7 มี.ค. 2021 เวลา 03:48 • ธุรกิจ
ทำไมพนักงานเก่งๆ ถึงลาออกจากบริษัทคุณ
บางครั้งก็สงสัยว่าทำไมพนักงานเก่งๆถึงลาออกจากบริษัท หรือที่หลายคนเรียกว่าภาวะสมองไหล
ถ้าหากว่าที่ทำงานเปรียบเสมือนบ้านหลังที่ 2 อย่างนั้นแล้วเพื่อนร่วมงานก็เปรียบเสมือนคนในครอบครัว ผู้บริหารเปรียบเสมือนหัวหน้าครอบครัว ถ้าเช่นนั้นแล้วการกระทบกระทั่งกันบ้างย่อมมี และสุดท้ายเราก็จะให้อภัยกันได้แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงแล้วอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไป
เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า ความสัมพันธ์ที่ดีในองค์กรสามารถซื้อใจพนักงานได้มากกว่ากำไรของบริษัท
“คนส่วนใหญ่ที่ทำงานกับบริษัทเดิมนานเป็น 10 ปี หรือบางคนอยู่จนเกษียณอายุ เพราะเขาชื่นชอบในตัวเพื่อนร่วมงานและเจ้านาย คงไม่มีพนักงานคนไหนจะทุ่มเททำงานภายใต้สภาวะแวดล้อมที่ย่ำแย่เพราะใส่ใจผลกำไรของบริษัทหรอก… เพราะฉะนั้นการหันมาซื้อใจพนักงานด้วยมิตรไมตรีที่ดีเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง”
มีหลายบริษัทมากที่ยอมทุ่มงบประมาณในการฝึกอบรมพนักงานเพื่อเพิ่มความรู้ความสามารถ แต่สุดท้าย.. พนักงานของพวกเขาก็เดินจากไปเพื่อหาโอกาศที่ดีกว่าและหลายครั้งที่พนักงานตัดสินใจลาออกเพราะการบริหารงานภายในองค์กรที่ไม่ดี ไม่มีความร่วมมือในการทำงาน ไม่รับผิดชอบในหน้าที่ ความไม่ยุติธรรมในองค์กร หรือโดยรวมก็คือความล้มเหลวในการบริหารคนนั่นเอง
ถึงเวลาแล้วหรือยังที่บริษัทควรจะพิจารณาถึงความสำคัญของเรื่องนี้ หันมารักษาพนักงานที่มีค่าและบริษัทได้ลงทุนพัฒนาพวกเขาด้วยงบประมาณที่ไม่น้อยเลย แน่นอนว่าการหาคนใหม่มาแทนที่คนเก่าที่ลาออกไปนั้น สำหรับบางบริษัทไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะดีกว่ามั้ยถ้าเราได้ทั้งคนเก่ง รู้จักคนในองค์กรเป็นอย่างดี มีความผูกพันกับบริษัทและทำงานกับบริษัทมานานยังคงอยู่กับบริษัทไปตลอด แทนที่จะฝึกคนให้เก่งและสุดท้ายพวกเขาเหล่านั้นก็นำความเก่งที่ฝึกฝนมาเป็นเวลานานไปทำประโยชน์ให้บริษัทอื่นซึ่งอาจเป็นคู่แข่งของเราก็ได้
มาดูกันว่าอะไรเป็นเหตุผลที่พนักงานตัดสินใจลาออก
1. ทำงานหนักเกินไป
“ไม่มีใครตายเพราะทำงานหนักหรอก” ประโยคคลาสสิคที่ได้ยินบ่อยๆ ซึ่งก็จริง แต่มันก็ทำให้หลายคนมีภวาวะเครียดสะสม ปวดไหล่ปวดหัวเรื้อรัง ไมเกรน บางคนถึงขั้นเป็นโรคซึมเศร้า สูญเสียเวลาส่วนตัว ไม่มีเวลาในการดูแลตัวเอง เช่น ออกกำลังกาย นอนหลับให้เพียงพอ ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวหรือคนรัก หรือได้ทำตามความฝันของตัวเองในสิ่งที่ชอบ ทำงานอดิเรก เพราะพวกเขาใช้เวลาทั้งชีวิตทุ่มเทกับการทำงาน อย่าแปลกใจเลยที่บริษัทจะพบว่า มีพนักงานหลายคน ทยอยเดินไปหา HR เพื่อยื่นใบลาออก ทั้งๆ ที่พวกเขามีความรับผิดชอบสูง
แต่ถ้าบริษัทมองพวกเขาด้วยความเห็นใจ ค้นลงไปลึกๆ และเขาเปิดปากออกมาว่า “เขาเหนื่อย ทำงานไม่ทัน” นั่นแหละคือเหตุผล
2.คำชมไม่เคยมี ความดีไม่เคยปรากฎ
จะมีอะไรน่าน้อยใจกว่าการทำดี แต่หัวหน้าไม่เคยเห็น ลองสำรวจดูค่ะว่าผู้บริหารในองค์กรของคุณ เป็นพวกปากหนักหรือเปล่าหรือเขาเห็นว่าเป็นหน้าที่ของพนักงานอยู่แล้วที่ต้องทำงานให้ดี จนละเลยคำชม แต่อย่าลืมว่า มันสำคัญมาก!!! เพราะมันเป็นกำลังใจชั้นดี เคยสังเกตุมั้ยคะว่าพนักงานบางคนแค่ชมนิดเดียวหรือเห็นว่าสิ่งที่พวกเขาทำนั้นเป็นสิ่งดี เขายิ้มหน้าบานเลยนะคะ วันนั้นทั้งวันทำงานไม่รู้จักเหนื่อยคอยเป็นหูเป็นตาให้ทุกเรื่อง นี่คือพลังของคำชม ที่จะเชื่อมให้พวกเขาอยากทำงาน
3.โปรโมทคนอย่างไม่เหมาะสม
หลายครั้งที่บริษัทจ้างคนที่ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งเข้ามาทำงาน เนื่องจากตอนสัมภาษณ์ไม่ได้คุยรายละเอียดที่ชัดเจน จนทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาด และทำให้พวกเขาเหล่านั้นทนทำงานที่ไม่ใช่ได้ไม่นาน รวมทั้งในบางครั้งบริษัทก็เลื่อนขั้นพนักงานอย่างไม่เหมาะสม เช่น พนักงานที่ทำงานในระดับปฏิบัติการได้ดีก็เลื่อนขั้นให้เขาเป็นผู้จัดการซึ่งเขาอาจไม่ได้เก่งเรื่องการบริหารคน และในทางกลับกัน บางคนบริหารคนเก่งแต่กลับให้เขาทำงานในระดับปฏิบัติการ การเลื่อนขั้นพนักงานอย่างไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนั้น ทำให้เกิดการเปรียบเทียบของพนักงานด้วยกัน ว่าเขาไม่สมควรได้รับการเลื่อนขั้นขนาดนั้น แต่ก็ดันได้ ในขณะที่หลายๆ คนมีความสามารถ และขยันแทบตาย แต่กลับถูกมองข้ามไปเฉยๆ เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนจริงๆ
4.ไม่ได้เรียนรู้อะไรเพิ่มเติม
1
พนักงานเก่งๆ ชอบงานที่ท้าทาย เพราะพวกเขามองว่าผลตอบแทนของงานต้องไม่ใช่แค่ตัวเงิน แต่พวกเขาควรได้เรียนรู้เพิ่มเติมจากงานเพื่อพัฒนาทักษะและความสามารถของพวกเขาด้วย ดังนั้นการมอบหมายงานที่ง่ายจนเกินไป พนักงานเหล่านี้จะรู้สึกเบื่อ และไม่มีแรงจูงใจใดๆ ในการทำงานอีกต่อไป
5.ไม่ใส่ใจพนักงาน
หัวหน้าที่ไม่ใส่ใจความเป็นไปของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นความลำบากของชีวิตเขา การจัดสรรเวลาส่วนตัวกับเวลาการทำงานที่เหมาะสม สิ่งเหล่านี้ทำให้พนักงานอยากที่จะลาออกทั้งนั้น โทรสั่งงานด่วนในเวลาหลังเลิกงานโดยไม่ใส่ใจถามว่าพวกเขาทำอะไรอยู่ และลืมไปว่าพวกเขาเป็นลูกน้องของคุณเฉพาะเวลางานเท่านั้น อีกอย่างหนึ่งที่เลวร้ายไม่แพ้กันคือหัวหน้าหลายคนถามสารทุกข์สุขดิบของพนักงานเมื่อเขาต้องการมอบหมายงานให้ทำเท่านั้น แต่ไม่เคยใส่ใจพวกเขาจริงๆ  และเรื่องเหล่านี้ลูกน้องเขารับรู้ได้นะคะ
6.ไม่สร้างแรงกระตุ้นในการทำงาน
หัวหน้าหลายคน ไม่รู้วิธีที่จะกระตุ้นการทำงานของพนักงาน บริหารคนไม่เป็น ไม่รู้วิธีจูงใจให้พนักงานมีแรงใจในการทำงาน แก้ปัญหาในองค์กรไม่ได้ ซึ่งหากมองโดยรวมแล้วก็คือหัวหน้าไม่สามารถทำหน้าที่ตัวเองได้ดีนั่นเอง ทำให้องค์กรเต็มไปด้วยความเฉื่อย และเบื่อหน่าย งานเดิมๆ ซ้ำๆ ทุกวัน ไม่มีอะไรแปลกใหม่มาท้าทายชีวิตการทำงาน ทำงานตามหน้าที่ไปวันๆ และนี่แหละ คือสาเหตุหลักที่ทำให้พนักงานหนีเลย
อย่าลืมว่าการทำงานตามหน้าเพื่อเงินเดือนกับการทำงานด้วยใจนั้น บรรยากาศในการทำงานและผลงานที่ออกมามันต่างกันมาก
8.หัวหน้าไม่เป็นตัวอย่างที่ดี
พนักงานหลายคนทนไม่ไหว กับหัวหน้าที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม พูดจาประชดประชัน หัวหน้าที่เคี่ยวเข็ญให้พนักงานทำงานอย่างหนัก แต่ตนกลับไม่ทำเป็นแบบอย่าง บอกแต่หลักการให้พนักงานทำแต่ไม่บอกว่าทำอย่างไร เช่น บอกว่าต้องทำงานกันเป็นทีม แต่ไม่บอกว่าแล้วต้องทำอย่างไรล่ะ พนักงานก็จะมีคำถามเกิดขึ้นในใจ การบอกให้ทำมันง่ายแต่การลงมือทำจริงมันยากกว่า ดังนั้นสิ่งที่พนักงานต้องการจากหัวหน้าคือ ทำอย่างไร แก้ปัญหาอย่างไร และลงมือทำให้ดูเป็นตัวอย่าง
9. ไม่มีเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจน
หลายบริษัทละเลยการสร้างความตระหนักถึงเป้าหมายในการทำงาน พนักงานมิได้เป็นแค่เครื่องมือในการทำงานและรับคำสั่งจากหัวหน้างานเท่านั้น แต่พวกเขาควรได้รู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนนึงของทีม พวกเขาต้องรู้เป้าหมายของทีม รวมถึง progress ของงาน ว่า ณ ปัจจุบันทีมอยู่ตรงไหนของเป้าหมายและผลงานของทีมอยู่ไกลจากเป้าหมายแค่ไหน พวกเขาจะได้เข้าใจว่าพวกเขาควรเร่งงานตรงส่วนไหนเพื่อให้ทีมประสบความสำเร็จในเป้าหมายที่ตั้งไว้
และที่สำคัญพวกเขาจะได้มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีมไม่ใช่คนที่รับคำสั่งและทำงานไปวันๆ
“เพราะทุกครั้งที่มีพนักงานลาออก มันได้สะท้อนถึงหลายๆ อย่างในบริษัทของคุณ”
ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่คุณจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง
^ฝากกดไลค์ กดติดตามเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยนะคะ^
โฆษณา