ส่วนใหญ่แล้วนักลงทุนที่อยากจะประสบความสำเร็จจะเลือกที่จะย้ายบ้านไปอยู่ใกล้ Wall Street เพราะนั้นเป็นที่ๆมีโอกาสในเรื่องของการลงทุนมากที่สุด แต่ทางบัฟเฟตต์เองกลับเลือกที่จะอาศัยอยู่ในเมืองเล็กๆอย่างโอมาฮาต่อไป เพราะเขาเชื่อว่านี่จะเป็นที่ๆเขาสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด และเขาก็สามารถทำมันได้สำเร็จจริงๆโดยไม่ต้องเดินตามเส้นทางของคนอื่นๆ
3
ทางลูกชายของเขา Peter Buffett กล่าวว่า เขาใช้บทเรียนนี้ในการเดินทางในสายนักดนตรีของเขาเช่นเดียวกัน และเขาเลือกที่จะใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองเล็กๆอย่าง Milwaukee แทนที่จะย้ายไป Hollywood เพื่อไล่ล่าหาชื่อเสียงเหมือนคนอื่นๆ
2️⃣ #ให้โอกาสลูกแต่ไม่ใช่ยื่นความสบายให้ทุกอย่าง
Peter บอกว่าพ่อของเขาจะคอยช่วยให้คำแนะนำและโอกาสแก่ลูกๆในการเริ่มต้นทำอะไรเสมอ แต่เขาไม่ใช่จะหยิบยื่นมือทุกอย่างเข้ามาช่วยอยู่ตลอด และไม่ได้ให้เงินเยอะแยะจนจะสามารถทำทุกอย่างได้ตามใจสบายๆ
ทาง Peter ยอมรับว่าเขายังไม่เข้าใจจริงๆว่า การบริจาคมันจะส่งผลอะไรมาคืนให้ชีวิตเขาได้อย่างไรในตอนนั้น ?
แต่วันนึงหลังจากที่ Peter เองได้บริจาคเงินจำนวนหนึ่งให้กับโครงการช่วยเหลือเด็กผู้หญิงรอบโลกจากความรุนแรงและความยากจน (ซึ่งทางพ่อของเขาก็ได้ให้เงินสนับสนุนกับโครงการนี้มาโดยตลอด) ทาง Peter เพิ่งได้เข้าใจความหมายของพ่อเขา เมื่อมีเด็กผู้หญิงจากแอฟริกันคนหนึ่งที่มีฝีมือทางด้านดนตรีที่เป็นเลิศ ได้เข้ามาร่วมงานดนตรีกับเขาได้ เพราะเงินช่วยเหลือเหล่านั้นได้หยิบยื่นโอกาสให้กับเธอนั้นเอง
ทาง Peter นั้นดีใจมาก เขาจึงรีบนำหุ้นออกไปขายทันทีเพื่อที่จะได้นำเงินก้อนใหญ่นี้ไปซื้อของที่ตัวเองต้องการตามภาษาวัยรุ่นอย่างเต็มที่
Peter เป็นคนที่รักการเล่นดนตรีมาก หลังจากที่เขาได้รับเงินสดมาเขาจึงลาออกกลางคันจากมหาวิทยาลัย Stanford โดยทันที เพื่อไปสานฝันกับการเป็นนักดนตรีที่ San Francisco
ซึ่ง Peter คิดว่าชีวิตเขานั้นมีความสุขแล้วที่ได้ไปไล่ล่าตามความฝันในสายของนักดนตรี และเงินก้อนแรกที่คุณพ่อมอบให้เขาก็ทำให้เขาสามารถเดินไปตามความฝันนั้นได้