15 มี.ค. 2021 เวลา 07:03 • ประวัติศาสตร์
การเสื่อมอำนาจและสิ้นสุดยุคสมัยของนโปเลียนที่ 1
ต่อจากบทความ นโปเลียนเป็นใคร มาจากไหน
การเสื่อมอำนาจและช่วงชีวิตสุดท้ายของนโปเลียนที่ 1
คงปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกของเรานั้น ไม่มีอะไรจีรังและยั่งยืนทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนแล้วแต่ต้องดับศูนย์ ไม่เว้นแม้แต่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่
ในขณะที่อำนาจของนโปเลียนแผ่ขยายไปทั่วทั้งยุโรป แต่กองทัพของนโปเลียนกลับค่อยๆเสื่อมอำนาจลงเรื่อยๆ เนื่องจากบรรดาไพร่พลต่างๆล้วนถูกเกณฑ์มาอย่างไม่เต็มใจบวกกับความหลายหลายทางเชื้อชาติทำกองทัพของนโปเลียนนั้นอ่อนแอลงอย่างมาก
และอีกเหตุผลสำคัญ ก็คือการที่นโปเลียนตัดสินใจผิดพลาด ด้วยการตัดโอกาสอังกฤษไม่ให้ติดต่อค้าขายกับประเทศอื่นๆในแถบยุโรป แล้วมันผิดยังไงคงจะสงสัยกันใช่มั้ยครับ นั้นก็เพราะประเทศต่างๆในยุโรปล้วนต้องอาศัยสินค้าของอังกฤษนั้นเองทำให้เกิดความเดือนร้อนไม่พอใจไปทั่วโดยเฉพาะการที่นโปเลียนสั่งขังสมเด็จพระสันตปาปาไพอัสที่ 7 ซึ่งเป็นผู้คัดค้านระบบ "กักด่านยุโรป"ของเขานั้นเองแถมพี่แกยังส่งทหารไปยึดรัฐวาติกันอีกเอากับพี่แกสิ ที่นี้เหล่าศาสนิกชนทั้งหลายก็หัวร้อนกันนะสิครับ แต่เรื่องมันไม่ได้จบแค่ตรงนั้นระบบกักด่านยุโรปของนโปเลียน ทำให้รัสเซียพี่ใหญ่หมีขาวเองไม่พอใจเหมือนกัน รัสเซียก็เลยหันมาเป็นศัตรูซะเลยแต่แล้วในปี ค.ศ.1812 นโปเลียนก็ได้ยกทัพบุกรัสเซียแต่ผลที่เกิดขึ้นนั้นทำให้นโปเลียนเสียทหารไปถึง 500,000 นายนั้นก็เพราะแม่ทัพใหญ่ของรัสเซียใช้กลวิธีซุ่มโจมตีแบบกองโจร พอกองทัพฝรั่งลึกลํ้าเข้าไปถึงดินแดนรัสเซียกองทัพอย่างทั้ง 2ฝ่ายก็ประจัญหน้ากันในวันที่ 7 กันยายน 1812 ที่เมืองโบโรนิโนใก้ลกรุงมอสโคว นโปเลียนก็ได้ทำการเข้าล้อมกรุงมอสโควไว้นานถึง 5สัปดาห์แต่ก็ไม่สามารถยึดกรุงมอสโควได้ นโปลียนจึงยอมถอยทัพกลับนั้นเพราะขาดเสบียงอาหาร และ สภาพอากาศของรัสเซียที่หนาวแบบสุดโหดเป็นปราการธรรมชาติอีกชั้นนึง แถมยังต้องรับมือกับการซุ่มโจมตีแบบกองโจร เป็นระยะอีกนโปเลียนจึงพ่ายแพ้ไปในที่สุด
การรบที่ โบโรนิโน่
ข่าวการพ่ายแพ้ของนโปเลียนในครั้งนี้ไปอพร่กระจายไปในวงกว้างเมืองขึ้นที่อยู่ใต้อำนาจทั้งหลายก็พากันแข็งเมือง ในปี ค.ศ. 1814 กองทัพพันธมิตร รัสเซีย ปรัสเซีย ออสเตรีย อังกฤษได้เคลื่อนทัพเข้าสู่ฝรั่งเศสล้อมปารีสไว้ เมื่อถูกรุมประชาทัณฑ์ขนาดนั้นก็คงจะอยู่ต่อไปไม่ไหว นโปเลียนจึงยอมสละบัลลังค์แล้วก็หนีเอาตัวรอดไปถึงเกาะเอลบานานถึง 10 เดือนในที่สุดฟ้าก็เป็นใจให้นโปเลียนวางแผนหาทางกลับมาจนได้ เนื่องจากได้ข่าวว่า ประชาชนไม่พอใจการปกครองของ หลุยส์ที่ 18 การกลับมาในครั้งนี้ประชาชนส่วนใหญ่ก็พอใจ แต่ประเทศอื่นๆไม่แฮปปี้ด้วยนะสิ
ในการประชุมสภาคองเกรส แห่งเวียนนาประเทศต่างๆมีเป้าหมายเดียวกัน คือ รุมสะกำนโปเลียน ฝ่ายนโปเลียนเองรวบรวมทหารได้ 150,000 นายยกทัพเข้าไปในเบลเยี่ยมเพื่อตั้งรับ ในการรบครั้งแรกกองทัพฝรั่งเศส ต้องประจัญหน้ากับกองทัพของปรัสเซีย ผลคือ นโปเลียนชนะจึงมอบทหาร 30,000 นายให้รองแม่ทัพไว้เพื่อควบคุมทหารปรัสเซีย ส่วนนโปเลียนก็นำกำลังทหารที่เหลือลุยต่อเพื่อไปรบกับกองทัพนานาชาติ ภายใต้การนำของ ดยุคแห่ง เวลลิงตันของอังกฤษที่ วอเตอร์ลู ซึ่งมีทหาร 90,000 นายแต่ นโปเลียนมีทหารเพียง 60,000 นายเท่านั้น
การรบที่ วอเตอร์ลู
ในช่วงสุดท้ายของการรบ ฝ่ายอังกฤษมีกำลังมาหนุนเพิ่มอีก 30,000นาย แถมรองแม่ทัพของนโปเลียนยังหักหลังปล่อยให้ทหารปรัสเซียรุกเข้ามาตีกองทัพของนโปเลียนซํ้าอีก การรบที่วอเตอร์ลู จึงจบลงด้วยความพ่ายแพ้ของนโปเลียนหลังจากที่แพ้อย่างราบคาบ นโปเลียนก็สละราชสมบัติครั้งที่ 2และลงเพื่อไปอเมริกา แต่ก็ถูกกองทัพเรืออังกฤษขวางไว้ นโปเลียนจึงต้องพึ่งศัตรูเก่าอย่างอังกฤษเพื่อขอลี้ภัย รัฐบาลอังกฤษได้ยอมรับคำขอ แต่ว่าเอาเข้าจริงก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด นโปเลียนถูกอังกฤษคุมตัวไปไว้บนเกาะ เซนต์เฮเลน่า เกาะเล็กๆมี่พื้นที่ 75ตารางกิโลเมตร ซึ่งตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวทางใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติก นโปเลียนได้ใช้เวลาช่วงสุดท้ายใยนชีวิตบนเกาะที่กันดารและห่างไกล
บ้านของนโปเลียนบนเกาะ เซนต์เฮเลน่า
ในวันที่ 15 พฤษภาคม 1821 นโปเลียนถูกฝังที่เกาะแห่งนี้ถึง 20 ปีต่อมารัฐบาลฝรั่งเศสก็ได้นำศพกลับมายังปารีสและฝังไว้ ณ สุสานแองวาลิคจนปัจจุบัน
โฆษณา