[Review] Avengers: Endgame (2019) – สู่การเผด็จศึก
คุณลองนึกภาพใหญ่ สักภาพนึง…
ถ้ามันเป็นภาพของซูเปอร์ฮีโร่กลุ่มใหญ่กลุ่มนึงกำลังปะทะกับวายร้ายตัวเอ้ที่ยากเกินกว่าฮีโร่คนเดียวจะกำราบอยู่และฮีโร่แต่ละคนมีเอกลักษณ์ต่างออกไปจนแต่ละคนมีเรื่องราวจุดกำเนิดที่ต่างกันออกไป เราต้องใช้เวลาทำความรู้จักฮีโร่เหล่านั้นโดยไม่รู้ว่าพวกเขามีภยันตรายอะไรอยู่เบื้องหน้าและมันยากเย็นแสนเข็ญขนาดไหน
ตลอดระยะเวลา 10 ปี 21 เรื่องของหนังซูเปอร์ฮีโร่ MCU เราได้เรียนรู้ว่าใครเป็นใคร พลังของพวกเขาคือแบบไหน ต้องก้าวข้ามผ่านและพัฒนาตัวเองไปด้านไหนบ้างและเรื่องราวเหล่านั้นกำลังมาถึงบทสรุปที่เป็น “ภาพใหญ่” ที่พวกเราไม่น่าจะเคยได้เห็น นั่นคือสิ่งที่ทั้งหมดปูทางมาเพื่อ Avengers: Endgame ที่เป็นภาคต่อของ Avengers: Infinity War
Avengers: Endgame สานต่อเรื่องราวหลังจากจบ Infinity War เหล่าฮีโร่ผู้เหลือรอดหาวิธีจัดการธานอสคืนเพื่อทวงคืนสิ่งที่พวกเขาสูญเสียไป แต่การจะเดินทางไปจัดการธานอสก็ไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเขาจึงตัวรวมพลังกันเพื่อไป “เผด็จศึก” ครั้งสุดท้าย
เป็นการยากมากที่จะสรุปเรื่องราวทั้งหมดได้โดยไม่สปอยล์สิ่งสำคัญภายในเรื่อง เพราะจากการโปรโมทสุดโหดที่ดึงความสนใจจากผู้คนทั่วทั้งโลกไปดู ด้วยการฉายต้นเรื่องเพียง 15 นาทีในคลิปตัวอย่างแทบทุกตัวและเรื่องราวหลังจากนั้นจึงไม่อาจเอ่ยออกมาได้ แต่จะพูดง่าย ๆ ว่าองค์แรก หนังจะดำเนินหลังจากจุดจบใน Infinity War และฮีโร่เหล่านั้นกลับมารวมกันเพื่อหาทางออกเดินทางไปทวงชีวิตทั้งครึ่งจักรวาลกลับมาด้วยการไปจัดการธานอส ระหว่างนั้นก็จะมีการแทรกอารมณ์ขันและประเด็นทางอารมณ์ความสูญเสียที่แสนจะหนักหน่วงเข้ามาอย่างพอดี ส่วนทั้งสององค์ที่เหลือคือสิ่งที่ผมอยากจะให้พวกคุณไปผจญกันเองในโรง
ครั้งเมื่อ Infinity War ที่หนังสามารถตอบโจทย์ความสนุกได้พอทำเนาแต่ไม่ได้ถึงตามที่เราคาดไว้ ครั้นเมื่อมา Endgame หนังเรื่องกลับมอบสิ่งที่เราคาดหวังได้และบางครั้งก็เกิดคาด สิ่งที่เราชอบมากก็คือ การออกแบบ Endgame ให้เป็นบทสรุปของเรื่องราวมหากาพย์อินฟินิตี้ได้อย่างสอดคล้องและดีเยี่ยมได้อย่างงดงาม โครงสร้างการเล่าเรื่อง หนังมีที่มาที่ไปในการทำภารกิจฆ่าธานอสและมีการอ้างอิงถึงหนังภาคก่อนที่ชวนให้เราย้อนกลับไปดู 21 เรื่องก่อนหน้านี้มาก ๆ และการเล่าของมันก็สมควรแก่ความยาวระดับ 3 ชั่วโมง เพราะมันเล่าคุ้มจริง ๆ
ตัวละครที่ทำหน้าที่ดำเนินเรื่องหลักจากที่เราเห็นบนโปสเตอร์ก็ทำหน้าที่ได้ดีงามเพื่อส่งผ่านอารมณ์ อีกทั้งตัวละครที่ใส่เข้ามาเพื่อสร้างความประหลาดใจก็ทำให้เราอดที่จะว้าวกับสิ่งที่หนังใส่เข้ามาด้วยไม่ได้
นอกจากนี้ หนังยังมีหลายช่วงเวลาที่น่าพูดถึง ช่วงเวลาที่โศกเศร้าดึงอารมณ์ ช่วงเวลาที่น่าฮึกเหิมจนแทบจะปรบมือ ช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นจนลุ้นแทบไม่ติด ช่วงเวลาที่ชวนฮาจนหัวเราะกันทั้งโรง ช่วงเวลาที่น้ำตาซึมจนต้องซับน้ำตา และช่วงเวลาเซอร์วิสที่ทำให้แฟน MCU แต่ไม่ใช่แฟนคอมมิคแบบผม ฟินน้ำตาแตกได้ในหลาย ๆ ช่วง ก่อนที่หนังจะพาไปสู่ไคลแมกซ์แอ็คชั่นที่ยิ่งใหญ่มากที่สุดอีกด้วย
กระนั้นเราก็ค้นพบความไม่สมบูรณ์แบบของมัน ทั้งที่มันเป็นบทสรุปเรื่องราวทั้งหมด จิ๊กซอว์แต่ละชิ้นที่นำมาต่อจนกลายเป็น Endgame นี้มันก็ยังเป็นชิ้นภาพที่ต่อกันไม่ลงล็อคในบางที่ แต่ถึงยังไงก็ตาม บทสรุปที่หนังหาทางจบจากกว่ากี่สิบล้านความเป็นไปได้ นี่คือทางที่สวยงามมากแล้วจริง ๆ
สรุปแล้ว หากคุณคือ แฟนคอมมิค คนดูหนัง แฟนหนังที่ติดตาม MCU มาโดยตลอด Avengers: Endgame คือบทสรุปเรื่องราวตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ทำได้อย่างสมศักดิ์ศรี ยิ่งใหญ่ เต็มไปด้วยช่วงเวลาที่แตกร้าวดึงอารมณ์ ชวนฮา น้ำตาซึม และฉากเซอร์วิสที่ชวนให้เป็นที่พูดถึงไปอีกนาน แม้หนังจะยังมีรอยด้างพร่อยถึงความไม่สมบูรณ์แบบ แต่เชื่อเถอะว่า นี่คือสรุปเรื่องราวที่ปูทางมาและเป็นการเบิกทางมหากาพย์ใหม่ได้อย่างงดงาม
4.5 / 5
Avengers: Endgame (2019)
Directed by Joe and Anthony Russo
Screenplay by Christopher Markus & Stephen McFeely
Based on “The Avengers” by Stan Lee & Jack Kirby
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
