15 มี.ค. 2021 เวลา 04:01 • ประวัติศาสตร์
อังกฤษฟื้นฟูราชอาณาจักรเเละระบอบกษัตริย์ตอนที่ 2
พระรูปของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 เเห่งราชอาณาจักรอังกฤษ สกอตแลนด์ เเละไอร์แลนด์(King Charles II,King of England Scotland Ireland and France) วาดในระหว่างปี 1660 - 1665 โดยจอห์น ไมเคิล ไรท์(John Michael Wright),(https://en.m.wikipedia.org/wiki/File:King_Charles_II_by_John_Michael_Wright_or_studio.jpg)
หลังจากที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 (King Charles II)ทรงเสด็จขึ้นครองราชย์บัลลังก์แล้วนั้นผู้ที่สั่งและเห็นชอบต่อการสำเร็จโทษพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 (King Charles I)พระราชบิดาของชาร์ลส์ที่ 2 มักจะไม่ค่อยโชคดีสักเท่าไหร่ พระราชบัญญัติการชดใช้ค่าเสียหายและให้อภัย(Indemnity and Obilivion Act)ซึ่งผ่านมติเห็นชอบของรัฐสภาในวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ.1660 พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ได้ทรงประทานอภัยโทษให้กับบรรดาเหล่าแม่ทัพที่เคยจับมือชูอาวุธต่อสู้กับพระมหากษัตริย์ แต่กฎหมายฉบับนี้ได้ยกเว้นการพระราชทานอภัยโทษให้กับคฌะกรรมาธิการทั้ง 59 คนซึ่งมีส่วนร่วมต่อกรณีการสวรรคตของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ซึ่งในขณะนั้นผู้พิพากษาทั้ง 31 คนจาก 59 คนยังมีชีวิตอยู่ บางคนเมื่อทราบเรื่องก็พากันกลัวตายทั้งหนีไปบ้าง ถูกไล่ล่า แต่ส่วนใหญ่ถูกจับขึ้นศาล มีผู้พิพากษา 3 คนหลบหนีไปอยู่ในอาณานิคมในทวีปอเมริกากลายที่หลบกบดานของทั้งสามบุคคลคือเอ็ดเวิร์ด วัลลีย์(Edward Whalley) วิลเล็ยม กอฟฟ์(William Goffe) และจอห์น ดิกซ์วิลล์(John Dixwill) ซึ่งทั้งสามนี้ในที่สุดก็จะกลายเป็นบรรพบุรุษของแนวคิดการปฏิวัติอเมริกาในเวลาต่อมา
ในการพิพากษาคดีกับกลุ่มคณะที่สำเร็จโทษพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 นั้น แม่ทัพโธมัส แฮริสันเป็นสมาชิกคนแรกที่มีความผิดในข้อหาปลงพระชนม์พระมหากษัตริย์ เพราะเป็นสมาชิกคนที่ 17 ที่เซ็นเอกสารยอมรับการปลงพระชนม์หรือสำเร็จโทษพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 เขาเป็นคนแรกที่โดนโทษนี้โดยการแขวนคอ ขึงพืด และถูกสับแยกร่างเป็นสี่ส่วน ซึ่งถือว่าเป็นโทษที่ทารุณมาก แต่รัฐบาลราชอาณาจักรจำเป็นต้องกระทำการเช่นนี้เพื่อสร้างความชอบธรรมและเป็นการฟื้นฟูระเบียบประจำราชอาณาจักรเพื่อไม่ให้ใครเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ต่อมาในเดือนตุลาคม ค.ศ.1660 อดีตผู้ที่มีส่วนร่วมในกรณีการปลงพระชนม์ของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ก็ถูกประหารด้วยโทษเดียวกันกับที่แม่ทัพแฮริสันโดนด้วยเช่นกัน โดยทั้งสิบโดนประหารที่ชาริงครอส(Charning cross)ในกรุงลอนดอนท่ามกลางสายตาของเหล่าบรรดาสาธารณชน แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้เซ็นเอกสารในเหตุการณ์ครั้งนี้ก็ถือว่ามีความผิด
ส่วนบางคนนั้นเสียชีวิตไปแล้ว แกนนำอย่างโอลิเวอร์ ครอมเวลล์(Oliver Cromwell) เฮนรี่ ไอร์ตัน(Henry Ireton) โธมัส ไพรด์(Thomas Pride) และจอห์น แบรดชอว์(John Bradshaw) ต่างถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาเป็นกบฏและถือเป็นอริราชศัตรู ต่อมาในเดือนมกราคม ค.ศ.1661 ศพของครอมเวลล์ ไอร์ตัน และแบรดชอว์ก็ถูกขุดขึ้นมาและทำการแขวนคอด้วยโซ่ประจานที่ไทเบิร์น(Tyburn)ในกรุงลอนดอน
ในปี ค.ศ.1661 จอห์น โอกีย์(John Okey) หนึ่งในผู้พิพากษาที่โดนสำเร็จโทษนั้น เขากำลังหนีพระราชอาญาในสหจังหวัดดัตช์แคว้นฮอลแลนด์ แต่ต่อมาถูกจับได้พร้อมกับไมล์ส คอร์เบ็ท(Miles Corbet) เพื่อนและทนายความของครอมเวลล์อดีตประมุขแห่งจักรภพ กับทั้งจอห์น บาร์กสเตด(John Barkstead) อดีตผู้บัญชาการในกรุงลอนดอน คนเหล่านี้โทษก็ไม่ต่างจากชุดก่อนคือโดนแขวนคอ ขึงพืด และถูกสับแยกร่างในไทเบิร์นในวันที่ 19 เมษายน ค.ศ.1662 ส่วนอีก 19 คนที่เหลือถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต
ส่วนพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 นั้นยังทรงพระราชทานบรรดาศักดิ์และตำแหน่งอัศวินกับขุนนางที่ได้บรรดาศักดิ์ในสงครามครั้งก่อนและสมัยอารักขา บทบัญญัติการปกครองในสมัยอารักขาได้บัญญัติไว้ว่าการมอบบรรดาศักดิ์เป็นสิทธิ์ของเจ้าอารักขา ในช่วงนั้นมีการมอบบรรดาศักดิ์อัศวินให้กับชาย 30 คน ถึงแม้ว่าเมื่อฟื้นฟูราชวงศ์ตำแหน่งอัศวินจะถูกเพิกถอน แต่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ก็ยังประทานบรรดาศักดิ์คืนให้กับบุคคลเหล่านี้
เมื่อมีการฟื้นฟูระบอบกษัตริย์พระมหากษัตริย์ต้องการสร้างความชอบธรรมให้กับพระองค์ คริสตจักรแห่งอังกฤษถูกรื้อฟื้นกลับมาอีกครั้งในฐานะคริสตจักรประจำชาติอังกฤษ มีการฟื้นฟูพระราชพิธีโบราณอันเก่าแก่ซึ่งถูกยกเลิกในช่วงสาธารณรัฐ มีการฟื้นฟูพระราชพิธีราชาภิเษกซึ่งถือเป็นการยกเลิกระบบแบบเพียวริตันที่บัญญัติมาในยุคอารักขาของครอมเวลล์ โรงละครกลับมาเปิดบริการ ผู้หญิงได้รับการอนุญาตให้ประกอบอาชีพเป็นครั้งแรกด้วย และในราชอาณาจักรสกอตแลนด์มีการฟื้นฟูระบบมุขนากยกเดียวกลับมาอีกครั้ง
รายการอ้างอิง
𝐓𝐇𝐄 𝐄𝐍𝐆𝐋𝐈𝐒𝐇 𝐂𝐈𝐕𝐈𝐋 𝐖𝐀𝐑 สงครามกลางเมืองอังกฤษ,ภัทรพล สมเหมาะ
Roger Baker, Drag: A History of Famale Impersonation The Performing Arts(New York City: NYU Press, 1985), 85.
“Tuesday 23 April 1661”.The Dairy of Samuel Pepys.

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา