10 มี.ค. 2021 เวลา 22:51 • ท่องเที่ยว
เที่ยวอเมริกาเหนือ ::👇ep.3
ร้อนที่สุดแทบหยุดหายใจ ที่หุบเขามรณะ Death Valley 🏜
Where is the hottest place on earth?
คุณเคยทราบมั้ยคะว่า นอกจากที่ทะเลทราย Sahara ว่าร้อนที่สุดแล้ว ยังมีที่ไหนร้อนที่สุดอีกบ้าง ?
บทความวันนี้จะพาคุณไปรู้จัก หนึ่งสถานที่ ที่
🥵ร้อนที่สุดในโลก 🥵
เป็น1 ใน สถานที่ทางธรรมชาติ ที่คุณไม่ควรพลาด ( A must see ) !
เส้นทางไป Death Valley National Park ไกลมาก ร้อนมาก
ภาพนี้คุ้น ๆ ไหมคะ บนหน้าจอคอมพิวเตอร์
Death Valley หรือหุบเขามรณะ
1
เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาและเป็นสถานที่ที่ร้อนติดอันอับโลก 🥵เช่นเดียวกับที่ ทะเลทราย Sahara ในทวีป
อัฟริกา และ ในตะวันออกกลาง
ร้อนมากจริงๆ ค่ะไม่มีต้นไม้เลย
จะเห็นภูเขาเป็นสีสันจากสายแร่ และร่องรอยลึก จากน้ำที่ไหลอย่างรวดเร็วในอดีต ในภูเขานั่นเอง
Death Valley 🏜 หรือหุบเขามรณะนี้ได้รับการตั้งชื่อจากการที่นักบุกเบิกแทบเอาชีวิตไม่รอด เนื่องจากโรคลมแดดและภาวะขาดน้ำ ในทะเลทรายซึ่งกว้างใหญ่
และแห้งแล้ง เต็มไปด้วยหน้าผาสูงชัน
มีรายงานการเสียชีวิตจากคนที่ไปเที่ยวที่นี่ ปีละ ไม่ต่ำกว่า 1-3 คน ค่ะ (โชคดีแม่ขมิ้นรอดมา )
ขึ้นไปชมพระอาทิตย์กำลังจะตก ที่เห็นสีขาวไกลๆนั่น ไม่ใช่น้ำนะคะ มันคือเกลือที่เกิดจากการระเหยของน้ำนั่นเอง
หุบเขามรณะนี้ อยู่ในบริเวณเขตระหว่างรัฐแคลิฟอร์เนีย ตะวันออก และ ด้านเหนือ ของ ทะเลทราย Mojave Desert ในรัฐเนวาดา และอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลถึง 856 เมตร
ที่นี่เต็มไปด้วยเกลือโซเดียมและบอแรกซ์ ความสำคัญทางธรณีวิทยาพบว่า หุบเขามีผิวหินเก่าแก่อย่างน้อย 1.7 พันล้านปี
มีการแปรสภาพจากทะเลทรายโบราณตื้นเขิน เป็นตะกอนและการก่อตัวของภูเขาไฟ ต่อมาโลกดึงออกเป็นลุ่มน้ำและแห้งลง จนน้ำซึมไหลผ่านหายลงทะเลทราย ท้ายที่สุดเกิดการเบี่ยงเบนการพัดผ่านของกระแสลมจึงแห้งแล้งหนักขึ้น
ร้อนมากจนผิวแทบไหม้ ภาพซ้ายไปเดินที่ Golden Canyon ภาพขาวไปเดินที่ ทะเลเกลือ ค่ะ
เราพาเจ้า Airstream คู่ใจ พักที่นี่ค่ะ Fiddlers Campground เป็นของบุคคล คืนละเท่าไหร่จำไม่ได้ ดีที่มีต้นไม้ช่วยบ้าง แต่เป็นต้นไม้ประเภท ปาล์ม ค่ะ
ไกลแค่ไหนก็จะไปค่ะ เดินขึ้นมาชมหุบเหว ข้างบน และจอด Airstream ไว้ข้างล่าง
ตู้ค่าธรรมเนียม ค่าเข้าอุทยานค่ะ บริการตัวเองไม่มี จนท. มาบริการ
กองภูเขาทราย ภาพข้างล่าง👇แห่งนี้กว้างใหญ่หลายไร่ เกิดจากลมที่พัดพาและหอบเอาทรายจากยอดเขาในที่ต่างๆมาและตกลงที่นี่ด้วย
กระแสลมหรืออุณหภูมิที่ธรรมชาติสร้าง
ผ่านไปหลาย ๆ หมื่น ปี เกิดเป็นภูเขาทรายค่ะ เรียกว่า Sand Dunes นั่นเอง
รุ่งเช้าตรู่ขับรถไปเดินขึ้น Sand Dunesค่ะ ไกลพอสมควร ไปถึงก่อน ได้เหยียบทรายก่อนใคร เดินลำบากค่ะขาขึ้น แต่ขาลง วิ่งลงมาเหมือนเล่นสกีทราย และยังไม่ร้อนมาก
ถามว่า ร้อนขนาดนี้แล้วมีคนอาศัยที่นี่มั้ย ?
ตอบว่า มีค่ะ
พวกเขาอาศัยอยู่บริเวณรอบๆ อุทยาน มีร้านขายของเล็กๆ อยู่ร้านหนึ่ง เป็นชนเผ่าอินเดียนแดงเผ่าหนึ่งชื่อเผ่า Timbisha หรือ Panamint มีภาษาพูดเป็นของตัวเอง
ใครคิดจะมาเที่ยว ควรเตรียมร่างกายให้พร้อมค่ะ ไม่มีต้นไม้สักต้น และส่วนใหญ่ คนจากรัฐแคลิฟอร์เนีย จะขับรถมาดูแต่เช้าแล้วก็กลับในเวลาเดียวกันเกือบค่ำ
มันไกลมากจริงๆค่ะ ร้อนแทบไม่ต้องปวดฉี่ เพราะขับออกทางเหงื่อซึ่งไหลชุ่มตัวตลอดเวลา ต้องดื่มน้ำมากๆ
ไปเดินดูทะเลเกลือค่ะ Bad Water Basin เป็นทุ่งกว้างใหญ่ อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 282ฟุต ร้อนมาก กลัวผิวหน้าจะไหม้
ป้ายเตือนบอกว่า หลังจาก10 โมงเช้าไปแล้ว อย่ามาเดินนะ จะร้อนจนตับแลบ 🥵🥵
มีสถิติบันทึกในปี2013โดยนักอุตุนิยมวิทยา ชื่อ เควิน มาร์ติน บันทึกไว้ที่ 57.7องศา ซึ่งสูงกว่าสถิติโลกอย่างเป็นทางการค่ะ
2
แต่ช่วงที่แม่ขมิ้นไป ร้อนประมาณ 45 องศา ค่ะ เหงื่อนี่ซึมออกมาจากร่างกายเหมือนน้ำรั่วเลย
ทุกวันนี้ ที่นี่ก็ยังคงทุบสถิติ ร้อนที่สุดในโลกอยู่ค่ะ
ไปดูเหมืองเก่าแก่ ที่คนงานหลายคนก็เสียชีวิตที่นี่เหมือนกัน ปัจจุบันไม่มีเหมืองแล้วค่ะ
ถ้าท่านใดสนใจ ศึกษาหาข้อมูล
สามารถอ่านข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มได้ที่ ลิงค์ข้างล่างนี้ได้นะคะ
ขอบคุณ สำหรับการติดตามและร่วมเดินทางไปด้วยกันนะคะ ถ้าชอบและเป็นประโยชน์
สามารถกดไลก์ กดแชร์ เป็นกำลังใจ ให้แม่ขมิ้นด้วยค่ะ 🙏
โปรดรักษาสุขภาพให้แข็งแรง
พบกันในบทต่อไป ที่ไหนบ้าง รออ่านนะคะ
1
ภาพและเรื่อง ( จาก บันทึกการเดินทางส่วนตัว 20 เม.ย 59 )
โดย ( แม่) นกขมิ้น บินไกล
เล่าจากรัฐไอดาโฮ,สหรัฐอเมริกา

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา