3 มี.ค. 2021 เวลา 07:36 • การศึกษา
เนื้อหาในหลักฐานการกู้ยืม ควรมีอะไรบ้าง ⛔⛔
1
สวัสดีครับท่านผู้อ่านที่รักและเคารพทุกท่าน เนิ่นนานเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน ที่ไม่ได้ลงโพสบทความทางกฎหมาย วันนี้พอมีโอกาสเหมาะได้มาพบปะพี่น้องนำบทความมาเล่าสู่กันฟังกันอีกครั้ง..
เงินทองเป็นของนอกกาย แต่ก็อาจ อดตายได้ถ้าไม่มีเงิน การหยิบยืมเงิน หรือที่เราเรียกกันว่าการกู้ยืมเงิน เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยาก การฟ้องร้องกฎหมายต้องการเพียงหลักฐานในการฟ้องคดีเท่านั้น ถ้าไม่มีก็ฟ้องร้องไม่ได้ หรือมีหลักฐาน แต่ฟังไม่ได้ว่า เป็นการกู้ยืม ก็ถือว่าไม่มีเช่นกันนะครับ ...
หลักฐานเป็นหนังสือที่ว่านั้น ต้องมีสาระสำคัญ ในหลักฐานดังกล่าวว่า มีการยืมเงิน , มีการรับเงินไปแล้ว , และจะใช้เงินคืน ตามจำนวนที่ยืมไป หรือจะมีระบุดอกเบี้ยก็ได้ ...
บางที่ ขณะกู้ยืม ไม่มีหลักฐาน วันดีคืนดีก็จูงมือกันไปสถานีตำรวจเพื่อให้ลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ก็สามารถทำได้นะครับ เพึยงแต่ต้องมีรายละเอียดดังที่ผมได้บอกไว้ข้างต้น
เล่ามาซะสามสี่ย่อหน้า ..ที่ผมจะเล่าให้ฟังก็คือ ไม่ว่าจะมีการทำหลักฐานเป็นหนังสือระหว่างกันเอง หรือ ให้เจ้าพนักงานตำรวจ ลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน แต่ ก็อย่าชะล่าใจ ว่า โอ้ย..ตำรวจทำให้ฟ้องได้อยู่แล้ว ลองมาดูตัวอย่างเรื่องนี้ครับ
คุณหวนได้ขอยืมเงิน คุณโหย เป็นจำนวน 600,000 บาท โดยไม่ได้ทำหลักฐานกันไว้ หลังจากที่คุณหวนรับเงินไปครบถ้วนแล้ว พอนานเข้า คุณหวน ก็แกล้งเป็นโรคความจำเสื่อม ซะเลย จำได้ทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องเงิน..
ทวงซิครับ คุณโหยทั้งทวง ทั้งถาม ทั้งกราบ ก็แล้ว สุดท้ายคุณโหยก็เลยไปพึงพาเจ้าพนักงานตำรวจ ขอแรงให้ช่วยเรียกมาไกล่เกลี่ยกันหน่อย
ภาพจาก Mthai Talk
จริงแล้วเรื่องทางแพ่งไม่ใช่เรื่องของตำรวจหรอกครับ แต่เผอิญ คุณโหยไปเห็นหน้าสถานีตำรวจเขาเขียนว่า " โรงพักของประชาชน " ก็เลยเข้าไปใช้บริการ ตำรวจใจดีครับ ก็เลยเรียกให้คุณหวน มาเจรจากัน ..
ทั้งสองคนตกลงกันได้ ก็เลยพากันไปลงบันทึกประจำวัน เป็นหลักฐาน ว่า
" คุณหวนยอมรับว่า ได้เอาเงินจำนวน 600,000 บาท มาจากคุณโหยจริง โดยคุณโหย จะให้คุณหวน เข้าทำงานในบริษัทตอบแทนเงินจำนวนดังกล่าว แต่ภายหลังขัดแย้งกัน คุณหวนจึงไม่ได้ทำงานให้ คุณโหยจึงมาขอรับเงินคืน "
นี่คือข้อความหลัก ๆ ในบันทึกประจำวัน คุณโหยก็เอาบันทึกนี้แหละไปฟ้องศาล ว่า คุณหวน ยืมเงินไปแล้วไม่ใช้คืนตามบันทึกฉบับนี้อันเป็นหลักฐานในการฟ้องร้อง..
ท่านทราบไหมครับว่า คดีนี้ถึงที่สุด ศาลฎีกายกฟ้องของคุณโหย เพราะ บันทึกประจำวันดังกล่าว ไม่ใช่หลักฐานการกู้ยืมเงิน...
เหตุผลก็คือ ตามข้อความในบันทึก แสดงเพียงว่า คุณหวน รับว่าได้รับเงิน จำนวน 600,000 บาท จากคุณโหย เพื่อตอบแทนการเข้าทำงานเท่านั้น ไม่ได้รับว่า ได้กู้ยืมเงิน คุณโหย เมื่อข้อความ ในบันทึกประจำวัน ไม่มีข้อความใด ที่ทำให้เข้าใจได้ว่า คุณหวนยืมเงินคุณโหย และตกลงจะใช้คืน บันทึกประจำวันจึงไม่ใช่ หลักฐานการกู้ยืมเงิน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพานิชย์ มาตรา 653
(คำพิพากษาฎีกาที่ 3817/2563 )
ครับ คุณโหย ก็ชีช้ำกระหล่ำปลีไปตามระเบียบ..
การทำหลักฐานเป็นเอกสาร ควรให้ความสำคัญ กับสาระเนื้อหาใน หลักฐานหรือสัญญานั้นให้มากที่สุด ยิ่งกว่าชื่อหัวสัญญา นะครับ แม้จะไปซื้อแบบสัญญาซื้อขายมา แต่เนื้อหาในสัญญาเป็นเรื่องกู้ยืมเงิน ..ก็ถือว่าเป็นหลักฐานหรือสัญญากู้ยืมเงินได้ครับ ..ไม่ใช่สัญญาซื้อขาย เพราะเราดูเนื้อหาเป็นหลัก..
1
ฉะนั้นเมื่อจะทำหลักฐานการกู้ยืมเงินกันแล้ว ก็ควรมีรายละเอียดถึงการใช้คืนเงินที่กู้ยืมไปด้วยนะครับ
ช่วงนี้บทความผมน้อยเพราะต้องเข้าไปทำสวนลำใยด้วย ก็ต้องขออภัยด้วยครับ
เมื่อสองวันก่อน ผมเข้าสวนลำใยกำลังวางท่อน้ำ มีเพื่อนผมแวะมาหา ..ถาม
สารทุกข์สุขดิบกันตามประสา .. แล้วแกก็เล่าว่า ภริยาแกไม่ฉลาดเลยแถมโง่อีกต่างหาก ..ผมก็ถามว่าเรื่องอะไร แกเล่าให้ฟังว่า..
" เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เมียข้า ไปหาหมอที่โรงพยาบาล พอหมอตรวจเสร็จ หมอบอกว่ามันท้องมันก็เชื่อ ! ทั้งที่ข้า เป็นหมัน มันจะท้องได้ไงฟะ โง่จริง ๆ โดนหมอ หลอกเอาตังค์ไปแล้ว 555 "
เพื่อนผมหัวเราะเสียงดัง ส่วนผม เอามือกุมกบาล พร้อมกับบีบขมับตัวเอง ..
" ตูว่าเอ็งนะโง่ ...."
😁😁บุญรักษาทุก ๆ ท่านครับผม พบกันใหม่บทความหน้าครับ 🙏🙏🙏🙏
โฆษณา