อีกมุมมองของร้านสเต็ก "แบ่งกันกินไม่ได้ กินจานเดียวกันไม่ได้" ที่ จ.นครศรีธรรมราช
ที่มา 77ข่าวเด็ด
ยอมรับเลยว่าพอได้ฟังข่าวหรือเสพข่าวที่ออกมา ก็เกิดอาการไม่พอใจเจ้าของร้านเหมือนกัน ว่ามันเป็นสิทธิ์ของลูกค้า เขาไม่ได้มาขอกินฟรีๆ แค่แบ่งกันกินไม่เห็นจะต้องมาแสดงความไม่พอใจหรือมาบอกว่าไม่อยากให้ทำแบบนี้ได้
แต่ด้วยวิสัยของคนทำการตลาด และยังอยู่ในส่วนของการวางแผนและการบริหารงาน และยังอยู่ในธุรกิจของอาหารสดด้วย ต้องเข้าใจว่าเหรียญมีสองด้านเสมอ ดังนั้นก่อนที่เราจะตัดสินเรื่องอะไรลงไป เราต้องไปอยู่ในมุมของคนๆนั้นก่อน เราไม่สามารถตัดสินใครจากมุมที่เรามองได้
"ยุคใหม่การตลาดของไทย" จึงได้ทำการค้นหาข้อมูลทั้งในส่วนของลูกค้าและเจ้าของร้าน และได้พบข้อมูลทั้งสองส่วน ในส่วนของลูกค้าหาได้ทั่วไปอยู่แล้ว และได้มีโอกาสเข้าไปชมการสัมภาษณ์เจ้าของร้านที่มีการนำมาลงใน YouTube ตาม Link นี้
ในมุมของลูกค้า "ยุคใหม่ฯ" เข้าใจดี เพราะว่าเรื่องอย่างนี้เรามีสิทธิ์โดยชอบธรรมของเราอยู่แล้ว การที่เข้ามาบอกว่าห้ามแบ่งกันรับประทาน ต้องเป็นจานใครจานมัน และจากการให้สัมภาษณ์ของคุณไพฑูรย์ เซ้งจิ้น เจ้าของร้าน ได้บอกลูกค้าไปว่า “คุณทานอย่างนี้ไม่ได้ คุณผิดคำพูดกับผม” ถึงแม้ว่าจะพูดด้วยอาการสุภาพก็ตาม แต่ความหมายมันเป็นเชิงก้าวร้าว จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมลูกค้าถึงไม่พอใจ
แต่ด้วยมุมมองของคนทำการตลาด "ยุคใหม่ฯ" อยากสนับสนุนให้คุณไพฑูรย์ ทำเรื่องนี้ต่อไป เพราะนี่คือจุดขายอย่างแท้จริง จากการดูการสัมภาษณ์ของคุณไพฑูรย์ซ้ำไปซ้ำมา แม้ว่าจะเป็นคนที่ยึดติดไม่ค่อยยืดหยุ่น แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือการเป็นคนตรงไปตรงมา มุ่งเน้นในการทำสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้าในราคาที่คุ้มค่า แต่สิ่งที่คุณไพฑูรย์ขาดไปคือมันเป็นความต้องการของคุณไพฑูรย์กับฝ่ายเดียว ไม่ได้มีการสื่อสารให้ลูกค้าได้รับรู้
คุณไพฑูรย์ เซ้งจิ้น (พี่ช้าง)
เจ้าของร้านสเต็ก ผ.ผึ้งทำรัง
การที่สนับสนุนให้คุณไพฑูรย์มีการดำเนินการในรูปแบบนี้ต่อ ไม่ได้หมายความว่าให้มีการขายแบบก้าวร้าว แต่เป็นการแสดงจุดขายของร้านว่าการรับประทานอาหารที่นี่ไม่สามารถแบ่งรับประทานได้ หรือเงื่อนไขอะไรต่างๆที่คุณไพฑูรย์จะกำหนดไว้ เพียงแต่ต้องแจ้งลูกค้าให้รับทราบก่อนเสมอ
ด้วยรสชาติพร้อมกับราคาที่คุ้มค่า เมื่อนำมารวมกับวิธีการทำการตลาดในรูปแบบที่แตกต่างออกไป เชื่อว่าจะมีลูกค้ามาเข้าคิวรอรับประทานอาหารที่ร้านคุณไพฑูรย์มากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการทำสเต็กแบบโฮมเมดและยังมีโต๊ะนั่งจำนวนจำกัด คุณไพฑูรย์ยังเป็นคนทำอาหารคนเดียวด้วย นี่ยิ่งเป็นเสน่ห์ให้ลูกค้าอยากจะเข้ามาอุดหนุน เพราะความรู้สึกที่ลูกค้าจะได้รับกลับไปคือ ลูกค้ารู้สึกว่ามีสิทธิพิเศษและได้รับโอกาสพิเศษที่ไม่ได้หาได้จากที่อื่น
สเต็กของร้าน ผ.ผึ้งทำรัง
ที่มา Wongnai
จากการค้นหาข้อมูลของร้านคุณไพฑูรย์ ที่ชื่อว่าร้าน ผ.ผึ้งทำรัง พบว่าเป็นหนึ่งในร้านสเต็กแนะนำใน "วงใน" ด้วย นั่นก็หมายถึงว่าสเต็กที่คุณไพฑูรย์ทำได้รับการยอมรับว่าอร่อยคุ้มค่าน่าอุดหนุนอยู่แล้ว เพียงเปลี่ยนการนำเสนอรูปแบบนี้ โดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวตนของคุณไพฑูรย์อย่างใดเลย ด้วยการแจ้งข้อกำหนดสำหรับลูกค้าที่จะเข้ามาอุดหนุนก่อน ตามที่แจ้งไว้ข้างต้น เท่านี้ร้าน ผ.ผึ้งทำรัง ก็แทบจะขายไม่ทันความต้องการของลูกค้า
ที่มา YouTube "Kitdanai Chainurat"
อร่อยแล้วยังคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ก็สามารถเป็นจุดขายให้ร้านได้ดีอยู่แล้ว แต่จะดีกว่าหากได้เพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าที่เข้ามาอุดหนุนสเต็กของร้าน ผ.ผึ้งทำรัง อนาคตอันใกล้ไม่แน่ว่าร้านของคุณไพฑูรย์อาจจะถูกบรรจุอยู่ในร้านที่ต้องมาให้ได้เมื่อมาถึงเมืองนครศรีธรรมราช ก็ได้
รูปแบบการตลาดที่นำมาวิเคราะห์และนำเสนอในมุมต่างจากที่มีการนำเสนอโดยทั่วไป นี้คือการตลาดแบบ "การสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า" นั่นเอง และนี่ก็คือมุมต่างจากการมองของคนทำการตลาดน้อยๆคนหนึ่ง
ที่มา Wongnai
สามารถติดตามข้อมูลแนวคิดทางการตลาดยุคใหม่ได้ที่
Instagram: Modernizationmarketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
Face Book Page: Thailand Modern Marketing
YouTube Channel: Modernization marketing (ยุคใหม่การตลาดของไทย)
สนใจการทำตลาดสุขภาพที่มีการรับรองจากเอกสารทางการแพทย์แล้ว
ติดต่อได้ที่
Facebook Page: โรคเบาหวานเป็นได้ก็หายได้
สนใจตัดต่อคลิปวีดีโอ
สามารถติดต่อได้ที่: Inbox หรือที่ Email sarayuth407@hotmail.coms
- 7
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
