11 พ.ค. 2021 เวลา 07:00 • ประวัติศาสตร์
NBA 104 - ประวัติย่อของทีม NBA ตอนที่ 18 - Minnesota Timberwolves
ประวัติทีม Minnesota Timberwolves
ฝั่งที่สังกัด - ฝั่งตะวันตก Northwest Division
ปีที่ก่อตั้ง - 1989
ชื่อเดิม -
Minnesota Timberwolves (1989-ปัจจุบัน)
สถานที่ตั้ง - เมือง Minneapolis รัฐ Minnesota
ชื่อสนามเหย้า - Target Center
เจ้าของทีม - Glen Taylor
CEO - Ethan Casson
GM (General Manager) - ไม่มี
HC (Head Coach) - Chris Finch
ทีมสังกัดใน G-League - Iowa Wolves
จำนวนครั้งที่ได้แชมป์ลีก - 0
จำนวนครั้งที่ได้แชมป์ฝั่งทวีป - 0
จำนวนครั้งที่ได้แชมป์ Division - 1 (2004)
จำนวนเบอร์เสื้อที่ทำการ Retired - 1 (2)
ประวัติทีมโดยสังเขป
หลังจากที่ Minnesota Lakers ได้ทำการย้ายเมืองไปที่ Los Angeles ในปี 1960 ทำให้เมืองนี้ต้องรอนานเกือบถึง 30 ปีเลยกว่าที่ทางลีกจะทำการประกาศขยายเพิ่มอีก 4 ทีม โดยมี Wolves เป็นหนึ่งในนั้น (อีกสามทีมคือ Magic, Hornets และ Heat)
Wolves 1989 Logo
ทีมได้เปิดตัวลงแข่งครั้งแรกในฤดูกาล 1989/90 ภายใต้การนำทีมของ Tony Campbell ทีมจบฤดูกาลแรกด้วยสถิติ 22-60 ซึ่งถือว่าไม่ค่อยดีนัก แต่ก็น่าจะเป็นเรื่องปกติสำหรับทีมน้องใหม่ที่หลายๆ อย่างดูจะไม่ลงตัว
ในปีต่อมาทีมได้ทำการย้ายสนามเหย้ามาเป็น Target Center (และยังใช้อยู่จนปัจจุบัน) แต่ผลงานของทีมก็ยังไม่กระเตื้องขึ้นเท่าไหร่นัก ทีมยังไม่สามารถทำสถิติชนะเกิน 25 เกมได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
ทำให้สุดท้ายแล้วเจ้าของทีมก็ทนไม่ไหว ทำการขายทีมให้กับ Glen Taylor (เจ้าของคนปัจจุบัน) ในปี 1994 พร้อมกับได้ว่าจ้าง KeVin McHale ให้เป็น GM ของทีม รวมไปถึงการได้ว่าที่สุดยอดตำนานของทีมที่จะเป็นแกนหลักให้ในอีกหลายปีถัดจากนี้
การมาของตำนานอย่าง Kevin Garnett
ในการ Draft ปี 1995 ทีมได้ใช้สิทธิ์ Draft อันดับ 5 ในการเลือกดาวรุ่งที่จะกลายมาเป็นตำนานและแกนหลักให้กับทีมไปอีกหลายปีในอนาคตอย่าง Kevin Garnett เข้าสู่ทีม
Kevin Garnett (Cr. Gettyimages)
ถึงแม้ว่าในปีแรกที่เขาได้เข้ามาสู่ทีมจะสามารถจบฤดูกาลด้วยสถิติแค่ 26-56 แต่ผลงานเฉลี่ย 10.4 แต้มต่อเกมในฤดูกาลแรกของเจ้าตัวก็ถือว่ามีผลงานที่ไม่เลวร้ายนัก จากนั้นในปี 1996 ทีมจึงได้คว้าอีกหนึ่งดาวรุ่งที่จะเป็นกำลังสำคัญของทีมอย่าง Stephon Marbury เข้าสู่ทีม
Stephon Marbury
ในฤดูกาล 1996/97 ถือเป็นจุดเปลี่ยนของทีมอย่างแท้จริง นอกจากการที่ Garnett และ Tom Gugliotta ได้พัฒนาฟอร์มการเล่นจนสามารถมีชื่อติดทีม All-Star ได้ทั้งสองคนเป็นครั้งแรกแล้ว ทีมยังจบด้วยสถิติ 40-42 พร้อมกับเข้ารอบ Playoffs เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทีมได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าจะถูกเขี่ยตกรอบแรกอย่างรวดเร็วก็ตาม
ในฤดูกาล 1997/98 ทีมได้ก่อเกิดสามประสาน Garnett-Marbury-Gugliotta ที่เล่นเข้าขากันได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ทีมจบฤดูกาลด้วยสถิติ 45-37 ดีที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งทีมมา แต่ก็ยังไม่สามารถก้าวผ่าน Playoffs รอบแรกไปได้เช่นเดิม
น่าเสียดายที่ในฤดูกาล 1998/99 การเจรจาสัญญาฉบับใหม่ทำให้ทีมไม่สามารถเก็บแกนหลักไว้ครบทุกคนได้ สุดท้ายจึงต้องจำใจยอมปล่อย Gugliotta ออกไปจากทีม รวมไปถึงความขัดแย้งกับ Marbury ทำให้ทีมต้อง Trade เขาออกด้วยในช่วงกลางฤดูกาล จึงทำให้สุดท้ายแล้วก็เหลืองเพียงแค่ Garnett ที่เป็นแกนหลักเพียงคนเดียวเท่านั้น ก่อนที่จะเข้ารอบ Playoffs ได้อีกเป็นหนที่สามติดต่อกัน แต่ก็ต้องตกรอบแรกสามครั้งรวดเช่นเดียวกัน
ฤดูกาลถัดมาทีมได้ Draft ดาวรุ่งมากฝีมืออย่าง Wally Szczerbiak เข้าสู่ทีม ซึ่งเจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มได้เป็นอย่างดี สามารถเป็นผู้เล่นที่ช่วยเหลือ Garnett ได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ทีมจบฤดูกาลด้วยสถิติ 50-32 แต่ก็ยังไม่สามารถผ่าน Playoffs รอบแรกไปได้อีกครั้ง
Wally Szczerbiak
อย่างไรก็ดี ในปีถัดมาทีมก็ต้องประสบปัญหาหนักถึงสองเรื่อง เรื่องแรกคือการที่ Malik Sealy ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน ถือเป็นความสูญเสียที่ส่งผลกระทบกับทางลีกและทีมพอสมควร ต่อมาทีมจึงได้ทำการ Retired เสื้อเบอร์ 2 ที่เขาใส่เพื่อให้เกียรติในภายหลัง
อีกเรื่องคือการเซ็นสัญญา Joe Smith ที่ไม่ผ่านกระบวนการที่ถูกต้องตามกติกาของลีก ทำให้นอกจากทางลีกจะสั่งระงับการเซ็นสัญญาแล้ว ทีมยังต้องโดนค่าปรับ 3.5 ล้านเหรียญสหรัฐ โดนริบสิทธิ์ Draft รอบแรกเป็นเวลา 3 ปี และ GM ในตอนนั้นอย่าง Kevin McHale ยังถูกทางลีกแบนไม่ให้เกี่ยวข้องกับทีมเป็นเวลาหนึ่งฤดูกาลอีกด้วย
จากสองเรื่องดังกล่าว ทำให้ทีมต้องประสบปัญหากับการบริหารผู้เล่นพอสมควร แต่ก็ยังสามารถรักษาผลงานเข้ารอบ Playoffs ต่อเนื่องได้เช่นเดิม แต่ภาพม้วนเดิมก็ฉายซ้ำอีกครั้งแล้วครั้งเล่า ทีมได้ตกรอบแรก Playoffs รอบแรกเป็นครั้งที่ห้าติดต่อกันเข้าไปแล้วในตอนนี้
ฤดูกาล 2001/02 ทีมได้เดินหน้าเสริมขุมกำลังเพิ่มเป็นอย่างมาก นำโดย Gary Trent, Loren Woods และ Maurice Evans รวมไปถึง Smith ที่เข้าร่วมกับทีมได้สมใจเสียที ทั้งหมดมีส่วนร่วมให้ทีมสามารถทำสถิติผลงานช่วงแรกที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมได้กับผลงาน 30-10 และจบฤดูกาลด้วยสถิติ 50-32 แต่แล้วภาพหลอน Playoffs รอบแรกก็กลับมาเล่นงานพวกเขาอีกครั้งอย่างเจ็บปวด
เช่นเดียวกันกับฤดูกาล 2002/03 ที่แทบจะฉายหนังม้วนเดิมกับฤดูกาลที่แล้ว ทีมจบด้วยสถิติ 51-31 แต่ก็ต้องช้ำใจกับสถิติการตก Playoffs รอบแรกติดต่อกันเป็นสมัยที่ 7 ในที่สุด
ยุคของ Garnett ที่ใกล้จะสิ้นสุดลง
ในปี 2003 ทีมบริหารได้พยายามเป็นอย่างมากที่จะก้าวข้าม Playoffs รอบแรกให้จงได้ ส่งผลให้ทีมมีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นครั้งใหญ่ โดยเริ่มจากการที่ Smith และ Terrell Brandon ได้ออกจากทีมไปเพื่อแลกกับ Ervin Johnson, Sam Cassell และ Latrell Sprewell ทำให้ขุมกำลังของทีมดูดีขึ้นมากเลยทีเดียว
Lartrell Sprewell และ Sam Cassell
ทั้งสองคนร่วมกับ Garnett ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ส่งผลให้ฤดูกาล 2003/04 ทีมได้ทำสถิติอีกครั้งกับการจบฤดูกาลด้วยผลงาน 58-24 พร้อมกับการที่ Garnett คว้ารางวัล MVP ประจำฤดูกาลไปครอง น่าเสียดายที่ผู้เล่นบางคนต้องบาดเจ็บไปในเกมสำคัญ ทีมชุดนี้จึงทำผลงานได้ดีที่สุดเพียงแค่รอบชิงแชมป์สายฝั่งตะวันตกเท่านั้นเอง
น่าเสียดายที่ทีมชุดนี้ได้เล่นด้วยกันไม่นานนัก หลังจากที่ฤดูกาล 2004/05 ทีมทำผลงานได้น่าผิดหวังเพียงแค่ 44-38 ไม่สามารถเข้าสู่รอบ Playoffs ได้ ทำให้ต่อมาทีมตัดสินใจ Trade Cassell และ Szczerbiak ออกจากทีม ส่งผลให้ผลงานในฤดูกาล 2005/06 ย่ำแย่ลงกว่าเดิมอีกที่ 33-49 และต้องพลาดการเข้ารอบ Playoffs ไปอีกครั้ง
จนสุดท้ายทีมก็ได้ตัดสินใจสร้างทีมใหม่จากแกนหลักที่อายุน้อย และยอมปล่อยผู้เล่นที่เป็นแกนหลักของทีมมายาวนานอย่าง Garnett ให้กับ Celtics แลกกับผู้เล่นถึงห้าคนพร้อมทั้งสิทธิ์ Draft รอบแรกอีกสองหน ถือเป็นหนึ่งใน Deal ที่มีมูลค่ามากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ลีกเลยก็ว่าได้
ยุคของ Kevin Love
ถึงแม้ว่าทีมจะได้ของตอบแทนมามากมายกับการเสียผู้เล่นอันดับหนึ่งของทีม แต่ผลงานของทีมก็แย่ลงตามไปด้วย ในฤดูกาล 2007/08 ทีมจบแค่สถิติเพียง 22-60 เท่านั้น
ในการ Draft ปี 2008 ในตอนแรกทีมได้เลือก O.J. Mayo เข้าสู่ทีม แต่ตอนท้ายก็ตัดสินใจแลกเขาพร้อมกับผู้เล่นอื่นๆ ไปให้กับ Grizzlies เพื่อแลกกับผู้เล่นจำนวนหนึ่ง รวมไปถึงดาวรุ่งอีกคนอย่าง Kevin Love เข้ามาสู่ทีมด้วย
Kevin Love
น่าเสียดายที่ปีแรกฟอร์มของเขายังไม่เฉิดฉายนัก ทีมยังคงใช้แกนหลักเป็น Al Jefferson อยู่ แต่อาการบาดเจ็บช่วงกลางฤดูกาล ทำให้ทีมจบฤดูกาล 2008/09 ด้วยสถิติเพียงแค่ 24-58 เท่านั้น รวมไปถึงปีถัดไปที่ผลงานกลับเลวร้ายลงไปอีก เหลือแค่ 15-67 เกือบจะรั้งบ๊วยในลีกแล้วด้วยซ้ำ
ทำให้ในปี 2010 ทีมได้คิดการใหญ่จากการ Trade ผู้เล่นอย่าง Michael Beasley มาช่วยเติมเต็มขุมกำลัง รวมไปถึงการที่ Love ได้พัฒนาฝีมือจนสามารถมีชื่อติดทีม All-Star ได้สำเร็จ แต่ผลงานโดยรวมก็ยังลุ่มๆ ดอนๆ เหมือนเดิม จบด้วยสถิติ 17-65 เพียงแค่นั้น ทั้งที่มีผู้เล่นระดับ All-Star อยู่ในทีมแบบนี้
ถึงแม้ว่าทีมจะพยายามเปลี่ยนแปลงโค้ชเพื่อเข้ามายกระดับทีมให้มากขึ้น แต่ผลงานโดยรวมของทีมก็ไม่ได้ดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมนัก หลังจากทำได้เพียง 31-51 หลังจบฤดูกาล 2013/14 ทีมจึงได้ตัดสินใจสร้างทีมใหม่อีกครั้ง พร้อมกับปล่อย Love ไปให้กับ Cavaliers ในท้ายที่สุด
ยุคของ Wiggins และ Towns
หลังจากที่ Love ได้จากทีมไปแล้ว ทีมได้รับผู้เล่นจำนวนหนึ่งเข้ามาด้วย หนึ่งในนั้นก็คือ Andrew Wiggins ดาวรุ่งในปีนั้น พร้อมกับดาวรุ่งที่ทีม Draft มาอีกคนอย่าง Zach LaVine ได้ผนึกกำลังกัน ซึ่งปีแรกของทั้งคู่ถือว่าโชว์ฟอร์มได้ค่อนข้างดี โดยเฉพาะ Wiggins ที่คว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีไปครองได้สำเร็จ
Andrew Wiggins
และในปี 2015 ทีมได้สิทธิ์ Draft อันดับ 1 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทีม ทีมจึงตัดสินใจเลือกดาวรุ่งมากฝีมืออย่าง Karl-Anthony Towns เข้าสู่ทีม และโชคดีที่ทีมได้อดีตตำนานอย่าง Garnett กลับมาประคองบรรดาดาวรุ่งในทีมอีกด้วย ทำให้ฟอร์มโดยรวมของทีมดีขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับ Towns สามารถคว้ารางวัลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีไปได้อีกคน
Karl-Anthony Towns
การที่ทีมมีผู้เล่นระดับดาวรุ่งยอดเยี่ยมถึงสองคนแบบนี้ แสดงให้เห็นถึงอนาคตที่น่าจะสดใสรออยู่อย่างแน่นอน ทีมจึงพยายามควานหา Head Coach คนใหม่ที่จะสามารถดึงศักยภาพของดาวรุ่งที่มีให้มากขึ้น จนได้ตัดสินใจเซ็นสัญญา Tom Thibodeau เข้ามาคุมทีมในปี 2016
ถึงแม้ว่าฤดูกาล 2016/17 ทีมจะยังมีสถิติที่ไม่ดีนักเพียงแค่ 31-51 แต่การตัดสินใจ Trade LaVine ออกจากทีมและได้เลือก Draft สุดยอดดาวรุ่งอีกคนอย่าง Jimmy Butler เข้ามานั้น ทำให้ทีม Wolves กลายเป็นทีมที่น่าจับตามองทันที หลังจากที่มีดาวรุ่งอนาคตไกลอยู่ในทีมหลายต่อหลายคนที่น่าจับตามอง
เข้าสู่ยุคปัจจุบัน
สุดท้ายแล้วความฝันของทีมก็เริ่มกลายเป็นความจริง ทีมจบฤดูกาล 2017/18 ด้วยสถิติ 47-35 พร้อมกับการได้หวนกลับเข้ารอบ Playoffs อีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานถึง 13 ฤดูกาล แต่กระนั้นภาพจำสมัยตกรอบแรกซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ตามกลับมาหลอกหลอนทีมอีกครั้งเช่นเคย
น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วดูเหมือนว่า Thibodeau ก็ยังไม่ใช่ Head Coach ที่ทีมต้องการ ทีมจึงตัดสินใจปลดเขาออกจากทีมในช่วงต้นปี 2019 และหลังจากที่ควานหาโค้ชมาหลายต่อหลายคนแต่ยังไม่ถูกใจ ทีมจึงตัดสินใจแต่งตั้งโค้ชชั่วคราวในตอนนั้นอย่าง Ryan Saunders ขึ้นเป็น Head Coach อย่างเป็นทางการแทน
พอมาถึงฤดูกาล 2019/20 ทีมได้ตัดสินใจ Trade Wiggins ไปให้กับ Warriors เพื่อแลกกับ D'Angelo Russell เพื่อให้เขาได้มาเป็นคู่หูคนใหม่ร่วมกันกับ Towns แทนที่คนเก่าที่ออกไปนั่นเอง
คงต้องรอดูกันต่อไปว่า จากผลงานของทีมที่เริ่มจะดูย่ำแย่อีกครั้งในฤดูกาลล่าสุดนี้ ทิศทางของทีมจะเป็นอย่างไรอีกบ้างในอนาคต
ถ้าชอบก็ฝาก Share และกดติดตามด้วยนะครับ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา