1 เม.ย. 2021 เวลา 03:19 • กีฬา
การยืดเพื่อแก้ อาการตึง
1
หลายๆคนมีอาการปวดตามจุดต่างๆที่ไม่เหมือนกันจากการใช้ชีวิต การทำงาน
ไม่ว่าจะเป็น
- ปวดคอ
- ปวดบ่า
- ปวดไหล่
- ปวดหลัง
- ปวดขา
- ปวดใจ !!
ทุกอย่างที่บอกมานี้ สามารถแก้ได้ด้วยการยืดกล้ามเนื้อ
การทำงานของการยืดถ้าจะอธิบายง่ายๆ คือการทำตรงกันข้ามกับการ
หด ของกล้ามเนื้อ
เพราะถ้าเรางอแขน กล้ามเนื้อของเราจะหดและบีบเข้าหากัน ดังนั้น
การยืดคือการทำตรงกันข้ามกับการใช้งาน
#การยืดกล้ามเนื้อในร่างกายไม่มีจุดที่ตายตัวว่าต้องท่านั้นท่านี้ เพราะเรายืดตาม function
ของการขยับร่างกายนั่นเอง แปลว่าเราสามารถคิดท่าขึ้นมาเองได้
ถ้าเรารู้ว่ากล้ามเนื้อมัดนั้นๆจุดเหยียดคือ จุดไหน
ทีนี้ ลองมาดูกันว่ากล้ามเนื้อมัดไหนต้องยืดอย่างไร
#กล้ามเนื้อหลังที่เรียกกันว่า QL ที่อยู่ตรงเอวด้านหลังของเรา
วิธียืดคือ ให้เราเอียงลำตัวไปด้านตรงข้ามให้ได้มากที่สุด และทำค้างไว้ 15-30 วินาที
#กล้ามเนื้อหลังขา
วิธียืด คือ เหยียดขาให้ตรง และยกปลายเท้าขึ้น ค่อยโน้มตัว เชิดหน้าอกให้หลังตรง และพยายามเอามือแตะหน้าแข้ง ท่านี้เราไม่ต้องฝืนให้จับถ้านิ้วเท้าครับเพราะถ้าฝืนหลังเราอาจจะค่อมได้ ให้เราหลังตรงที่สุดครับ
#กล้ามเนื้อ บ่าและคอ
วิธียืด คือ ให้เรากดไหล่ข้างที่เราจะยืดลง แล้วนำมืออีกข้างมาจับหัว ค่อยๆดันหัวของเรามาฝั่งตรงข้าม ท่านี้จะรู้สึกเลยว่า คอและบ่าของเราจะตึงมากๆ ท่านี้อยากให้ทำบ่อยๆเป็นประจำ เพราะว่าเรานั่งทำงานออฟฟิศทั้งวัน บ่าและคอเราจะตึงง่ายมากๆ
และสำหรับใครที่คอยื่น ซึ่งทำให้เราเสีย Posture มากๆ ท่าที่แนะนำเลยก็คือ ใช้มือเรา กดคางเราเป็นแนวตรง (ไม่ใช่การกดลงข้างล่างนะครับ) คล้ายๆการเบ่งเหนียง เราจะรู้สึกเลยว่าตึงมากๆที่คอด้านหลังของเราถ้าเราทำถูกต้อง ท่านนี้ชื่อท่า Chin in คือการ เก็บคาง ท่านรี้จะทำให้เราคอตรงขึ้น บุคลิกภาพดีขึ้นเยอะเลย
สำหรับการยืดกล้ามเนื้อไม่มีถูกไม่มีผิด แต่เราแค่ต้องเข้าใจกล้ามเนื้อของเรา และยืดให้ถูกแนวของกล้ามเนื้อ การยืดกล้ามเนื้อ ไม่ใช่เพื่อออกกำลังกายอย่างเดียว แต่เพื่อการใช้ชีวิตประจำวันให้ดีขึ้นด้วยครับ
โฆษณา