14 เม.ย. 2021 เวลา 01:30 • ธุรกิจ
‘สตาร์ทอัพ สปิริต’ สวรรค์ของเด็กรุ่นใหม่ในการทำงาน
ค่าตอบแทน เนื้องาน และโอกาสก้าวหน้า 3 สิ่งนี้นับเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกงานของใครหลายคน อย่างไรก็ตาม สำหรับเด็กรุ่นใหม่ยุค Millienials แล้ว แค่ 3 อย่างนั้นยังไม่เพียงพอสำหรับการตัดสินใจ เพราะเด็กรุ่นนี้จะมีความมั่นใจ ว่องไวและรักอิสระ ทำให้พวกเขาเชื่อว่า ‘วัฒนธรรมองค์กร’ เป็นอีกหนึ่งส่วนที่จะทำให้ทุกวันในการทำงานของเขา เป็นไปอย่างมีความสุข
วันนี้ Career Fact ขอพาทัวร์บริษัท Shopee ผ่านบทความ ให้ทุกคนได้เห็นถึง Culture การทำงานของ ‘โลกอนาคต’ วัฒนธรรมที่ไม่จำกัดเสียงและศักยภาพของคุณจากอายุ องค์กรที่รับฟังและเปิดโอกาสให้ทุกตำแหน่ง ที่ซึ่งให้ความสมดุลของการทำงาน และชีวิตที่มีความสุขได้อย่างลงตัว
Shopee แตกต่างจากองค์กรแบบ ‘ดั้งเดิม’ อย่างไร ติดตามได้ที่นี่
2
#Shopeeคือใคร?
Shopee คือ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ และเป็นหนึ่งกลุ่มบริษัทในเครือของ Sea ทั้ง 3 ธุรกิจ ได้แก่ Garena ธุรกิจด้านเกมส์ออนไลน์และดิจิทัล เอ็นเตอร์เทนเมนต์ , SeaMoney(ShopeePay) ผู้ให้บริการด้านการเงินแบบดิจิทัล รวมถึง Shopee ที่เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ
1
Sea เริ่มก่อตั้งในปี 2009 ก่อตั้งโดย Forrest Li มีธุรกิจแรกเป็นบริษัทเกมส์ออนไลน์ (Garena) จากนั้นต่อยอดออกมาเป็น 2 ธุรกิจใหม่ คือ Digital Payment (ShopeePay) และ E-Commerce (Shopee)
Shopee เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 และเติบโตอย่างรวดเร็ว โดย ‘Tech-in-Asia’ ได้ยกให้ Shopee เป็นแชมป์อีคอมเมิร์ซแห่งอาเซียน
1
จากความ​เข้าใจผู้บริโภคและสามารถดึง Talents หรือบุคลากรชั้นนำจากทั่วโลกเข้ามาร่วมงาน ปัจจุบัน Shopee มีให้บริการครอบคลุมทั่วภูมิภาค และยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
1
#StartUpSpirit
Culture การทำงานที่นี่ก็คือ “Startup-like Culture” กล่าวคือ แม้จะเป็นบริษัทใหญ่ที่มีโครงสร้างองค์กรและการรายงานผลเป็นขั้นลำดับ อย่างไรก็ตาม ทุกคนมีสิทธิและเสียงที่สำคัญ ไม่สำคัญว่าคุณจะมีตำแหน่งงานหรืออายุที่น้อยกว่า หัวหน้าทีมได้รับการอมรมให้เข้าใจการทำงานของเด็กรุ่นใหม่ ขณะเดียวกันเด็กรุ่นใหม่ก็ถูกคาดหวังให้มี Social Skills เพื่อการสื่อสารกับผู้ร่วมงานที่ราบรื่น นับเป็นบริษัทในอุดมคติของโลกอนาคตที่แท้จริง
[ องค์กรของคนรุ่นใหม่ ]
“ทำงานที่นี่เหมือนกลับไปอยู่มหา’ลัย เพราะเจอแต่คนรุ่นใกล้กัน ทำงานเสร็จก็ไป hang out ด้วยกันต่อได้” - คุณพีซ ทีม Business Transformation บอกกับทาง Career Fact
คุณจ้า ทีมโปรดักต์ เสริมว่า ด้วยความที่ช่วงอายุของพนักงานใน Shopee ค่อนข้างใกล้เคียงกัน ทุกคนอายุไล่เลี่ยกัน หลายคนจึงไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมงานแต่เป็นเพื่อนในชีวิตจริงที่ยังพบปะหรือไปเที่ยวกันในช่วงวันหยุดนอกเหนือจากเวลางาน
แต่ข้อดีของการที่องค์กรเต็มไปด้วยคนรุ่นใหม่ไม่ได้มีแค่นั้น คุณเจน ทีมการตลาด ยังบอกอีกว่า จากประสบการณ์ของตัวเองที่เคยอยู่องค์กรที่มีแต่คนอายุมากกว่าเทียบกับการมาทำงานที่ Shopee (ที่มีอายุเฉลี่ยของพนักงานเพียง 27 ปี) สิ่งหนึ่งที่ต่างกันค่อนข้างชัดคือ ‘เอเนอร์จี้’ ของคนรุ่นใหม่ ที่อยากผลักดันให้ไอเดียของตัวเองเป็นรูปเป็นร่างได้จริง มีความกล้าคิดกล้าทำ ไม่กลัวความผิดพลาดเพราะมองว่ามันคือการเรียนรู้อย่างหนึ่ง
หลายคนอาจจะคิดว่าข้อเสียของคนรุ่นใหม่คือไม่ค่อยมีน้ำอดน้ำทน แต่คุณเจนกลับเห็นต่าง เพราะคนรุ่นใหม่ที่เธอได้ทำงานด้วยล้วนมี Can-do Attitude คิดบวก และไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ เวลาเสนอไอเดียอะไรไปแล้ว เมื่อได้ลงมือทำจริงแล้วพบอุปสรรค พวกเขาก็จะพยายามหาทางแก้ไขจนได้ เพราะมองว่าสิ่งเหล่านี้คือเรื่องท้าทายที่ถึงแม้จะเป็นวิธีที่ยากกว่าหรือใช้เวลานานกว่า แต่ท้ายที่สุดจะทำให้พวกเขาเก่งขึ้น แข็งแรงขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน
[ ความเป็นทีมและ Supportive Environment ]
คุณเจนบอกว่า เนื่องจากทุกคนให้ความสำคัญกับภาพรวมของ Shopee มากกว่า จึงมีการแบ่งปันไอเดีย แลกเปลี่ยนความรู้ และมีการสนับสนุนกันและกันอยู่เสมอแม้จะไม่ได้อยู่ทีมเดียวกันหรือไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์นั้นก็ตาม ซึ่งวัฒนธรรมแบบนี้ไม่ได้มีแค่ที่ Shopee ประเทศไทย แต่รวมถึงประเทศอื่นๆด้วย
[ คิดเร็ว ทำเร็ว เติบโตอย่างรวดเร็ว ]
เมื่อ Shopee เริ่มโต พนักงานก็ต้องเยอะขึ้นตาม เราจึงสงสัยว่ามี Hierarchy ในองค์กรเพิ่มขึ้นบ้างไหม แล้วมันจะขัดแย้งกับวัฒนธรรมแบบสตาร์ทอัพหรือเปล่า ซึ่งคุณพีซก็ได้ให้คำตอบมาโดยเปรียบเทียบกับประสบการณ์ที่เคยทำงานร่วมกับบริษัท Corporate อื่นๆ
1
เธอเล่าให้ฟังว่า บริษัท Corporate ที่เธอเคยทำงานด้วยนั้นจะมีลำดับขั้นเยอะมากๆ กว่าไอเดียที่เสนอไปแต่ละครั้งจะได้รับการอนุมัติให้เริ่มโปรเจกต์จึงใช้เวลาค่อนข้างนาน บางครั้งก็ใช้เวลาเป็นเดือน เพราะการที่ผ่านด่านแรกไปได้ ไม่ได้แปลว่าเราจะผ่านด่านที่ 4 หรือ 5 ได้
เมื่อเปรียบเทียบกับฝั่ง Shopee เธอมองว่าแม้จะมีลำดับขั้นอยู่บ้าง แต่ก็ยังนับว่าเป็นองค์กรที่ค่อนข้าง Flat และพอองค์กรมีลำดับขั้นที่ไม่สูงมาก กระบวนการตั้งแต่เสนอจนถึงตอบรับไอเดียจึงใช้เวลาไม่นาน สอดคล้องกับความเป็น ‘We Run’ หนึ่งในค่านิยมหลักขององค์กรที่ดำเนินงานด้วยความรวดเร็ว
[ โอกาสในการเติบโตในหน้าที่การงาน ]
พนักงานใน Shopee ไม่ได้มีแค่การเติบโตในแนวตั้งหรือการเลื่อนตำแหน่งเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีสิทธิ์ในการเติบโตในแนวขวาง ผ่านโครงการ ‘Shopee Internal Rotation Program’ ที่จะเปิดโอกาสให้พนักงานได้เรียนรู้งานของแผนกอื่นๆ เช่น ถ้าอยู่ในส่วนการตลาดมานานแล้วอยากลองฝั่ง Operation บ้างก็สามารถทำได้
โครงการนี้จะช่วยเพิ่มทักษะให้กับพนักงาน เพื่อเติบโตในสายงานอื่นหรือเพื่อทำงานร่วมกับคนในทีมได้ดียิ่งขึ้น เพราะมองเห็นรอยต่อของแต่ละฝ่ายว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไร และมีปัญหาระหว่างทางตรงไหน เช่น เวลาเสนอไอเดีย จากเดิมอาจจะเน้นแค่ความ Creative แต่เมื่อได้ลองไปทำฝั่ง Operation แล้ว เวลาเสนอไอเดียครั้งต่อไปก็อาจจะคำนึงด้วยว่าทำได้จริงหรือเปล่า
#ShopeeWelfare
เมื่อนึกถึงการทำงานในสตาร์ทอัพ สวัสดิการเป็นหนึ่งสิ่งที่หลายคนกลัว เพราะมักจะนำไปเปรียบเทียบกับความคิดที่ว่า บริษัทใหญ่มีความมั่นคงกว่าในเรื่องของสวัสดิการของพนักงาน อย่างไรก็ตามที่ Shopee มีสวัสดิการที่ไม่แพ้บริษัทยักษ์ใหญ่ไหนเลย ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยายาลและวันลา หรือสวัสดิการที่ดูแลพนักงานทำงานล่วงเวลา รวมถึงกิจกรรมด้านการพัฒนาตัวเองต่างๆ และการผ่อนคลาย
[ บริการนวดผ่อนคลาย ปาร์ตี้ช่วง Big Campaign ]
กิจกรรมต่างๆ ที่ยากจะเจอในบริษัทใหญ่ๆ แต่ทุกอย่างเป็นไปได้ที่นี่ นับเป็น Land of Creativity ที่เป็นทักษะที่สำคัญมากๆ ในยุคปัจจุบัน
ช่วงที่ Shopee มี Big Campaign จะมีจัดอีเวนต์คอนเสิร์ตหลังเลิกงานให้ทุกคนร่วมปาร์ตี้กัน เพื่อให้ทุกคนรู้สึกว่าวันนี้เป็นวันสำคัญของ Shopee ไม่ใช่แค่วันทำงานธรรมดาๆ อีกวันหนึ่ง ซึ่งวันนี้ยังเป็นโอกาสที่จะได้ทำความรู้จักกับคนต่างแผนกเพื่อการทำงานที่ราบรื่นขึ้นในอนาคตด้วย
[ Workshop Training ให้กับพนักงาน ]
การพัฒนาตัวเองเป็นสิ่งสำคัญมากๆ Shopee มองว่าการพัฒนาบุคคลากรของตัวเองจะทำให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ซึ่งทาง Shopee ก็มีทั้งการเชิญวิทยากรมาบรรยายให้ความรู้และมีการดูแลพิเศษไว้ให้สำหรับสมัครคอร์สเรียนออนไลน์ที่สนใจ
[ การดูแลพนักงานช่วงโควิด-19 ]
ทาง Shopee มีมาตรการแจกหน้ากากอนามัยให้พนักงาน 5 ชิ้นต่อเดือน นอกจากนี้ยังเป็นบริษัทแรกๆ ที่ประกาศให้ Work From Home ได้และมีการสนับสนุนด้านอุปกรณ์ไอทีต่างๆ ที่จำเป็นด้วยการอนุญาตให้นำอุปกรณ์ของบริษัทเอากลับบ้านได้ ทั้งยังมีการทำแบบสอบถามเพื่อให้ทางบริษัทรู้ว่าพนักงานมีปัญหาหรือขาดเหลืออะไรที่บริษัทพอจะช่วยเหลือได้บ้าง
1
#PlayhardWorkharder
“We Serve, We Run, We Adapt, We Commit and We Stay Humble” คือค่านิยมหลักของ Shopee
เมื่อพูดถึงวัฒนธรรมองค์กร ก็คงจะข้าม Core Values หรือค่านิยมหลักไปไม่ได้ เราจึงให้คนในองค์กรที่มีประสบการณ์ตรงมาเล่าให้ฟังกันว่า ค่านิยมเหล่านี้ดีและมีความสำคัญอย่างไร
[ We Serve ]
ที่มาของ ‘We serve’ มาจากการให้ความสำคัญกับลูกค้า เพราะลูกค้าคือผู้ที่ตัดสินคุณค่าของสินค้าและบริการ Shopee จึงมุ่งมั่นที่จะตอบสนองทุกความต้องการที่ยังไม่ได้รับการเติมเต็ม
[ We Run ]
‘We Run’ คือสิ่งที่ทำให้ Shopee แตกต่างจาก Corporate อื่นๆ เพราะธรรมชาติของธุรกิจ E-commerce ก็ต้องการความรวดเร็วเป็นทุนเดิม ค่านิยมนี้จะทำให้องค์กรไม่หยุดอยู่กับที่เพราะทุกคนอยากพัฒนาตัวเองเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย
[ We Adapt ]
คำว่า ‘We Adapt’ คือการไม่ยึดติด พร้อมปรับตัว เปลี่ยนแผนงานตามเทรนด์หรือปัจจัยภายนอกที่อยู่เหนือการควบคุม ถึงแม้โปรเจกต์นั้นจะได้รับการอนุมัติและเริ่มทำไปเยอะแล้วก็ตาม พอคิดว่าการเปลี่ยนแปลงคือความท้าทาย ก็จะไม่รู้สึกว่าที่ทำไปเสียเวลาเปล่า เพราะมีเป้าหมายหลักที่สำคัญกว่า คือการเป็นผู้นำเทรนด์
1
[ We Commit ]
Shopee ต้องการให้พนักงานทุกคนรู้จักคำว่า ‘We Commit’ เพราะการทำผลงานให้ออกมาดีที่สุดและเป็น Shopee ในเวอร์ชันที่ดีที่สุดคืองานที่ทุกคนได้รับมอบหมาย
[ We Stay Humble ]
สุดท้าย ‘We Stay Humble’ เพราะการถ่อมตนจะทำให้คนในองค์กรไม่คิดว่าตัวเองสมบูรณ์แบบ และเมื่อไม่คิดว่าตัวเองคือผู้ชนะ องค์กรก็จะพัฒนาจุดแข็งและปรับปรุงจุดด้อยเพื่อให้เติบโตอยู่เสมอ
แม้ว่าเสรีภาพจะเป็นสิ่งที่ถูกมอบให้พนักงานยุค Millennials ทุกคน อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะต้องแลกมาด้วยการทำงานที่หนักกว่าบริษัทอื่นๆ การที่บริษัทเน้นย้ำถึง ‘สปิริตของสตาร์ทอัพ’ ก็หมายความว่า บริษัทมีความคาดหวังจากตัวพนักงานที่สูงขึ้นเช่นกัน
คนทำสตาร์ทอัพจะต้องถึกและมีความอดทนสูง จะต้องว่องไวต่อการเปลี่ยนแปลง หมั่นพัฒนาตัวเองอยู่เสมอตามการเปลี่ยนแปลงของโลก รวมไปถึงการรู้ให้รอบ ไม่ใช่แค่ในส่วนงานที่ตัวเองรับผิดชอบ แต่รวมถึงเนื้องานของทั้งองค์กร
ที่ Shopee ไม่ว่าคุณจะจบอะไรมา หรือเรียนได้คะแนนมาดีแค่ไหน Culture การทำงานแบบ ‘สตาร์ทอัพ สปิริต’ จะเปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงศักยภาพของตัวเอง และช่วยค้นหาและดึงจุดแข็งของแต่ละคนออกมา เพื่อศักยภาพของตัวพนักงานเองและการเติบโตของบริษัท
ทั้งหมดนี้ก็คือทุกมุมของการทำงานที่ Shopee สำหรับคนที่กำลังมองหาความท้าทายและต้องการพัฒนาตัวเอง การเอาตัวเองไปสัมผัสการทำงานของโลกอนาคตในลักษณะ “Startup-like” Culture จะทำให้คุณได้เปิดโลกทัศน์และศักยภาพใหม่ๆ รวมถึงมีองค์ความรู้ที่รอบด้านมากขึ้น และแม้ว่าคุณจะย้ายงานไปสายงานไหน ก็จะเป็นที่ต้องการของบริษัทชั้นนำอย่างแน่นอน
ในปัจจุบันแม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงดำเนินอยู่ต่อไป อย่างไรก็ตาม Shopee ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน ก็ยังคงมุ่งมั่นมองหาสมาชิกใหม่ที่พร้อมจะมีก้าวที่ยิ่งใหญ่ไปด้วยกัน อีกหลายตำแหน่งงาน ทุกท่านสามารถดูรายละเอียดประกาศรับสมัครงานได้ทางเว็บไซต์ https://careers.shopee.co.th/jobs/ หรือทาง Facebook: Shopee Careers TH
#careerfact #advertorial
………………
Career Fact เพราะทุกอาชีพ... มีเรื่องราว
พูดคุยเรื่องการงาน ถกประเด็นต่างๆ แบ่งปันความรู้
เข้าร่วมกลุ่ม อู้งานมาคุย by Career Fact
โฆษณา