Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Movie Trivia
•
ติดตาม
22 มี.ค. 2021 เวลา 05:09 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Zack Snyder’s Justice League (2021) – เหล่าฮีโร่รวมพลัง ฉบับไดเร็กเตอร์คัต
จำกันได้ไหมว่าหนังที่ยาวที่สุดที่คุณเคยดูคือเรื่องอะไร? ความทรงจำล่าสุดผมย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ได้ดู Schindler’s List ของสตีเว่น สปีลเบิร์กที่เป็นหนังออสก้าร์คุณภาพในปี 1993 ด้วยความยาวร่วม 3 ชั่วโมง ซึ่งในความยาวที่เท่ากันนี้ก็มีหนังแบบ Avengers: Endgame และ The Lord of the Rings ติดเข้ามาด้วย กระนั้นเอง ด้วยความห้าวหาญของการนำตัวหนัง Justice League หนังรวมดาวฮีโร่ที่เข้าฉายไปอย่างจืดชืดในปี 2017 มานำเสนอใหม่ตามวิสัยทัศน์ของ แซ็ค สไนเดอร์ ทำให้ตัวหนังมาพร้อมความยาวเต็มเหยียดระดับ 4 ชั่วโมงเลยทีเดียว
Justice League เล่าเรื่องต่อจาก Batman v Superman ที่ ซูเปอร์แมน ตายจากการห้ำหั่นกับ ดูมส์เดย์ ทำให้ทั้งโลกอยู่ในภาวะที่ไร้ความหวังและเป็นเหมือนใบเบิกทางให้กับภยันตรายให้เข้ามารุกรานโลก นั่นจึงทำให้ สเต็ปเพ่นวูล์ฟ ที่เคยหวังจะยึดครองจักรวาลกลับมาอีกครั้ง บรูซ เวย์นในฐานะแบทแมน จึงทำการรวมทีมเหล่าเมต้าฮิวแมนเพื่อมาปกป้องโลกไว้จากเงื้อมมือของสเต็ปเพ่นวูล์ฟให้ได้
ความแตกต่างในฉบับนี้ นอกเหนือจากความยาว ก็คือหนังเดินเรื่องโดยใช้ฉากเปิดคือความตายของซูเปอร์แมนโดยทันที ก่อนจะแบ่งตัวหนังออกเป็น 6 พาร์ท ซึ่งจริง ๆ ก็ถูกดำเนินตามโครงสร้างหนังสามองค์แบบแทบจะเป๊ะ ก็คือการเล่าเรื่องเกริ่นนำในช่วงองค์แรก พาไปรู้จักตัวละครใหม่ในเรื่องผ่านการรวมทีม และเริ่มต้นทำภารกิจช่วยโลก ในอีกสององค์แรก ซึ่งระหว่างการดำเนินเรื่อง หนังก็มาพร้อมความหนักหน่วงจากความน่าเกรงขามของตัวร้ายและความรุนแรงที่ประเคนมาไม่ยั้ง แม้ไม่โหดมาก แต่ก็ช่วยเติมเลือดเนื้อให้กับเรื่องราวได้
ส่วนที่ดีของหนังก็คือ เนื้อหาที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาที่ทำให้เราเห็นความเชื่อมโยงของเหตุการณ์ต่าง ๆ รวมถึงมิติตัวละครที่มากขึ้น หลากหลายฉากมีที่มาที่ไป รวมถึงสามารถสร้างอารมณ์ร่วมได้มากกว่าฉบับเดิม อีกทั้งฉากแอ็คชั่นต่าง ๆ มากมายในเรื่องก็สนุกจัดเต็มยิ่งใหญ่อลังการมากขึ้น และด้วยเวลากับเนื้อเรื่องที่ปูทางมาทำให้ดำเนินไปสู่ไคลแมกซ์ที่สมการรอคอย นอกจากนี้ด้วยระยะเวลาทำให้เราเห็นฉากเซอร์วิสหลายฉากที่ถูกใจแฟนคอมมิคอย่างแน่นอนและยังสามารถทำหน้าที่เปิดจักรวาลคอมมิค DC ได้อย่างน่าสนใจอีกด้วย
นอกจากนี้ วิสัยทัศน์การกำกับของแซ็ค ในการนำเสนอฮีโร่และตัวร้ายแต่ละตัวก็ทำได้สมศักดิ์ศรี ทำให้เราเห็นฉากประมือด้วยพลังแบบ epic scale ที่น่าตื่นตะลึงมาก ๆ แถมด้วยเรื่องราวที่ขีดเขียนมาก็ทำให้ตัวฮีโร่แต่ละตัวมีบทบาทสำคัญต่างกันไป โดยเฉพาะในรายของ The Flash และ Cyborg ที่เรียกว่าเป็นตัวพลิกเกมในฉบับนี้เลยด้วยซ้ำ อีกทั้งในฉากแอ็คชั่น รวมถึงไคลแมกซ์ก็เกลี่ยบทได้ โดยไม่มีใครโดดเด่นกว่าใคร
กระนั้นเอง เรามีความรู้สึกว่า เราไม่อาจเอาฉบับนี้ไปเทียบกับฉบับของจอสส์ วีดอน ในปี 2017 ได้ตรง ๆ เนื่องด้วยปัจจัยบังคับหลายอย่างที่ไม่เท่ากัน ทั้งในเรื่องความยาวและอำนาจในการควบคุมเนื้อหางาน ที่ฉบับของ แซ็ค สไนเดอร์ มีอิสระกว่ามาก ทำให้สามารถใส่เนื้อหาและรายละเอียดได้ตามใจสั่งโดยไม่ต้องสนซึ่งความยาว แต่อย่างไรก็ดี เรารู้สึกว่า ตัวหนังฉบับนี้สามารถตัดให้สั้นและกระชับได้มากกว่านี้อีก เพราะตัวหนังยังมีบางส่วนที่รู้สึกยืดยาวหรือมีฉากที่ไม่จำเป็นอยู่เยอะ ฉะนั้นจะเอาไปเทียบกับต้นฉบับก็ดูจะใจร้ายไป ถ้าอย่างน้อยไม่ทำออกมาภายใต้ความยาวที่เท่ากัน
สรุปแล้ว Zack Snyder’s Justice League คือการถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของหนังรวมทีมเหล่าฮีโร่ตามแบบฉบับ แซ็ค สไนเดอร์ ที่มาพร้อมเรื่องราวที่ถูกขยายแล้วเล่าให้ยืดยาวมากขึ้นจนทำให้เห็นที่มาที่ไป รวมถึงมิติตัวละครที่มากขึ้นและการเกลี่ยความโดดเด่นของฮีโร่ให้ออกมาโดดเด่นแตกต่างกัน ฉากแอ็คชั่นที่ถูกขยายความใหญ่โตอลังการสมการรอคอย เป็นการเซอร์วิสแฟนคอมมิคที่น่าประทับใจไม่เบาเลยทีเดียว
4 / 5
Zack Snyder's Justice League (2021)
Directed by Zack Snyder
Screenplay by Chris Terrio
Story by Chris Terrio, Zack Snyder & Will Beall
Based on Characters by DC Comics
บันทึก
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
Movie Trivia | DC Review
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย