5 มี.ค. 2021 เวลา 11:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
WandaVision (2021) – ฮีโร่ซีรีส์ทีวีบำบัด
ห่างหายจากรสชาติหนังซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวลไปเสียนาน เพราะโควิดทำพิษ ทำให้เราแทบไม่ได้สัมผัสอารมณ์บู๊ล้างผลาญแบบป่วง ๆ อารมณ์ MCU อีกเลย นับตั้งแต่ Far From Home แต่กระนั้นเอง ด้วยจักรวาลที่กว้างขึ้นและความเป็นไปได้ขยับขยาย Marvel Studio ก็จัดการสร้างซีรีส์ที่แตกเส้นเรื่องออกมามากมาย ประเดิมด้วยคู่ขวัญของทีมผ่านซีรีส์อย่าง WandaVision
WandaVision มาพร้อมจำนวน 9 ตอนที่บอกเล่าเรื่องราวคร่าว ๆ หลังเหตุการณ์การสูญเสียใน Avengers: Endgame ที่ วานด้า แม็กซิ9มอฟ สูญเสีย วิชั่น ไป จากการช่วงชิงอัญมณี วานด้าที่วางแผนชีวิตไว้จึงพาวิชั่นที่กลับมาอย่างปริศนาไปอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านจัดสรรแถบชานเมืองและแสร้งว่ากำลังอยู่ในทีวีซีรีส์ยุคต่าง ๆ ขณะที่ความบันเทิงในฉากหน้ากำลังขับเคลื่อน ความไม่ชอบมาพากลก็ค่อย ๆ แทรกซึมมาสู่หน้าจอทีวีทีละนิด ๆ
แม้จะดำเนินเรื่องเป็นซีรีส์ แต่ถ้ามาวางเทียบเป็นองค์หนังก็จะเห็นว่า เรื่องราวของซีรีส์แทบจะแบ่งเป็นสามองค์เกือบจะชัดเจนในทุก ๆ สามตอน ทั้งการใช้สามตอนแรกเพื่อแนะนำโทนและบรรยากาศของซีรีส์ ก่อนที่ในหกตอนที่เหลือ ซีรีส์จะพาเราไปคลี่คลายปมปริศนาทั้งหลายที่ซีรีส์ได้ตั้งคำถามไว้ในช่วงสามตอนแรก นอกจากนี้ซีรีส์ก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์และบรรยากาศของธีมซีรีส์ในแต่ละยุคได้ค่อนข้างเยี่ยมยอด แถมการแสดงนำของ อลิซาเบธ โอลเซ่น และ พอล เบ็ตตานี ก็ทำได้น่าประทับใจ
ส่วนที่เก่งกาจมาก ๆ ของซีรีส์ คือ ความกล้าหาญที่แบ่งสามตอนแรกให้เป็นการอุทิศให้กับซีรีส์ซิทคอมในยุคอดีตและสามารถนำเสนอเรื่องราวได้อย่างชวนหัวและน่ารักน่าชัง ซึ่งส่วนนึงก็ต้องชื่นชมนักแสดงหลักอย่าง โอลเซ่น-เบ็ตตานี ที่สอดรับและส่งเคมีได้อย่างยอดเยี่ยม อีกทั้งการค่อย ๆ หยอดความไม่ชอบมาพากลทีละเล็กละน้อย ก่อนที่ตัวซีรีส์จะคลี่คลายปมให้เราเห็นว่า เกิดอะไรขึ้นในเมืองเวสต์วิลยังน่าติดตามมากขึ้นเรื่อย ๆ
แถมตัวซีรีส์ยังดำเนินเนื้อเรื่องแบบกระชับไม่เยิ่นเย้อเกินความจำเป็น และในแต่ละตอน ซีรีส์ก็เปิดโอกาสให้ตัวละครแต่ละตัวได้ฉายแววและสำรวจมิติในแบบที่หนังมาร์เวลเรื่องอื่น ๆ ไม่เคยทำได้ นอกจากนี้ ตัวซีรีส์ยังกล้าหาญมากพอที่จะ ฉีก แนวทางออกจากหนังมาร์เวล ทั้งการนำเสนอความมืดหม่นแบบคาดไม่ถึง หรือ การปรากฎตัวของตัวละครที่ไม่คาดฝัน ก็ทำให้ซีรีส์นี้น่าติดตามมากขึ้นไปอีก กระนั้นก็ตาม บทสรุปของซีรีส์ที่ก็ดูจะรวบรัดไปหน่อย แถมช่วงหลัง ๆ ที่ตัวซีรีส์ตัดจบแบบ cliffhanger แบบจงใจมากเกินไป
แม้หน้าฉากจะดูสดใสผ่านเรื่องราวเนื้อหาที่แสนหนักหน่วงของวานด้าที่พูดถึงการบำบัดและหลีกหนีความเป็นจริงด้วยการสร้างโลกเสมือนอย่างซิทคอมที่เจ้าตัวชื่นชอบสมัยอยู่โซโคเวีย (อิงตามคอมมิค) ทำให้เราไม่อาจส่ายหน้าหรือเบือนหนีหน้าฉากความหฤหรรษ์ที่สร้างเสียงหัวเราะอย่างที่สามตอนแรกทำได้ แต่กระนั้น ภายใต้ความสดใสมันคือความดำมืดของจิตใจที่วานด้าไม่อาจซ่อนไว้ได้พ้นและสุดท้ายเธอก็ต้องเผชิญกับความจริงอันแสนเจ็บปวดนั้นอยู่ดี
สรุปแล้ว WandaVision คือการนำบรรยากาศกลิ่นอายซิทคอมมานำเสนอภายใต้เรื่องราวครอบครัวซูเปอร์ฮีโร่ที่ดูน่าชวนหัวในช่วงแรก แต่ภายใต้ความไม่น่าไว้วางใจและปริศนาที่น่าค้นหาทำให้ตัวซีรีส์ดูน่าติดตามไปจนจบ ด้วยแก่นหลักของการหลีกหนีความเป็นจริงไปบำบัดด้วยโลกของซิทคอม ทำให้เราพลอยเห็นใจตัวละครอย่าง วานด้า แม็กซิมอฟ ที่กลายเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยบาดแผลในหัวใจ และเป็นหนึ่งในการเล่าถึงตัวละครฮีโร่ในแบบที่เป็นมนุษย์มากที่สุดเท่าที่เคยมี
4 / 5
WandaVision (2021) - 9 Episodes
Created by Jac Schaeffer
Based on "Scarlet Witch" by Stan Lee & Jack Kirby
and "Vision" by Roy Thomas & John Buscema

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา