บ่อยครั้งที่คนเราทุ่มเทเวลาไปกับการทำงานโดยไม่จัดสรรเวลา ทำให้ไม่สามารถปลีกตัวไปทำอย่างอื่นได้เลยนอกจากการจัดการกับงานกองใหญ่ตรงหน้านี้ให้เสร็จ
อยากให้เพื่อนๆลองคิดตามนะครับ หากมีเส้นบางๆคั่นอยู่ระหว่างคำสองคำ คือ ไม่มีเวลา และ ไม่แบ่งเวลา ซึ่งคนเรามีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากันทุกคน อยู่ที่ว่าเราสามารถจัดสรรเวลาที่มีได้ดีแค่ไหน เราจัดตารางเวลาอย่างดีที่สุดแล้วแต่ก็ไม่มีเวลาทำอย่างอื่นจริงๆ หรือเป็นเพียงแค่คนที่ไม่ได้คิดจะจัดสรรเวลา ปล่อยเวลาชีวิตไปเรื่อยๆ แล้วบอกว่าไม่มีเวลา เราเป็นคนแบบไหนกันแน่
วันนี้ผมมีเทคนิคการจัดสรรเวลาใน 1 วันมาฝากกันครับ เริ่มตั้งแต่การตื่นนอนตอนเช้าไปจนถึงการนอนหลับเลยทีเดียว ซึ่งจะทำให้ 1 วันของคุณนั้นมีประสิทธิภาพ รวมถึงวิธีการจัดสรรเวลาในวันวันหนึ่ง จะมีอะไรบ้าง ไปติดตามกันครับ
เริ่มจากการนอนที่มีคุณภาพ การนอนอย่างมีคุณภาพสำคัญกว่าชั่วโมงการนอนโดย มี 4 ข้อที่ควรทำเพื่อให้ได้การนอนที่มีคุณภาพ คือ ห้ามกินอาหารก่อนนอน อย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพราะจะทำให้แน่นท้อง เกิดกรดไหลย้อนและหลับยากว่าปกติ ห้ามกินคาเฟอีนเพราะเป็นการกระตุ้นการทำงานของหัวใจ และห้ามดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอนเพราะเป็นการลดคุณภาพการนอน เห็นได้ชัดเจนจากการตื่นนอนหลังจากดื่มแอลกอฮอล์จะเกิดอาหารคลื่นไส้และปวดหัว และไม่นำเอาโทรศัพท์ไว้ใกล้ที่นอนเพราะโทรศัพท์จะมีการส่งคลื่นสัญญาณอยู่ตลอดเวลาหากนำมาไว้ใกล้ที่นอนจะทำให้สมองดูดคลื่นสัญญาณนั้นทำให้ส่งผลเสียต่อสมอง ทำให้หลับได้ยากหรือหลับไม่สนิท
การนอนที่มีคุณภาพวัดได้จากการที่เราตื่นนอนมาอย่างสดชื่นโดยไม่ต้องใช้นาฬิกาปลุก ควรจัดเวลานอนในแต่ละวันอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง
ทำกิจวัตรในตอนเช้าให้เหมือนเดิมในทุกวัน หมายถึง ไม่ควรเปลี่ยนเวลาการทำสิ่งต่างๆในตอนเช้ามากเกินไป เช่น การขับถ่าย การกินอาหารเช้า หรือการออกกำลังกาย เพราะร่างกายชอบอะไรเดิมๆ หากมีการเปลี่ยนแปลงร่างกายจะปรับตัวได้ยาก อาจทำให้อารมณ์เราแปรปรวน ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่เราต้องการในการเริ่มต้นวันใหม่แน่ๆ ใช่ไหมครับเพื่อนๆ
ในตอนเช้านี้เราควรมอบสิ่งดีดีให้กับตัวเอง ให้เวลากับตัวเองสัก 30-60 นาทีเพื่อให้วันใหม่ของเราสดชื่นเตรียมตัวเปิดรับกับสิ่งดีดี สร้างอารมณ์บวกกับตนเองตั้งแต่เช้า ซึ่งทำได้หลายวิธีเลย เช่น ตื่นแต่เช้าทำให้ไม่ต้องเร่งรีบ ยิ้มให้ตนเองตอนเช้า ฟังเพลงที่ชอบ ทานอาหารที่มีประโยชน์
ตอนเช้าเวลา 9-11 โมง เป็นช่วงเวลา Primetime คือช่วงเวลาที่สมองทำงานได้ดีที่สุด ช่วงนี้ควรเป็นงานที่ใช้ความคิดส่วนงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ควรไว้ในช่วงบ่าย สมองมีประสิทธิภาพในเวลาที่ต่างกัน มนุษย์ก็มีงานที่สำคัญที่ต้องทำในเวลาที่ต่างกัน ดังนั้น ตารางเวลาหรือการจัดทำรายการสิ่งที่จะทำในแต่ละวันเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งผมมีเทคนิคในการจัดตารางเวลาหรือรายการสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน แบบนี้ครับ
ควรทำงานที่สำคัญและด่วนก่อนซึ่งควรทำในช่วงprimetime(9-11โมง)เพราะสมองมีประสิทธิภาพมากที่สุดและเป็นการปลดล็อกตัวเอง หากงานด่วนเสร็จแล้ว วันนี้เราก็สบายขึ้นแล้ว
ต่อมาเป็นงานด่วนแต่ไม่สำคัญ เช่น การบ้าน การอมรม เป็นต้น
ต่อมาทำงานที่สำคัญแต่ไม่ด่วน เช่น การอบรมสั่งสอนลูก งานเพื่อส่วนรวม เป็นต้น
ต่อมาเป็นงานไม่สำคัญและไม่ด่วน เช่น การดูหนัง งานอดิเรก เป็นต้น สามารถทำได้หลังจากทำ 3 งานข้างต้นเสร็จแล้ว
เที่ยง ตอนพักกลางวันไม่ควรกินอาหารที่โต๊ะทำงาน ควรเปลี่ยนอิริยาบถ เปลี่ยนสถานที่ เพราะเป็นการพักผ่อนสมองจากการจดจ่อกับสิ่งเดิมที่เดิมนานๆ ลดความเหนื่อยล้า ไม่ควรกินอาหารมากเกินไปเพราะจะทำให้ง่วงนอน
บ่ายโมง มีเทคนิคในการชาร์จพลังให้กับตนเอง คือ ควรงีบสัก 15 นาที หลังจากการดื่มกาแฟ เพราะหลังจากดื่มกาแฟจะมีช่วงเวลาที่ร่างกายดูดซึมคาเฟอีนอยู่ เมื่อร่างกายดูดซึมคาเฟอีนและนำไปใช้แล้ว เราจะตื่นขึ้นมาเองเพราะได้รับการกระตุ้นจากคาเฟอีน เหมือนเป็นการชาร์จพลังขึ้นมาใหม่
รูปเพื่อการโฆษณาเฉยๆครับ ฮ่าๆๆๆๆ
เย็น ช่วงเวลาแห่งการพักผ่อน แต่หากจะเพิ่มประสิทธิภาพของการจัดสรรเวลาให้มากขึ้น ควรแบ่งเวลาจากการพักผ่อนตอนเย็นนั้นมาพัฒนาตนเอง(ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ) พัฒนาสมอง(การทำงานอดิเรก ทำสิ่งที่แปลกใหม่ในแต่ละวัน) หรือ การทำกิจกรรมในครอบครัว ซึ่งจะทำให้คุณภูมิใจในตัวเองมากขึ้นและมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ คิดเห็นอย่างไรกันบ้าง หากเพื่อนๆมีประสบการณ์อย่างอื่น หรือมีความคิดอื่นๆสามารถเล่าสู่กันฟังได้นะครับ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมครับ
- 33
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
