10 มี.ค. 2021 เวลา 01:25 • ความคิดเห็น
เราจะไม่ burnout กับงานที่เราสนุก
“ความจริงข้อหนึ่งคือ คุณจะไม่หมดไฟกับงานที่ทำแล้วสนุก คำถามต่อไปคือ ถ้างานตอนนี้ไม่สนุก ก่อนจะออกไปหาอย่างอื่นทำซึ่งไม่รู้จะสนุกไหม คุณได้ลองทำให้งานปัจจุบัน ‘สนุก’ ขึ้นหรือยัง”
1
– รวิศ หาญอุตสาหะ, หนังสือ SUPER PRODUCTIVE
ผมลองเข้าไปดูใน Google Ngram Viewer ที่แทร็คการใช้คำในหนังสือ ก็พบว่าคำว่า burnout เพิ่งจะมีคนเริ่มใช้จริงจังในยุค 1960’s และพุ่งขึ้นสูงที่สุดในปี 1985 ก่อนจะค่อยๆ ลดลงมาอย่างต่อเนื่องจนเกือบจะลงไปเท่ากับยุค 60’s แล้ว
แต่ถึงกระนั้น ช่วงนี้เราก็ยังได้ยินคำว่า burnout อยู่เรื่อยๆ ซึ่งอาการหมดไฟนั้นอาจมีสาเหตุได้หลายประการ
1. ทำงานที่ตัวเองไม่ได้มีปากมีเสียงในการคิดและตัดสินใจ
1
2. ทำงานหนักเสียจนไม่มีเวลาพักผ่อน นอนน้อย สุขภาพพัง
3. ไม่รู้สึกว่างานที่ทำได้สร้างคุณค่าให้กับใคร
2
4. งานที่ทำมันไม่สนุกหรือไม่รู้สึกว่าตัวเองได้พัฒนา
2
5. งานที่ทำไม่ได้สร้างความก้าวหน้าหรือตอบโจทย์ชีวิตในระยะยาว
3
ข้อแรกเราอาจจะทำอะไรได้ยากหน่อย เพราะเป็นเรื่องของวิธีการบริหารในองค์กร เราอาจช่วยให้มันดีขึ้นได้ด้วยการฟีดแบ็คคนที่เราไว้ใจและมีบารมีพอที่จะส่งเสียงแทนเราได้
ข้อ 2 ผมมองว่ามันอยู่ในขอบเขตที่เราสามารถจัดการได้พอสมควร ถ้าเราทำงานหนักจนไม่มีเวลาพักผ่อน แสดงว่ามีอะไรบางอย่างที่ผิดอยู่โดยพื้นฐาน ต้องลองมองหาว่าเราจะ optimize วิธีการทำงานหรือวิธีการ set expectations อย่างไรเพื่อให้เรารับมือกับปริมาณงานได้อย่างยั่งยืน เพราะการฝืนทนทำงานแบบนอนวันละ 5 ชั่วโมงติดต่อกันเป็นยุทธศาสตร์ที่ไม่ฉลาดเลย
2
ข้อ 3-5 นั้นเราทำงานให้สนุกและมีความหมายขึ้นได้ เพราะโดยแท้จริงแล้ว ทุกงานที่เราทำมันทำให้ชีวิตใครบางคนดีขึ้นเสมอ ส่วนถ้ามันมีงานที่เราต้องกล้ำกลืน ก็ควรหาเครื่องมือใหม่ๆ หรือหาน้องฝึกงานมาช่วยแบ่งเบา ถ้างานมันน่าเบื่อก็ทำให้สนุกขึ้นได้ด้วยการตั้ง deadline ขึ้นมาแล้วทำงานแข่งกับเวลา และเมื่อมีเวลาเหลือ เราก็ควรถอยออกมาเพื่อมองให้เห็นภาพกว้างว่ามีมุมไหนที่เราจะสามารถสร้างคุณค่าให้กับทีมได้มากกว่านี้ เมื่อเราสร้างคุณค่าและรู้จักสื่อสารให้คนรับรู้ ความก้าวหน้าก็จะตามมาเองไม่ช้าก็เร็ว
3
เข้าใจดีว่าอาจจะไม่ใช่ทุกองค์กรที่คนทำงานดีจะได้เติบโต แต่ตราบใดที่เราไม่หยุดที่จะยกระดับตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ทักษะที่เราพัฒนาขึ้นมาก็จะติดตัวเราไปตลอดและพาให้เราได้ไปเจอกับเพื่อนร่วมงานที่มี “ศีลเสมอกัน” ในที่สุด
2
ใครที่ประสบกับสภาวะ burnout อยู่ ข้อแนะนำที่ผมมีคือเริ่มต้นจากนอนให้พอก่อน จากนั้นก็จัดเวลาให้ได้ทำทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะทุกคนต้องมีน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจด้วยกันทั้งนั้น เมื่อเริ่มมีแรง ค่อยคิดวิเคราะห์ว่าเรา burnout เพราะอะไร แล้วหาทางแก้ไขให้ตรงจุด
3
ขอส่งกำลังใจให้คนที่กำลังเหนื่อยล้าทุกคนครับ
โฆษณา