107 คดีในเวลา 3 เดือนสำหรับเหตุการณ์กราดยิง หรือ Mass shooting ที่เกิดขึ้นในอเมริกา
ถ้าให้เรียนตามตรงอาจต้องใช้คำว่า น่าสั่นสะท้านอย่างแท้จริง เพราะแค่คดีจ่าทหารคลั่งกราดยิงที่โคราชเมื่อต้นปีที่แล้วเพียงคดีเดียว คนไทยเราต่างตัดพ้อไปเรียบร้อยแล้วว่า เกิดอะไรขึ้นกับสังคมประเทศไทยจนทำให้ผู้คนต่างหวาดกลัวการไปเดินที่สาธารณะกันไปสักระยะ
แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชาวมะกันอยู่กันได้อย่างไร ปล่อยให้เกิดขึ้นได้อย่างไร ใช้ชีวิตท่ามกลางความหวาดกลัวหรือไม่? หรือหลาย ๆ คนอาจมองมันเป็นเรื่องปกติไปแล้ว? คำถามสำคัญที่สุดก็คือ นี่คือปัญหาที่ตัวบุคคล ข้อกฏหมาย หรือสภาพสังคมกันแน่?
ใน 107 คดีที่กล่าวข้างต้น หากอิงตามนิยามที่เอฟบีไอ (FBI) ให้ไว้เกี่ยวกับการกราดยิง (Mass Shooting) ก็คือ จะเป็นเหตุการณ์ที่ต้องมีผู้ถูกยิงและถึงขั้นเสียชีวิตในเหตุการณ์เดียวกัน 4 คนขึ้นไปอาจรวมถึงตัวผู้ก่อเหตุได้ด้วย และไม่นับคดีจำพวกใช้อาวุธปืนป้องกันตนเอง
ซึ่งหากนับเกณฑ์ตามนี้ ในจำนวน 107 คดีที่พบการใช้อาวุธปืนจนก่อให้เกิดผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตนั้น สามารถจำกัดลงมาได้เหลือเพียง 7 คดี
เดี๋ยวเรามาลองดูสรุปคดีทั้ง 7 คร่าว ๆ ว่ามีจุดเชื่อมโยง รวมถึงแรงจูงใจที่มีแนวโน้มจะเชื่อมกันได้ไหม
https://komonews.com/news/nation-world/police-at-least-9-wounded-in-south-side-chicago-shooting
1. 9 มกราคม (ชิคาโก้ อิลลินอยส์): ชายอายุ 32 ปีอุกอาจกราดยิงกลางเมืองชิคาโก้ เสียชีวิต 5 บาดเจ็บ 2 ก่อนถูกวิสามัญฆาตกรรมโดยเจ้าหน้าที่
- ทราบแรงจูงใจเบื้องต้น เกิดจากความเชื่อเรื่องซาตานที่อยู่ในคราบมนุษย์ จึงต้องทำการชำระล้างขจัดให้หมดสิ้น
2. 24 มกราคม (แอลบูเคอร์คี นิวเม็กซิโก): ชายคนหนึ่งทำการสังหารอดีตภรรยาตนเอง และคนอื่น ๆ รวมอีก 3 คน นอกจากนี้เจ้าตัวยังถูกกล่าวหาว่าเป็นมือปืนในคดีฆาตกรรมที่ นิวเจอร์ซีย์ก่อนหน้านี้อีกเช่นกัน
- ไม่ทราบแรงจูงใจ คาดว่าอาจเกิดจากปัญหาทางจิตหรือการชื่นชอบความรุนแรง
3. 24 มกราคม (อินเดียนาโพลิส อินเดียนา): เกิดเหตุน่าเศร้าสลด เมื่อเด็กหนุ่มวัย 17 ปีทำการสังหารหมู่ครอบครัวตนเอง 6 คนรวมเด็กในท้องของหนึ่งในญาติผู้เสียชีวิต น้องชายคนเดียวที่ถูกยิงแต่รอดชีวิต ได้เปิดเผยทีหลังว่า คำพูดสุดท้ายของพ่อก่อนถูกลูกชายยิงคือ พ่อรักลูก (I love you.)
- แรงจูงใจไม่ชัดเจน อาจเกิดจากหลาย ๆ ปัจจัยมารวมกันทั้งปัญหาทางด้านจิตใจ ความเก็บกดและหาที่ระบายไม่ได้ รวมถึงความต้องการหลุดพ้นจากห่วงโซ่แบบมนุษย์ปกติ
4. 2 กุมภาพันธ์ (มัสโคกี โอกลาโฮมา): มีผู้เสียชีวิต 6 คน เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 5 คน ในคดีฆาตกรรมที่อาวุธที่ใช้คือปืนที่เก็บไว้ภายในบ้าน และเหตุเกิดก็เกิดขึ้นภายในบ้าน รวบตัวผู้ต้องสงสัยได้ คือหนึ่งในผู้อยู่อาศัยในบ้านหลังนี้
- ไม่เปิดเผยถึงแรงจูงใจ
5. 13 มีนาคม (อินเดียนาโพลิส อินเดียนา): เกิดเหตุเขย่าขวัญที่เมืองนี้อีกครั้งเป็นรอบที่ 2 ของปีกับคดีฆาตกรรมในครัวเรือน โดยพบผู้เสียชีวิต 4 คน ฆาตกรคือ หนุ่มวัย 25 ที่มีความสัมพันธ์กับหนึ่งในผู้เสียชีวิตของบ้านนี้
- ทราบแรงจูงใจคือ การถกเถียงกันในเรื่องเงินช่วยเหลือจากทางรัฐบาลที่แจกให้กับประชาชน (Stimulus check) คาดได้ผลลัพธ์ที่ไม่พอใจเลยคิดสั้น พลั้งมือสังหารหมู่
6. 16 มีนาคม (แอตแลนตา จอร์เจีย): เกิดเหตุคนร้ายกราดยิงที่ร้านสปา 3 แห่ง สังเวยผู้เสียชีวิต 8 ศพ เป็นหญิงเชื้อสายเอเชีย 6 ราย
- ยังไม่ทราบแรงจูงใจแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกี่ยวกับความเกลียดชังคนเชื้อสายเอเชีย
7. 22 มีนาคม (โบลเดอร์ โคโลราโด): วัยรุ่นเชื้อสายมุสลิมวัย 21 ปีก่อคดีสะเทือนขวัญกราดยิงที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 10 รายด้วยกัน
- แรงจูงใจอาจเกิดจากแนวคิดต่อต้านการเหยียดชาวมุสลิม และปัญหาการเข้าสังคม
https://delauro.house.gov/issues/gun-safety
ไล่เรียงดูเหตุการณ์ทั้งหมดข้างต้นโดยที่ยังไม่ต้องไปไล่เปิดสถิติของหลาย ๆ ปีที่ผ่านมาก็สามารถสรุปภาพรวมสภาพสังคมของอเมริกาได้มากพอสมควรทีเดียว
หลาย ๆ ครั้งเมื่อเรามองแค่เพียงพื้นผิว แน่นอนล่ะว่ามันคือปัญหาเชิงบุคคลอย่างชัดเจน เพราะแต่ละคนต่างก็มีแรงจูงใจส่วนตัวที่คอยเป็นปีศาจสนับสนุนอยู่ในหัวให้ก่อคดีฆาตกรรมแบบนี้อยู่ร่ำไป ไม่จบไม่สิ้น
แต่หากเราลองพิจารณาดูดี ๆ และเทียบกับบริบทสังคมที่อื่น หรือแม้กระทั่งไทยเรา อเมริกาเป็นประเทศที่ง่ายและสะดวกในการหาซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์มาเก็บไว้ในครอบครองเป็นอย่างยิ่ง เผลอ ๆ ง่ายยิ่งกว่าการหาเงินมาใช้อีกเสียด้วยซ้ำ เพราะในเมื่อกฏหมายแต่ละรัฐรองรับและเอื้อกับนายทุนทั้งหลาย ใครบ้างล่ะที่จะไม่อยากไปซื้อมาเก็บไว้ครอบครองเพื่อใช้ในการป้องกันตัวเอง หรือความชื่นชอบส่วนตัว?
ซึ่งการเข้าถึงที่ง่ายจนเหมือนเป็นไอเท็มที่ต้องมีทุกบ้านนี่แหละคือดาบสองคมที่ชัดเจน แรกเริ่มอาจมีเพื่อไว้ใช้ป้องกันตนเองจากภัยร้าย แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่า วันดีคืนดีจะมีคนในครอบครัว หรือแม้กระทั่งเราเองหรือเปล่า ที่ไม่ได้อยู่ในสภาวการณ์ทางสมองและจิตใจที่ปกติ อารมณ์ชั่ววูบ หรือแม้แต่จุดพลิกผันนิดเดียวในชีวิตอาจส่งผลร้ายแรงย้อนทางกลับมาได้ทุกเมื่อ หากมีอาวุธที่ชื่อว่าปืนอยู่ภายในบ้าน
โอเคแหละว่า หลายคนอ้างว่ามันไม่ใช่สาเหตุหลัก ผู้คนล้มตายจากอุบัติการณ์อื่น ๆ เยอะกว่าถมไป ถึงจะห้ามไม่ให้ซื้อยังไง เดี๋ยวนี้สั่งออนไลน์ หรือตามตลาดมืดทั้งหลายหาซื้อง่ายนิดเดียวแล้ว
แต่คนเหล่านั้นอาจลืมไปว่า นี่คือปัญหาที่กัดกินสภาพจิตใจผู้คนอเมริกันมาช้านานหลายสิบปี และไม่มีทีท่าว่าจะหมดไปในเร็ววันอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นการเริ่มเดินหมากเปลี่ยนแปลงตัวบทกฏหมายเกี่ยวกับการซื้อ-ขายปืนย่อมเป็นก้าวแรกของความเปลี่ยนแปลงไปสู่สัญญาณที่ดีกว่าไม่ใช่หรอกหรือ เมื่อลดการเข้าถึงของผู้คน สัดส่วนปริมาณเมื่อตีเป็นวงกล้างย่อมลดลงอย่างแน่นอน
อย่างน้อย ๆ มันก็เป็นการทำอะไรบ้าง ดีกว่าปล่อยให้นิ่งเฉยเป็นโรคระบาดที่ไม่มียารักษา ยกเว้นเสียจากว่าเหล่านายทุนและผู้มีอำนาจทั้งหลายต่างพึงพอใจกับเม็ดเงินที่ตัวเองกอบโกยได้และเลือกเอาหูไปนา เอาตาไปไร่แบบนี้ต่อไป
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
