24 มี.ค. 2021 เวลา 09:03 • กีฬา
Football Maverick
ชาร์ลี จอร์จ เด็กท้องถิ่นสู่ตำนานอาร์เซนอล
โดย Ploy Honisz
สังเกตกันบ้างไหมว่า นักฟุตบอลขวัญใจกองเชียร์ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่เกิดในเมืองนั้น และเล่นให้กับสโมสรท้องถิ่น เช่น สตีเวน เจอร์ราร์ด กับลิเวอร์พูล, ฟรานเชสโก ต็อตติ กับโรมา, พอล สโคลส์ กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ความรู้สึกที่ว่าเขาคือหนึ่งในพวกเรา หรือ One of our own ทำให้แฟนบอลเอาใจช่วย และภูมิใจที่เด็กท้องถิ่นเล่นให้ทีมที่พวกเขารัก เช่นกันกับ ชาร์ลี เฟรเดอริก จอร์จ ที่กลายเป็นตำนานเล่าขานของอาร์เซนอล
บ้านของ ชาร์ลี จอร์จ อยู่ห่างจากสนามไฮบิวรี สนามเหย้าของปืนใหญ่แค่ 10 นาที ทั้งบ้านเป็นกองเชียร์อาร์เซนอลพันธุ์แท้ ครั้งแรกที่ชาร์ลีได้ไปเหยียบไฮบิวรีก็ตอนเขาอายุ 5 ขวบ เมื่อพี่เขยพาเขาไปดูเกม จากนั้นมาเด็กชายชาร์ลีก็หลงใหลในฟุตบอลและหลงรักอาร์เซนอล ชีวิตวัยเด็กของชาร์ลีวนเวียนอยู่กับการเตะฟุตบอลและไปเชียร์อาร์เซนอลลงสนาม แต่ด้วยนิสัยที่ชอบท้าตีท้าต่อยทำให้ถูกไล่ออกจากโรงเรียนมาแล้ว สุดท้ายเจ้าตัวได้เล่นฟุตบอลให้กับทีมโรงเรียนอิสลิงตัน จนในเดือนพฤษภาคม 1966 จอร์จ เมล แมวมองของทีมปืนใหญ่มาเห็นฟอร์มการเล่นของชาร์ลี และชวนเขาให้เข้าร่วมซ้อมกับทีมฝึกหัดของสโมสรในทุกเย็นวันจันทร์และพฤหัสบดี ซึ่งมีหรือชาร์ลีวัย 16 ปีจะปฏิเสธ เขาตกปากรับคำทันที
เช่นกันกับนักบอลหัวขบถคนอื่นๆ อาการไม่เชื่อฟังเป็นสิ่งที่ติดตัวชาร์ลีมาตั้งแต่เด็ก ยามที่เขาซ้อมกับทีมสำรองของอาร์เซนอล ถ้าวันไหนปืนใหญ่มีคิวลงสนาม ชาร์ลีมักจะอ้างว่าป่วย ขาดซ้อม เพื่อตามไปเชียร์อาร์เซนอล หลังจากซ้อมกับทีมชุดเล็กได้ 2 ปี และอายุครบ 18 ปีเต็ม ชาร์ลีก็เซ็นสัญญาเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับอาร์เซนอล หลังจากนั้นไม่กี่เดือนต่อมา เขาก็ลงสนามในชุดแดงขาวให้กับปืนใหญ่ในเกมที่พบกับเอฟเวอร์ตัน ในฤดูกาล 1969-70 ซึ่งเกมนั้นทอฟฟี่สีน้ำเงินเอาชนะไปได้ แม้จะหงุดหงิดที่แพ้ แต่การได้ลงเล่นในไฮบิวรีเป็นครั้งแรกมันน่าตื่นเต้นกว่า “สำหรับผม การได้ลงไปวิ่งในไฮบิวรี คุณไม่มีทางลืมได้เลย การเป็นเด็กท้องถิ่นและเล่นให้ทีมแถวบ้าน ทั้งเพื่อนและทุกคนที่สนับสนุนผมจากอัฒจันทร์ มันสุดยอดมากๆ” ชาร์ลีย้อนความหลัง
ด้วยความที่ขาดระเบียบวินัย ทำให้ เบอร์ตี มี ผู้จัดการทีมอาร์เซนอลในยุคนั้นจำต้องดร็อปชาร์ลีให้ไปอยู่กับทีมสำรองบ่อยๆ บางครั้งก็ยาวนานหลายสัปดาห์ แต่เพราะเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์ นายใหญ่ก็จำต้องให้ชาร์ลีกลับมาลงสนามอยู่เสมอ และเขาก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมทุกครั้ง “หลังเกม เราจะไปดื่มกันที่ผับ แล้วผมจะเดินไปขึ้นรถประจำทางกลับบ้าน วันไหนทีมชนะก็จะดีหน่อย แต่ถ้าแพ้ ผมก็จะหาหนังสือพิมพ์มาปิดหน้าเอาไว้ พอถึงบ้านก็ลงอ่างอาบน้ำ พร้อมชาร้อนๆ พายหมู และสูบบุหรี่”
ด้วยความบังเอิญ ชาร์ลี จอร์จ เล่นฟุตบอลในยุคทองของฟุตบอลอังกฤษ ทีวีจอสีเริ่มเป็นที่นิยม และการแข่งขันถูกถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ให้คนนับล้านได้ชมเกมที่บ้าน นั่นทำให้สถานะของนักฟุตบอลเปลี่ยนไป จากที่พอมีคนรู้จักก็กลายเป็นคนมีชื่อเสียง ได้ออกโทรทัศน์ เช่นกันกับนักฟุตบอลชื่อดังคนอื่นๆ ในยุคนั้น คือต้องไว้ผมยาวตามแฟชั่นนักร้องที่มีบทบาทต่อสังคมมากในยุค 70 “ผมเล่นฟุตบอลด้วยหัว ไม่ใช่ด้วยทรงผม” ชาร์ลีเอ่ยถึงสาเหตุของการไว้ผมยาว
ต่างจากนักฟุตบอลคนอื่นๆ ชาร์ลีไม่แยแสกับชื่อเสียง เขาแต่งงานตอนอายุ 19 ปี กับคนรักในวัยเด็ก บ่อยครั้งที่ออกไปดื่มตามผับ แม้ว่าจะมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาเข้าหา แต่ชาร์ลีก็เลือกที่จะกลับบ้านเพื่อไปหาภรรยา ความมั่นใจจนบางครั้งหยิ่งทะนงทำให้หลายครั้งเขามีปากเสียงกับผู้จัดการทีม เพื่อนร่วมทีม ปะทะกับคู่ต่อสู้ แฟนบอลในสนาม รวมไปถึงผู้ตัดสิน ด้วยนิสัยพร้อมบวก ทำให้ตลอดอาชีพ ชาร์ลีติดทีมชาติอังกฤษเพียงหนเดียวเท่านั้น
เพราะบาดเจ็บข้อเท้าหักในตอนต้นฤดูกาล 1970-71 ทำให้ชาร์ลีอดลงสนามหลายเดือน พอกลับมาตำแหน่งกองหน้าของเขาก็ถูก เรย์ เคนเนดี ยึดไป ชาร์ลีเลยถูกบังคับให้ลงมาเล่นกองกลางตัวรุกแทน ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่เขาทำได้ดี จบฤดูกาลนั้นชาร์ลีทำไป 15 ประตู และช่วยพาทีมคว้าดับเบิลแชมป์ครั้งแรกของอาร์เซนอล ได้ทั้งแชมป์บอลลีกและเอฟเอ คัพ
โดยนัดที่เหล่ากันเนอร์ส์จดจำ ชาร์ลี จอร์จ ได้แม่นยำที่สุด คือนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลเอฟเอ คัพ กับลิเวอร์พูล ของ บิลล์ แชงคลีย์ ในเวลา 90 นาทีเสมอกัน 0-0 ประตู เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ เหลืออีกไม่ถึง 10 นาทีสุดท้าย เกมเสมอกัน 1-1 ประตู ก่อนที่ ชาร์ลี จอร์จ จะยิงประตูจากระยะ 20 หลา หมดปัญญาที่ เรย์ คลีเมนซ์ ผู้รักษาประตูในตอนนั้นจะเซฟได้ ซึ่งทำให้จบเกมอาร์เซนอลเอาชนะหงส์แดงไปได้ 2-1 ประตู ท่าดีใจของชาร์ลีหลังจากนั้นกลายเป็นหนึ่งในภาพคลาสสิกของฟุตบอลถ้วยเก่าแก่ที่สุดของโลก
ฤดูกาลต่อมาชาร์ลีถูกทำโทษสองครั้ง จากการเอาหัวโขก เควิน คีแกน ในเกมที่เจอกับลิเวอร์พูล และอีกครั้งตอนที่เขาวิ่งไปที่เส้นข้างสนามชูสองนิ้ว แสดงสัญลักษณ์ของอวัยวะเพศใส่แฟนบอลดาร์บี้หลังจากที่ยิงประตูได้ ความสัมพันธ์ของชาร์ลีกับอาร์เซนอลไม่สู้ดีนัก สุดท้ายเขาก็ย้ายไปดาร์บี้ เคาน์ตี้ในปี 1975 จริงๆ แล้วเจ้าตัวอยากย้ายไปสเปอร์สมากกว่า หลังจากที่เขาทำให้แฟนบอลแกะเขาเหล็กหลงรักได้ ชาร์ลี จอร์จ ก็ไปค้าแข้งกับอีกหลายทีมแต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ไปเล่นที่สหรัฐอเมริกาก็เคย สุดท้ายเจ้าตัวก็แขวนสตั๊ดในปี 1983 และไปเปิดผับ ตอนนี้เขาทำหน้าที่ดูแลส่วนต้อนรับให้กับอาร์เซนอล
1
เช่นกันกับมาเวอริกคนอื่นๆ นิสัยไม่ยอมคนและพร้อมปะทะทำให้ ชาร์ลี จอร์จ ทำได้แค่เกือบเป็นสุดยอดนักฟุตบอล แต่สำหรับแฟนอาร์เซนอลแล้ว เรื่องราวของ ชาร์ลี จอร์จ กลายเป็นตำนาน
#อาร์เซนอล #ข่าวบอล #ผลฟุตบอล #ผลบอล #ฟุตบอล #Football #Soccer #PlayNowThailand #KhelNowThailand

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา