิดธรรมชาติมากเท่านั้น
2
‘ธุรกิจให้เช่าไก่’ ได้รับแนวคิดมาจาก คนเมืองบางส่วนที่ต้องการหนีความวุ่นวายจากความศิวิไลซ์ ไปใช้ชีวิตแบบชนบทดูบ้าง
จึงเป็นโอกาสที่นำมาซึ่งการบริการแปลกๆ นั่นก็คือ ให้บริการเช่าไก่ เพื่อให้คนเมืองทดลองเลี้ยง
1
ซึ่งตัวอย่างเจ้าของแบรนด์ผู้คิดค้นบริการดังกล่าวนี้เป็นรายแรกๆ เลยคือ “Rent-A-Chicken”
“Rent-A-Chicken” ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2009 หรือเมื่อ 12 ปีก่อน โดยคุณ ’เลสลี’ กับ ‘คุณมาร์ค’ สองสามีภรรยาคนเมืองที่มักซื้อไก่ไข่ไร้คุณภาพมาเลี้ยงจนเจ๊งหลายรอบ แบบไม่รู้แล้วรู้รอด
1
แต่สุดท้าย พวกเขาก็หาทางออกให้กับตัวเองได้ โดยปิ๊งไอเดียธุรกิจให้เช่าไก่ไข่คุณภาพดี เพื่อตอบโจทย์ต่อตลาดออร์แกนิค ที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
2
Rent-A-Chicken ใช้หลักการจากที่กล่าวมาข้างต้น นั่นคือสนองความต้องการให้คนเมืองใช้ชีวิตแบบชาวสวน โดยที่ไม่ต้องหมดเวลาไปกับการรอคอย และลงแรงแบบไม่เป็นมืออาชีพให้เสียเปล่า
เพียงแค่จ่าย 250 เหรียญต่อเดือน หรือประมาณ 7500-8000 บาท เพียงเท่านี้ก็จะได้รับแม่ไก่โตเต็มวัยไปดูแล พร้อมอุปกรณ์ระดับมืออาชีพ จากนั้น ก็เพียงแค่ตื่นเช้ามาเก็บไข่ในกรงไปปรุงอาหารต่อ
ด้วยความเรียบง่าย แต่รู้ไหมว่า Rent-A-Chicken ตอบโจทย์ตลาดออร์แกนิคได้ตรงจุด แถมยังได้รับการยกย่องจากนักวิชาการอีกว่า จะเป็นโมเดลธุรกิจที่เข้ามาปฏิวัติอุตสาหกรรมการเกษตร
อย่างไรก็ดี ในมุมมองของผู้บริโภคอย่างเราๆ มองว่าเงิน 250 เหรียญต่อเดือน (นอกจากนี้ยังมีแพ็คเกจหมื่นกว่าบาทต่อปี) เป็นการประหยัดต้นทุนในการเลี้ยงไก่ ซึ่งถ้าทำฟาร์มกันจริงๆ ตั้งแต่ลูกเจี๊ยบฟักออกมา จนกลายเป็นแม่พันธุ์โตเต็มวัย ต้องใช้เวลานาน แถมยังต้องใช้เงินมากกว่า 250 เหรียญต่อเดือนอีกด้วย
2
นอกจากนี้ โมเดลของ Rent-A-Chicken ยังช่วยลดขั้นตอนยุ่งยากในการทำฟาร์ม แถมถ้าเลี้ยงแล้วโดนใจ ก็สามารถติกต่อพูดคุยกับฝ่ายขายของบริษัทได้เลย
1
แต่ถึงกระนั้น ก็ใช่ว่าโมเดลดังกล่าวนี้ จะใช้ได้กับทุกเมืองทั่วโลกเสมอไป เพราะสำหรับชาวอเมริกันแล้ว พวกเขามักจะมีกิจกรรมในช่วงซัมเมอร์ไปกับการพักผ่อนตากอากาศแถบชนบท
หัวใจสำคัญของโมเดลธุรกิจลักษณะนี้ จึงไม่ใช่การเช่าไก่ แต่เป็นการเช่ากิจกรรมชีวิตแบบอุดมคติ ของชนชั้นกลางชาวอเมริกันต่างหาก
แล้วถ้าสมมติว่าเทรนด์นี้ฮิตในเมืองไทยบ้างล่ะ ผู้เขียนมองว่า ต้องใช้เวลาพอสมควรเลยล่ะครับ
เพราะราคาไข่ไก่บ้านเราไม่ได้สูงมากมาย สามารถจับต้องได้ทุกครัวเรือน แถมเกษตรกรรมยังเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ที่ยังมีอิทธิพลต่อระบบเศรษฐกิจจากนายทุนใหญ่อยู่
2
ฉะนั้น จะใช้โมเดลที่ประสบความสำเร็จแล้วจากที่ใดที่หนึ่ง มาใช้กับอีกซีกโลกหนึ่ง จึงเป็นอะไรที่ต้องคิดแล้วคิดอีกเลยล่ะ
2
Follow Us On “Facebook” https://www.facebook.com/swivelth
Follow Us On “Instragram” https://www.instagram.com/swivel.th/
โฆษณา